ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ คืนวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เป็นการแข่งขันในแมตช์ที่สาม เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม ซี ณ สเตดียม 974 ขุนพล "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา เต็งสองประจำทัวร์นาเมนต์ พบ โปแลนด์ ยอดทีมจากทวีปยุโรป โดยเกมนี้ถ้า อาร์เจนตินา เก็บชัยได้ จะการันตีการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ทันที แต่หากเสมอ จะต้องไปลุ้นผลของอีกคู่ และถ้าพลาดท่าปราชัยก็จะกระเด็นตกรอบทันที แข่งขันในเวลา 02.00น. ตามเวลาประเทศไทย ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
อาร์เจนตินา ภายใต้การคุมทีมของโค้ชหนุ่ม ลิโอเนล สกาโลนี เกมที่แล้วเก็บชัยเหนือ เม็กซิโก 2-0 จากลูกยิงสุดสวยของ ลิโอเนล เมสซี และเอ็นโซ เฟร์นันเดส ต่ออายุการลุ้นเข้ารอบต่อไปมาจนถึงเกมสุดท้าย จริงๆแล้ว "ฟ้าขาว" ชุดนี้ดูเหมือนจะพร้อมรบในทุกตำแหน่ง แต่ยังขาดความเฉียบคมในการพังตาข่ายคู่แข่ง อย่างในเกมที่แล้วเกมรุกต้องพึ่งพาความสุดยอดของ ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม กว่าจะเบิกสกอร์ลูกแรกได้ช่วงครึ่งเวลาหลัง
เกมนี้คาดว่า ลิโอเนล สกาโลนี อาจมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นในบางตำแหน่งโดยเฉพาะเกมรุก แต่ยังคงนำทัพมาโดย ลิโอเนล เมสซี ที่จะเป็นศูนย์กลางในเกมบุกของทีม ขณะที่กองหน้าตัวเป้า เลาตาโร มาร์ติเนซ ต้องแย่งตัวจริงกับ ฆูเลียน อัลบาเรซ ส่วน เอ็นโซ เฟร์นันเดซ ที่ยิงประตูปิดกล่องในเกมก่อนอาจได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก และอังเกล ดิ มาเรีย แม้จะโดนวิจารณ์ฟอร์มการเล่นอยู่พอสมควร น่าจะยังได้รับความไว้วางใจส่งลงปั้นเกมรุกทางฝั่งขวา ด้านแนวรับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ประสานงานกับ นิโคลัส โอตาเมนดี ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งทั้งคู่ก็น่าจะจับคู่ยืนเป็นเซ็นเตอร์ต่อ
ทางฝั่ง โปแลนด์ ของกุนซือเชสโลว์ มิชนีวิซ เกมที่แล้วหืดจับเป็นอย่างยิ่งกว่าจะเอาชนะซาอุดิอาระเบีย 2-0 โดยพวกเขาปล่อยให้ตัวแทนจากทวีปเอเชียได้ครอบครองบอลเพื่อทำเกมรุกเข้าใส่มากกว่า 60 เปอร์เซนต์ และถูกส่องมากถึง 16 ครั้ง แต่ยังโชคดีที่คู่แข่งไม่เฉียบคมพอ จนมาอาศัยเกมโต้กลับทำ 2 ประตูเอาชนะไปได้แบบหวุดหวิด ทำให้พวกเขามี 4 แต้ม จาก 2 นัด เกมนี้ขอแค่เพียงเก็บผลเสมอจาก อาร์เจนตินา ให้ได้ ก็เพียงพอต่อการผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่ถ้าพ่ายแพ้ต้องไปลุ้นผลการแข่งขันของอีกหนึ่งคู่
ในส่วนของผู้เล่น เกมนี้ไม่มีใครติดโทษแบน หรือได้รับบาดเจ็บ ทุกคนพร้อมเป็นตัวเลือกให้เฮดโค้ชส่งลงสนามทั้งสิ้น เกมรุกยังคงนำมาโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่เบิกสกอร์แรกของตัวเองในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ในเกมที่แล้วจากการยิงใส่ซาอุดิอาระเบีย โดยจะประสานงานเกมรุกร่วมกับ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค โดยมี ปิโอเตอร์ ซีลินสกี คอยปั้นเกม ขณะที่แผงหลัง คามิล กลิค แนวรับจอมเก๋ายังคงเป็นแกนหลัก
- ผู้เล่นที่น่าจับตามอง
เกมรุกของอาร์เจนตินา ยังคงพึ่งพา ลิโอเนล เมสซี อยู่เสมอ ซึ่งก็ถือว่าโชคดีที่ "ฟ้าขาว" ในชุดนี้ นักเตะหลายๆคนเล่นได้เข้าขากัลซูเปอร์สตาร์จากเปแอสเช โดยเจ้าตัวไม่เกี่ยงว่าจะต้องยิงประตูด้วยตัวเอง หรือจ่ายให้เพื่อนทำสกอร์ แต่แน่นอนว่าเขาคือหัวใจสำคัญของทีม
ด้าน โปแลนด์ ผู้เล่นที่ถูกจับตามองที่สุดหนีไม่พ้น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี นักเตะที่มีสถิติการถล่มประตูในระดับสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่เพิ่งจะยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ให้โปแลนด์ได้ เกมนี้เขาก็หวังจะอาศัยทีเด็ดเล่นงานแผงหลังอาร์เจนตินา พาทีมตีตั๋วรอบน็อกเอาท์ให้ได้
- สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม
คู่นี้เคยปะทะกันมาทั้งหมด 3 ครั้่ง เป็น โปแลนด์ ที่เก็บชัยไปได้ 2 ครั้ง อาร์เจนตินา ชนะ 1 ครั้ง โดยทั้งคู่เคยดวลแข้งกันในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ปี 1974 โปแลนด์ เอาชนะไปได้ ส่วนในปี 1978 เป็นอาร์เจนตินา ที่เป็นฝ่ายเก็บชัย และล่าสุดคือเกมอุ่นเครื่องปี 2011 ยอดทีมจากยุโรปเฉือนไป 2-1
แน่นอนว่าขุนพล"ฟ้าขาว" คงกดดันพอสมควร เมื่อเห็นทีมยักษ์ใหญ่หลายทีมได้ตั๋วรอบ 16 ทีมกันแล้ว ทั้งบราซิล,ฝรั่งเศส,โปรตุเกส, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์ ขณะที่ตัวฟ้าขาวเองยังลุ้น50-50 ว่าจะได้ตามเพื่อนๆไปหรือไม่
เกมนี้ "ฟ้าขาว"อาร์เจนตินา มีขุมกำลังที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน และเงื่อนไขที่พวกเขาต้องเก็บชัยให้ได้โดยไม่ต้องไปลุ้นผลของอีกคู่ น่าจะทำให้มีแรงฮึดในการเฉือนชนะแบบหวุดหวิด ที่สำคัญคู่แข่งที่เป็นมหาอำนาจลูกหนังโลก ทั้งบราซิล,ฝรั่งเศส,โปรตุเกส,อังกฤษ,เนเธอร์แลนด์ รอดตัวเข้า 16 ทีมไปแล้ว อาร์เจนฯคงไม่ยอมเสียหน้าต้องตามไปเตะในรอบ 16 ทีมได้แน่นอน
- คู่อื่นๆ ในวันเดียวกัน
กลุ่ม D ตูนีเซีย พบ ฝรั่งเศส เวลา 22.00น. ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด เกมนี้ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้ว และแทบจะการันตีการเป็นแชมป์กลุ่มแล้วด้วย ทำให้อาจมีการโรเตชั่นหมุนเวียนนักเตะในบางตำแหน่ง ดีไม่ดี ตูนีเซีย ที่ยังมีลุ้นเข้ารอบ อาจสร้างเซอร์ไพรส์ได้
กลุ่ม D ออสเตรเลีย พบ เดนมาร์ก เวลา 22.00น. ช่อง NBT และทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด คู่นี้เดนมาร์กไฟต์บังคับว่าต้องเก็บชัยชนะให้ได้สถานเดียว ซึ่งดูแล้วพวกเขามีตัวผู้เล่นที่ชื่อชั้นเหนือกว่า และออสเตรเลียก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก "โคนม" น่าจะพอเฉือนชนะไปได้
กลุ่ม C ซาอุดิอาระเบีย พบ เม็กซิโก เวลา 02.00น. ช่อง MONO 29 และทรูสปอร์ต ถ่ายทอดสด ทั้งสองทีมยังมีลุ้นเข้ารอบด้วยทั้งคู่ แต่ทีม "จังโก้" ดูจะกดดันกว่าเพราะต้องการผลชนะเพียงสถานเดียว ดูแล้วพวกเขาอาจลนลนกันไปเอง และซาอุดิอาระเบียก็ไม่ใช่หมูให้ตบอีกแล้ว มีสิทธิ์ออกผลเสมอ