ตามที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดงานใหญ่ของโลก กับการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC) ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย. ขณะที่ วงการกีฬาของไทย คึกคักไม่แพ้กัน เพราะว่าห้วงของการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 นั้นได้มีการจัดใหญ่กิจกรรม "World Youth Festival Bangkok 2022" (เวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022) เทศกาลยุวทูตเยาวชนจากทั่วโลก ควบคู่กันไปด้วย
กิจกรรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มี ดร.ก้องศักด ยอดมณี เป็นผู้ว่าการฯ และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) ที่มี ดร.สุปราณี คุปตาสา เป็นผู้จัดการกองทุนฯ โดยได้ร่วมกับ United Through Sports (UTS) ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่ไม่แสวงหาผลกำไร ที่มี มร.สเตฟาน ฟ็อกซ์ เป็นประธาน จัดขึ้นที่ ม.ศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ประสานมิตร ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ย.65 มียุวทูตเยาวชน จาก 21 ประเทศ 5 ทวีปทั่วโลก และเจ้าหน้าที่ รวมกว่า 2,000 คน ร่วมเข้าแคมป์แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกีฬาและการศึกษา
"เวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022" มีกิจกรรมต่างๆ มากมายหลายหลากให้เหล่าเยาวชนจากทั่วโลกได้ทำร่วมกัน ซึ่งไฮไลต์สำคัญที่เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อวงการกีฬาไทย ก็คือการจัดการอบรมสัมมนา เรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา (World Tolerance Day-Fairplay Workshop) โดย หน่วยงานอิสระตรวจสารต้องห้ามนานาชาติ International Testing Agency หรือ ITA (ไอทีเอ) และองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency) หรือ WADA (วาด้า)
การอบรมสัมมนา เรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา (World Tolerance Day-Fairplay Workshop) จัดขึ้น 2 วัน ระหว่างวันที่ 16-17พ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก วิโทลด์ บันกา ประธานองค์การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ส่งคลิปวิดีโอ มาร่วมเปิดการอบรม ให้ความรู้ความเข้าใจกับบุคคลากรในวงการกีฬาไทย ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเรื่องการต่อต้านสารต้องห้าม ให้กับบุคคลากรกีฬาไทย โดยเฉพาะคนในวงการมวยของไทย ที่ให้ความสนใจมาร่วมการสัมมนากันเป็นจำนวนมาก
"เยาวชนที่มาเข้าร่วมกิจกรรมด้านการกีฬาและการศึกษาครั้งนี้จะมีส่วนสำคัญในการเรียนรู้และศึกษาการต่อต้านสารต้องห้ามทางการกีฬา มีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้สารกระตุ้น ซึ่งตนเชื่อว่าจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจครั้งสำคัญในการเล่นกีฬาอย่างขาวสะอาด ซื่อตรงและเป็นธรรม ซึ่งวาด้าเองมีจุดยืนคือการปกป้องนักกีฬาและเยาวชนทั่วโลก ให้ปลอดจากการใช้สารต้องห้ามอย่างเด็ดขาด" วิโทลด์ บันกา กล่าว
"ดร.หญิง" ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ แม่งานใหญ่ กล่าวว่า อย่างที่เราทราบกันดีว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทย ถูกองค์กีฬาโลกสั่งลงโทษเพราะถูกมองว่าเรามีปัญหาเรื่องการตรวจสารต้องห้ามทางการกีฬา แต่โชคดีที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนของวงการกีฬา ทั้ง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และคุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ไอโอซี เมมเบอร์หญิงชาวไทย รวมทั้งผู้ใหญ่ในรัฐบาล ต่างก็ร่วมมือร่วมใจกันต่อสู้ แก้ปัญหาให้กับชาติ จนกระทั้งสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงพาประเทศไทย พ้นมลทิน หลุดพ้นจากการถูกลงโทษ ธงชาติชาติ สามารถกลับมาขึ้นสู่ยอดเสาได้อย่างสมเกียรติภูมิอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทย จะพ้นมลทินแล้ว แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบแต่อย่างใด และในโอกาสที่เราได้จัดกิจกรรมครั้งสำคัญของโลก ก็เลยต้องมีการเชิญบุคคลระดับผู้นำองค์กรกีฬาโลกทั้งจากไอทีเอ และ วาด้า มาร่วมการสัมมนาเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจกับนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ ซึ่งในเบื้องต้นที่เราได้มีการนำบุคลากรจากวงการกีฬามวย เข้ามาเป็นหลักนั้น ก็เพราะว่าประเทศไทย มีนโยบายในการผลักดัน "กีฬามวยไทย" ไปสู่มหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ในอนาคต
ที่สำคัญปัจจุบันกีฬามวยไทย มีทั้งกีฬาอาชีพและสมัครเล่น (กีฬาเป็นเลิศ) แต่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องของสารต้องห้ามที่ถูกต้องกับระบบสากล ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของการลดน้ำหนัก ก็ถือว่าผิด รวมทั้งการใช้น้ำมันนวดร่างกาย ซึ่งบางชนิดกีฬามีสารต้องห้ามที่ซึมเข้าร่างกาย เมื่อตรงจพบก็จะมความผิดทันที ซึ่งสารต้องห้ามในนักกีฬา ไม่จำเป็นต้องรับประทานเข้าไปเท่านั้น แต่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้หลายหลายวิธี หากไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและชัดเจน ก็จะเกิดผลเสียหายต่อตัวนักกีฬาได้ เพราะที่ผ่านมามีนักกีฬาหลายคนถูกต่างประเทศสั่งแบน ติดแบล็กลิสต์ เพราะเรื่องของสารต้องห้ามมาแล้ว จึงถือเป็นบทเรียนที่ชาวกีฬาไทยทุกส่วนจะต้องตระหนักและร่วมกันแก้ไขเพื่อเดินอย่างถูกทาง ไปสู่ความสำเร็จบนเวทีกีฬาโลกอย่างยั่งยืนและถูกต้อง
"ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมากที่ผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรกีฬาโลกทั้งไอทีเอ กับ วาด้า แสดงจุดยืนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าองค์กรกีฬาโลก พร้อมสนับสนุนประเทศไทย ให้ต่อสู้ในเรื่องของสารต้องห้ามไปด้วยกัน รวมทั้งยอมรับกับการที่ประเทศไทย ลุกขึ้นมาสู้และปรับปรุงวิธีการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องสารต้องห้ามทางการกีฬา โดยเฉพาะกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และ กกท. พร้อมดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่แน่นอน เพื่อไม่ให้นักกีฬาของเราเจอกับปัญหาเรื่องสารต้องห้ามอีกต่อไป" ดร.หญิง กล่าว
ดร.สุปราณี ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยภาพรวมของกิจกรรม "World Youth Festival Bangkok 2022" (เวิลด์ ยูธ เฟสติวัล แบงค็อก 2022) เทศกาลยุวทูตเยาวชนจากทั่วโลกครั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าน่าพอใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะทำได้ และสำเร็จเกินคาดเช่นนี้ การที่เราต้องนำเยาวชนจากทั่วโลกกว่า 2,000 คน มาเข้าแคมป์ร่วมกัน รวมทั้งได้รับความสนใจและการสนับสนุนจากคีย์แมนกีฬาระดับโลก โดยเฉพาะจากเชื้อพระวงศ์จากประเทศซาอุดิอาระเบีย และมาเลเซีย นั้น ถือว่าการจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
"ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ทว่าทาง กกท. และกองทุนฯ ก็ทำได้จริงๆ ก็ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.ก้องศักด ยอมณี ด้วย" ดร.หญิง กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องของการต่อต้านสารต้องห้ามในนักกีฬา ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อันดับหนึ่งของโลกในเวลานี้ เพราะไม่เพียงแต่ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่เอารัดเปรียบกันแล้ว แต่เรื่องของความปลอดภัยต่อชีวิตนักกีฬา นั่นต่างหากที่เป็นวาระของโลก
การที่ประเทศไทย โดย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)ได้เดินหน้าประสานสิบทิศกับพันธมิตรองค์กรกีฬาโลก เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาไทย ทั้งในสนามและนอกสนาม เดินหน้าอย่างถูกจุด และสอดคล้องกับตัวบทกฎกติกาแห่งกีฬาโลก จึงถือเป็นปฐมบทครั้งสำคัญและเป็นนิมิตหมายที่ดีของวงการกีฬาไทย ที่จะย่างก้าวเติบโตไปอย่างยั่งยืนและปลอดภัยนั่นเอง.