เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนากรีฑาโลก ประจำปี 2565 หรือ WORLD ATHLETICS GLOBAL RUNNING CONFERENCE 2022 และพิธีแถลงความพร้อมการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2022" ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะผู้บริหารองค์กรกีฬาของไทยและต่างประเทศ เข้าร่วม
สำหรับการประชุมสัมมนากรีฑาโลกครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-3 ธันวาคม ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน มีผู้จัดงานวิ่งมาราธอนชั้นนำจากทั่วโลก มาร่วมอย่างคับคั่ง ขณะที่ การแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก" ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จำนวน 8 รางวัล จะจัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ เวลา 02.00-09.30 น. จุดปล่อยตัว ณ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก และจุดเส้นชัย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน คาดว่าจะมีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าร่วมงานมากกว่า 25,000 คน นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาร่วมวิ่งในระยะ 21 กม.อีกด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า ในนามของรัฐบาล ต้องขอขอบคุณสมาคมกรีฑาโลก ที่เชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการจัดงานกรีฑาระดับโลก จำนวน 3 งาน ในปีนี้ ได้แก่ การแข่งขันวิ่งเทรลภูเขาชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ที่ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 3-6 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมาก สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 450 ล้านบาท, การประชุมสัมมนากรีฑาโลก ประจำปี 2565 และการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก "อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2022" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาคมกรีฑาโลก ด้วยดีเสมอมา จนปัจจุบันถือว่าเป็น 1 ใน 5 ของมาราธอนในเมืองหลวง ที่จัดได้ดีที่สุดในทวีปเอเชีย มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมมากกว่า 25,000 คน ตนขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนให้รายการนี้ไปอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน จะเป็นมาราธอนหลัก 1 ใน 5 ของทวีปเอเชีย ตลอดไป ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและจะผลักดันอย่างเต็มที่
ด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวว่า ภาพรวมของการจัดงานใหญ่ทั้ง 3 รายการ ถือว่าประสบความสำเร็จงดงาม คาดว่าก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 950 ล้านบาท นอกจากนี้ ประเทศไทย ยังได้รับการยอมรับถึงความพร้อมและศักยภาพของการจัดงานที่ได้มาตรฐานในระดับ World Event อีกด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ จะมอบให้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และผู้จัดงานไทยแลนด์ไตรลีก ร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดมาราธอนชิงแชมป์โลก ในปี 2567-68 ซึ่งเท่าที่ได้หารือกับสมาคมกรีฑาโลก เห็นว่าไทยมีโอกาสสูงที่จะได้รับการพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพ หากเราทำสำเร็จจะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อวงการกีฬากรีฑาของประเทศ ทั้งด้านชื่อเสียงและการสร้างรายได้ เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน.