การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น มีการพลิกล็อกเกิดขึ้นทุกวัน สำหรับคืนนี้ วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายนนี้ ยังเป็นการแข่งขันนัดที่สองรอบแบ่งกลุ่ม เกมที่น่าสนใจในกลุ่ม G ขุนพล "แซมบ้า" ทีมชาติบราซิล จะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ยอดทีมจากทวีปยุโรป ฟาดแข้งเวลา 23.00น. ตามเวลาประเทศไทย ช่องวัน 31 และทรูสปอร์ต 2 ช่อง 667ถ่ายทอดสด
- สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
บราซิล ภายใต้การคุมทีมของ ติเต ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมแรก เอาชนะ เซอร์เบีย 2-0 จากการเหมาสองประตูของ ริชาร์ลิซอน ศูนย์หน้าจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ อย่างไรก็ตามพวกเขาเจอปัญหาอยู่พอสมควรเมื่อ เนย์มาร์ ซูเปอร์สตาร์อันดับหนึ่งของทีมได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าขวาจากการโดนคู่แข่งเข้าสกัดหนักหน่วงหลายครั้งในเกมแรก และได้รับการการันตีจากทีมแพทย์แล้วว่าเขาจะไม่มีชื่อในอีก 2 นัดรอบแบ่งกลุ่มเป็นที่แน่นอน ซึ่งต้องหวังว่าเจ้าตัวจะสลัดเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้ในรอบน็อกเอาท์เป็นต้นไป
สำหรับเกมพบ สวิตเซอร์แลนด์ ถึงแม้จะไม่มีซูเปอร์สตาร์จากทีมเปแอสเช แต่บราซิลชุดนี้ยังถือว่าพร้อมรบในทุกขุมกำลัง บรูโน่ กิมาไรส์ อาจได้รับโอกาสออกสตาร์ทในตำแหน่งจอมทัพแทนที่ของ เนย์มาร์ หรือกุนซือ อย่าง ติเต อาจดัน ลูคัส ปาเกตา ขึ้นมาเล่นในตำแหน่งนี้ และส่ง เฟร็ด มาคุมแดนกลางร่วมกับคาเซมิโร
ขณะที่นักเตะในเกมรุก ริชาร์ลิซอน ที่เหมาสองประตูในเกมแรก จะได้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับ วินิซิอุส จูเนียร์ ปีกดาวรุ่งวัย 22 ปีที่ยึดริมเส้นฝั่งซ้าย ในส่วนของตัวรุกทางฝั่งขวา ราฟินญา ฟอร์มไม่ดีเท่าไหร่ในเกมแรก มีโอกาสหลายครั้งแต่ทำประตูไม่ได้ โดยทัพแซมบ้ายังมีตัวเลือกทางฝั่งนี้อีกหลายคน ไม่ว่าจะเป็น แอนโทนี, โรดรีโก หรือกาเบรียล เชซุส
ทางฝั่ง สวิตเซอร์แลนด์ ของกุนซือ มูรัต ยาคิน เกมที่แล้วเฉือนเอาชนะ แคเมอรูน มาแบบหืดจับ 1-0 จากประตูชัยของ บรีล เอ็มโบโล่ ในช่วงต้นครึ่งหลัง และเจ้าตัวจะยังคงเป็นแกนหลักในเกมพบบราซิล โดยมี เซอร์ดาน ชากิรี, รูเบน วากัส เป็นตัวเลือกริมเส้น ขณะที่ กรานิต ชากา ยังคงเป็นแกนหลังในแผงมิดฟิลด์ ร่วมกับเรโม ฟรูเลอร์ ส่วน เดนิส ซากาเรีย อาจได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทนที่ของ ฌิบริล โซว์ ในตำแหน่งกองกลางบ็อกซ์ทูบ็อกซ์
อย่างไรก็ตาม สวิตเซอร์แลนด์ คงรู้ตัวเองดีว่าศักยภาพเป็นรอง บราซิล อยู่เยอะ คงลงสนามไปเล่นแบบเจียมเนื้อเจียมตัว ไม่ผลีผลามบุกเข้าใส่ยอดทีมจากทวีปอเมริกาใต้ อาศัยเกมรับที่อดทน รอจังหวะโต้กลับสวยๆ เล่นงานแผงหลังของทีมแซมบ้าที่อาจบุกเพลิน ซึ่งเกมนี้ถ้าทีมใดเก็บสามแต้มได้ก็จะการันตีผ่านเข้ารอบต่อไปได้แบบ 100 เปอร์เซนต์
- นักเตะที่น่าจับตามอง
บราซิล จะไม่สามารถใช้งานเนย์มาร์ได้ในเกมนี้ ทำให้จุดโฟกัสตกไปอยู่ที่ ริชาร์ลิซอน หัวหอกที่ฟอร์มแรงเสมอเมื่อลงเล่นในนามทีมชาติ และเกมนี้เจ้าตัวก็ลุ้นบวกสกอร์เพิ่มให้แก่ตัวเองในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เชื่อว่าเขาจะมีทีเด็ดให้เราได้เห็นอย่างแน่นอน
ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ นักเตะอย่าง เซอร์ดาน ชากิรี พิษสงถือว่าน้อยลงไปเยอะจากอายุอานามที่มากขึ้น โดย กรานิต ชากา ถือเป็นนักเตะที่เสมือนหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีมแดนนาฬิกา ซึ่งถ้าเขาสามารถบัญชาเกมในแผงมิดฟิลด์ได้ สวิตเซอร์แลนด์ ก็น่าจะต่อกรกับ บราซิล ได้อย่างสนุก
- สถิติการเจอกันของทั้งสองทีม
คู่นี้เคยเจอกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1950 เป็นต้นมา ผลงานการเจอกันค่อนข้างสูสีผลัดกันแพ้-ชนะ ทีมละหนึ่งครั้ง และเสมอกันอีก 2 ครั้ง โดยในฟุตบอลโลก 2018 คู่นี้ก็ฟาดแข้งกันมาในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งปีนั้นเสมอกันด้วยสกอร์ 1-1
อย่างไรก็ตามเกมนี้ นักเตะ"แซมบา" บราซิล มีขุมกำลังที่เหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้จะได้เนย์มาร์ที่เจ็บ แต่ทีเด็ดจากผู้เล่นคนอื่นยังมีอีกเพียบ น่าจะเก็บชัยเหนือ สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ยาก พร้อมคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป
- คู่อื่นๆ ในวันเดียวกัน
กลุ่ม G แคเมอรูน พบ เซอร์เบีย เวลา 17.00น. อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 และทรูฯ ถ่ายทอดสด คู่นี้ค่อนข้างสูสีแต่มองว่าเซอร์เบีย มีทีเด็ดทีขาดมากกว่า
กลุ่ม H เกาหลีใต้ พบ กานา เวลา 20.00น. ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และทรูฯถ่ายทอดสด สำหรับคู่นี้ศักยภาพผู้เล่นไม่ต่างกันมาก แต่แอบปันใจเชียร์ตัวแทนจากเอเชียน่าจะเฉือนชนะได้
กลุ่ม Hโปรตุเกส พบ อุรุกวัย เวลา 02.00น. ช่อง 5 เอชดี และทรูฯถ่ายทอดสด คู่นี้ฝอยทองเหนือกว่าไม่มาก แต่เชื่อว่าทีเด็ดในแนวรุกของพวกเขาน่าจะพาทีมเก็บชัยได้แบบหืดจับ