“พาทิศ ศุภพงษ์” พ่อบ้านสมาคมกีฬาฟุตบอล ถึงกับมึน ยื่นเสนองบประมาณเตรียมซีเกมส์เกินกว่าเหตุ ถูกดีดให้กลับไปทำรายละเอียดมาใหม่ ขณะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและประธานโอลิมปิกไทยกำชับเสียงดัง ฟังชัด ฟุตบอลชาย และ ฟุตบอลหญิง ไม่มีตัวให้เลือก จะต้องคว้าเหรียญทองซีเกมส์ เท่านั้น หากพลาดต้องมีผู้รับผิดชอบ
นายกองเอกชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ และ นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาอาชีพ และ วิทยาศาสตร์การกีฬา ร่วมกันประชุมพิจารณาแผนงานและงบประมาณการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งกำหนดแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566
ในการประชุมครั้งนี้ได้เชิญผู้แทนแต่ละสมาคมกีฬาที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ร่วมแถลงความพร้อมของนักกีฬาที่กำลังเก็บตัวอยู่ขณะนี้ เพื่อขอเสนอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 ณ ห้องประชุม ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระ เกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย ล่าสุดได้เชิญ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเข้ามาชี้แจง โดยมี นายพาทิศ ศุภพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นผู้แจ้งความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมทั้งฟุตบอลชาย และ ฟุตบอลหญิง
โดย นายพาทิศ กล่าวว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทำแผนดำเนินการเก็บตัวนักเตะทีมชาติไทยพร้อมกับแผนงานซื้ออุปกรณ์ รวมถึงแผนการเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมและอุ่นเครื่อง ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ในเดือนมีนาคม 2566 เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 6,687,000 บาท รวมกับงบประมาณค่าใช้จ่ายส่งแข่งขัน ประมาณทั้งสิ้น 11,121,600 บาท ขณะนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลยังขาดงบประมาณ จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากการกีฬาแห่งประเทศไทยอย่างมาก ส่วนการเฟ้นหานักเตะล่าสุดได้พิจารณานักฟุตบอลชายชุดซีเกมส์ไว้แล้วจำนวน 70 คน และจะคัดผู้ที่ฝีเท้าดีให้เหลือไม่เกิน 40 คนต่อไป ส่วนใหญ่เป็นนักเตะที่มีอายุ 21 ปี ยอมแบกอายุน้อยกว่าคู่แข่ง 1 ปี ซึ่งจะเริ่มเก็บตัวเป็นระยะ สลับกับช่วงที่ว่างเว้นจากการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ขณะที่นักฟุตบอลหญิงส่วนใหญ่เป็นชุดเดิม ประสบการณ์ความสามารถค่อนข้างดี ผสมผสานกับดาวรุ่งอีกจำนวนหนึ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ และ พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ ได้ถามกลับในทำนองเดียวกันว่า ที่ผ่านมาผลงานของนักฟุตบอลทีมชาติไทย มีความโดดเด่นตรงไหนบ้าง ผลงานตกต่ำสร้างความอับอาย แพ้ทั้ง เวียดนามทุกชุด และ ยังแพ้ สปป.ลาว อีกด้วย การที่เรียกเก็บตัว 3 วัน หรือ 5 วัน ยังไงก็ไม่มีทางชนะคู่แข่ง แต่ก็เห็นทำกันอยู่เป็นประจำ ส่วนงบประมาณที่ขอมาจำนวน 11 ล้านบาท มองว่ามากเกินไป ควรกลับไปพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งแล้วนำมาเสนอให้ที่ประชุมได้รับทราบตามความถูกต้อง
ขณะเดียวกัน นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้แจ้งให้ทราบว่า การเตรียมทีมครั้งนี้จะอยู่ที่ไหน ในเมืองไทย หรือ ต่างประเทศก็ตาม จะต้องนำนักฟุตบอลทั้งชาย และ หญิง มาเข้าทำการทดสอบสมรรถภาพความสมบูรณ์ของร่างกาย ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. จำนวน 2 ครั้ง และต้องให้ครบก่อนเดือนมีนาคม 2566 ตามระเบียบของการกีฬาแห่งประเทศไทย ก่อนส่งชื่อให้กับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในเดือนมีนาคม 2566 หากเลยกำหนดก็ไม่ต้องเดินทางไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์
นอกจากนี้ นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ยังแจ้งให้ นายพาทิศ ศุภพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับทราบด้วยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ได้กำชับว่า ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ฟุตบอลทั้งทีมชาย และ ทีมหญิง จะต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น หากพลาดจากเหรียญทองต้องมีผู้รับผิดชอบ