เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว สำหรับ Road To ONE รายการเดียวในประเทศไทย ที่จะสานฝันดาวรุ่งมวยไทย ให้ก้าวเข้ามาเป็นนักกีฬาอาชีพในเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ ภายใต้ความร่วมมือกันระหว่าง ONE กับ แฟร์เท็กซ์ ไฟต์ โปรโมชัน โดยมีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 29 ต.ค.นี้ ณ สนามมวยลุมพินี ถ่ายทอดสด ทางทีวีช่อง 7HD เวลา 10.00 น.
นี่ถือเป็นรายการระดับปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเมืองไทย เพราะผู้ชนะทั้ง 3 รุ่น จะได้โอกาสเซ็นสัญญานักกีฬาสังกัด ONE มูลค่าคนละ 100,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 3.8 ล้านบาทต่อคน ซึ่งหากรวมมูลค่าสัญญาทั้งหมดของทุกรุ่นที่มีก็จะคิดเป็นเงินจำนวนถึง 11.3 ล้านบาทเลยทีเดียว
และนี่คือรายชื่อ 6 ผู้เข้าแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ Road To ONE ซึ่งมีการประกบคู่ในทั้ง 3 รุ่นน้ำหนักเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับสัญญาฉบับแรกที่มีการชิงชัย คือ มวยไทย รุ่นอะตอมเวตหญิง (115 ป.) เป็นการพบกันระหว่าง “ลมมณี เดอะเลเจนด์ อารีนา กับคู่ชกชาวออสเตรเลีย “เซเลสต์ ภูเก็ตสิงห์มวยไทย” โดยนักสู้หญิงจอมเก๋าชาวไทยอย่าง "ลมมณี" ฝ่าด่าน "น้องแอ้ม จีทีฟิตเนส" และ "กำไลเพชร เพชรยินดีอะคาเดมี" เข้าสู่รอบชิง ส่วน "เซเลสต์" ปราบสองสาวไทย อย่าง "เพชรสีนิล ส.พวงทอง" และ "ดวงดาวน้อย ลูกทรายกองดิน" มาราบคาบ
คู่รองของรายการเป็นนัดชิงชนะเลิศ มวยไทย รุ่นฟลายเวต (135 ป.) ระหว่าง “เด็ดดวงเล็ก ส.สมหมาย” จอมฝีมือชาวไทย พบกับ “ซ่อนรัก ศิษย์ ปจว.” กำปั้นสัญชาติเมียนมา โดย "เด็ดดวงเล็ก" ในรอบที่ผ่านมาเอาชนะ "ตะเภาทอง สิงห์มาวิน" และ "ไท สจ.เปี๊ยกอุทัย" ส่วน "ซ่อนรัก" ทำเซอร์ไพรส์ชนะน็อก "ทิว แฟร์เท็กซ์" และทีเคโอ "สตาร์บอย เพชรเกียรติเพชร" มาได้อย่างน่าประทับใจ
ส่วนคู่เอกเป็นศึกมวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (155 ป.) ระหว่าง “ยอดภูผา วิมานแอร์” นักชกหมัดหนักที่โชว์ฟอร์มสวยใน Road To ONE ด้วยการชนะน็อกทั้ง "ทะเลทอง ส.ธนาเพชร" และ "กวางตุ้ง เรียลไฟต์เตอร์" มาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยจะเจอกับ “หยกไทย ขุนศึกมวยไทย” ที่ได้สิทธิ์มาชกแทน "อวตาล ต.หมอศรี" ที่ประกาศถอนตัวไปก่อนหน้านี้
แฟน ๆ สามารถติดตามชมการแข่งขัน Road To ONE Thailand รอบชิงชนะเลิศได้ในวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. 65 ถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 7HD เวลา 10.00-12.00น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทะลุแรงกิ้งONE 'นักรบ'สุดปลื้ม โผล่ติดอันดับ4รุ่นฟลายเวต
“นักรบ แฟร์เท็กซ์” มวยบู๊ดุเดือดวัย 25 ปี จาก สุรินทร์ เปิดเผยความรู้สึกแรก หลังทะลุติดโผล่ผู้ท้าชิงอันดับ 4 ของแรงกิง ONE มวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) สด ๆ ร้อน ๆ เมื่อไม่นานมานี้
'ทาเครุ'รับประมาทไม่ได้ พลังหมัด'ธานท์ ซิน' หนักเข้าขั้นไม่ธรรมดา
“ทาเครุ เซกาวา” นักชกซูเปอร์สตาร์ วัย 33 ปี จากญี่ปุ่น ยอมรับว่า “ธานท์ ซิน” คู่ชกจอมแกร่ง วัย 19 ปี จากเมียนมา มีพลังกำปั้นที่ไม่ธรรมดา ซึ่งตนจะต้องระวังในเรื่องนี้ให้ดี ก่อนที่จะขึ้นไปประชันเดือดกันในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) ในรายการใหญ่ประจำไตรมาส 3 ศึก ONE ลุมพินี 81 ที่จะจัดขึ้น ณ สนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้
มวยไทยอยู่ในสายเลือด 'ซุปเปอร์บอน'เน้นอาวุธทุกดอก ทำลายพลังหมัด'โจ'
“ซุปเปอร์บอน ซุปเปอร์บอนเทนนนิงแคมป์” แชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) ขนแม่ไม้มวยไทยมาเต็มร้อย หวังใช้ความหลากหลาย ต่อกรพลังหมัดของ “โจ ณัฐวุฒิ” นักสู้มาดอินดี้วัย 35 ปี จากโคราช โดยทั้งคู่จะดวลกัน ภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในฐานะคู่เอก ศึกใหญ่ไตรมาส 3 ของปี ONE ลุมพินี 81 ที่จะถ่ายทอดสดในวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.นี้ จากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
มวยONEบนแผ่นฟิล์ม 'ชาตรี'จับมือทีมภาพยนต์ 'The Beast In Me' นำแสดงโดย'รัสเซล โครว์'
ONE องค์กรศิลปะการต่อสู้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ Broken Open Pictures เพื่อผลิตภาพยนตร์เรื่อง “The Beast In Me” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬาการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) แนวแอ็กชัน-ดรามา โดยมีกำหนดเริ่มถ่ายทำในช่วงปลายปีนี้ และจะใช้การแข่งขันศึก ONE ลุมพินี เป็นฉากสำคัญ
ONE ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะยานสู่การบรรลุผลกำไรในปี 2567
เป็นที่ทราบกันดีว่า การสร้างผลกำไรในวงการกีฬาการต่อสู้จำเป็นต้องใช้ความอดทนและทุ่มเทเวลาหลายปีกว่าที่จะสร้างผลกำไรได้ แต่ภายในสิ้นปีนี้ วัน แชมเปียนชิพ (ONE) จะทำมันสำเร็จ
ไฟต์ดราม่า! 'ตะวันฉาย' เบียดชนะ 'โจ' เสียงข้างมาก รั้งแชมป์โลกมวยไทย ครั้งที่ 3
ไม่ทำให้แฟนกีฬาการต่อสู้มากกว่า 190 ประเทศทั่วโลก ต้องผิดหวัง สำหรับความมันครบรสชาติที่เกิดขึ้นในศึก ONE 167 ช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยผลปรากฏว่า "ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย" สามารถย้ำชัย "โจ ณัฐวุฒิ" ป้องกันบัลลังก์ครั้งที่ 3 ได้สำเร็จ ขณะที่ "รถถัง จิตรเมืองนนท์" และ "สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง" พร้อมใจกันเก็บชัยชนะมาครองได้อย่างสุดสะใจ ส่วน “โนแอล กรองด์ชอง” พลาดท่าพ่ายเป็นไฟต์ที่ 2 ติดต่อกัน