
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท คิง เพาเวอร์ ได้นำคณะสื่อมวลชนจากประเทศไทย เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมเปิดตัวคอลเลกชั่นของที่ระลึกใหม่ล่าสุด ของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ฟุตบอล คลับ ภายใต้ชื่อ THAI SONG DUM (ไทยทรงดำ) ซึ่งสินค้าคอลเลกชั่นนี้เป็นการ Collaboration ระหว่างผ้าฝ้ายธรรมชาติทอมือด้วยกี่พุ่งแบบโบราณของชาวชุมชนไทยทรงดำ บ้านดอนมะนาว อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี กับสปอร์ตลุคของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ นำเสนองานแฟชั่นสปอร์ตแวร์ที่ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน และเป็นการพัฒนาสินค้าชุมชนจากไทย
สำหรับสินค้าภายใต้ชื่อคอลเลกชั่น ‘THAISONGDUM’ (ไทยทรงดำ) นั้นใช้เวลาในการพัฒนาออกแบบกว่า 1 ปี โดยทีมคิง เพาเวอร์ และ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้ลงพื้นที่เข้าไปศึกษาเรียนรู้รายละเอียดต่าง ๆ กับชุมชน เพื่อประยุกต์ให้เข้ากับสินค้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ได้อย่างลงตัว ต่อยอดพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดต่างประเทศ และเป็นช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก มีทั้งเสื้อกีฬา และไอเท็มต่างๆ ที่มาในโทนสีเอกลักษณ์ของคิง เพาเวอร์ และ LCFC นั่นคือ สีคราม สีน้ำเงิน และสีดำ โดยมีลายหน้าจิ้งจอก และโลโก้สโมสร อันเป็นซิกเนเจอร์ของ LCFC มาปรากฎด้วย เนื้อผ้าละเอียด นุ่ม สวมใส่สบาย ระบายความร้อนได้ดี ไม่อับชื้น

นอกจากนี้ ทาง คิง เพาเวอร์ ยังได้พาคณะสื่อมวลชน มาเยี่ยมชม สนามฝึกซ้อมสโมสรฟุตบอล เลสเตอร์ซิตี้แห่งใหม่ที่ ซีเกรฟ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเลสเตอร์เชียร์ ซึ่งสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่นี้ ทันสมัยที่สุดของยุโรป มีพื้นที่กว่า 455 ไร่ ใช้งบลงทุนในการก่อสร้างกว่า 100 ล้านปอนด์ หรือราวๆ 4, 200 ล้านบาท
สำหรับโครงการนี้เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พุทธศักราชสองพันห้าร้อยหกสิบสอง เดิมทีพื้นที่ตรงนี้ เป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ park hill โดยในโครงการประกอบไปด้วย
1. อาคาร วิชัย ศรีวัฒนประภา เป็นศูนย์กลางหลักของศูนย์ฝึกซ้อม ซึ่งตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับอดีตประธานสโมสรฯ ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญที่สุดของสโมสรฯ ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่สำคัญของคุณวิชัย ที่มีต่อสโมสร ซึ่งปัจจุบันได้รับ การสานต่อโดยคุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ภายในอาคารมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันสำหรับทีมฟุตบอลชาย สำนักงาน ที่พัก ห้องอาหาร และห้องสันทนาการของทีมชุดใหญ่ มีระเบียงที่มองเห็นวิวที่สวยงามของสนามฝึกซ้อมของทีมชุดใหญ่
2. คิง เพาเวอร์ เซ็นเตอร์ ศูนย์ที่มีสถาปัตยกรรมรูปโดมที่โดดเด่นตัดกับภูมิทัศน์ที่สวยงาม พร้อมสนามหญ้าเทียมในอาคาร รวมถึงศูนย์อำนวยการสื่อมวลชน ห้องแถลงข่าว ห้องถ่ายทอดสด และพื้นที่สันทนาการ
3. สนามแข่ง 1 สนามแข่งขันย่อยที่จุผู้ชมได้ถึง 499 ที่นั่ง ใช้สำหรับการแข่งขัน เอฟเอ ยูธ คัพ และพรีเมียร์ลีก 2
4. สนามฝึกซ้อม 21 สนาม แบ่งเป็นสนามฟุตบอลขนาดมาตรฐาน 14 สนาม
5. สนามกอล์ฟส่วนตัว แบบ 9 หลุม
6. ระบบวิทยาศาสตร์การกีฬาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย
7. ศูนย์ฟิตเนสและระบบวารีบำบัดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย (Hydrotherapy)
8. สปอร์ต เทิร์ฟ อะคาเดมี่ (Sports Turf Academy: STA) ศูนย์วิจัย และศูนย์การเรียนรู้ เพื่อศึกษาและพัฒนานวัตกรรมการจัดการสนามหญ้าสำหรับการแข่งขัน สำหรับทีมงานมืออาชีพ และผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สนามกีฬาจากทั่วโลก

นับเป็นการลงทุนครั้งสำคัญของสโมสร และครอบครัวศรีวัฒนประภาตั้งแต่เข้าซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้เมื่อปี 2553 ถือเป็นสนามฝึกซ้อมระดับเวิลด์คลาสและศูนย์กีฬาที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้ ทั้งนี้สมาสโมสรได้ย้ายไปสนามฝึกซ้อมแห่งใหม่ตั้งแต่ ธันวาคมปีสองห้าหกสามที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามการลงทุนดังกล่าว ถึงจะเป็นจำนวนมหาศาล และ เรา ก็ อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าแล้วจะมีรายได้คืออีกกลับมา ให้ สมคุณค่าราคากับการที่ลงทุนไปหรือไม่

คุณอัยวัฒน์พูดสั้นๆว่าโครงการนี้เป็นการลงทุนกับคนค่ะการลงทุนกับคนยังไงก็เป็นแอสเสทที่ไม่มีทางที่จะหมดไป ได้ง่ายๆนั่นคือการปั้นเยาวชนการปั้นนักฟุตบอลรุ่นใหม่ ซึ่งอนาคตก็คือ ทรัพย์สินของสโมสรที่จะได้ผลตอบแทน คืนมาหากมีการขายนักเตะออกไป
ยังมีอีกจุดที่น่าสนใจ คือ สปอร์ต เทิร์ฟ อะคาเดมี่ (Sports Turf Academy: STA) ศูนย์วิจัย และศูนย์การเรียนรู้ เพื่อศึกษาและพัฒนานวัตกรรมการจัดการสนามหญ้าสำหรับการแข่งขัน โดยในที่แห่งนี้มีทีมงานมืออาชีพและผู้เชี่ยวชาญด้านพื้นที่สนามกีฬาจากทั่วโลกมาร่วมกันศึกษา หาหญ้าที่ดีที่สุด สำหรับใช้ในการแข่งขัน
ในศูนย์นี้มีการ นำหญ้ายาทุกชนิดเนี่ยมาศึกษา เรียกว่าเป็นห้องรากหญ้าเลยก็ได้ ศึกษาว่า หญ้าชนิดไหนยาวแค่ไหน สายพันธุ์ไหนเหมาะที่จะนำมาใช้เป็นพื้นสนาม และ ป้องกันการบาดเจ็บของนักกีฬา
เรียกว่า มีการพัฒนาลงลึก ที่เรียกว่า ระดับล่างจนขึ้นบน ครบวงจรเลยทีเดียว ก็เรียกได้ว่า สิ่งเหล่านี้มันก็จะสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจอันนี้ได้อย่างน่าสนใจทีเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คิง เพาเวอร์ ปลุกพลังทางดนตรี เปิดเวที ”THE POWER BAND 2025 SEASON 5“ ชิงรางวัลกว่า 2 ล้านบาท
นับเป็นเวทีการประกวดดนตรีที่ยิ่งใหญ่เวทีหนึ่ง ที่คิงเพาเวอร์ ร่วมให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จของเวทีประกวดวงดนตรีสากลคุณภาพระดับประเทศ นับเป็นจุดกำเนิดศิลปินหน้าใหม่ป้อนสู่อุตสาหกรรมเพลงไทย
คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก ร่วมกับ GRAND SEIKO พาสัมผัสความงามแห่งวิถีญี่ปุ่น ผ่านศิลปะการจัดดอกไม้ “อิเคบานะ”
คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก ที่สุดแห่งประสบการณ์ช้อปมิติใหม่ใจกลางเมือง ร่วมกับ GRAND SEIKO (แกรนด์ ไซโก) แบรนด์นาฬิกาลัก
'คิงเพาเวอร์'หนุนมูลนิธิ'ก้าวคนละก้าว' ยกพนักงานกลุ่มบริษัทฯ วิ่ง'รันแห่งความรัก อยุธยา21K'
คิง เพาเวอร์ ร่วมสนับสนุน มูลนิธิก้าวคนละก้าว ยกทัพพนักงานกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ร่วมวิ่ง “รันแห่งความรัก อยยา 21K” หนุนโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กไทยโครงการก้าวเพื่อน้องปีที่ 5
มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา และคิง เพาเวอร์ สานต่อปณิธานแห่งการให้ จัดกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต”
มูลนิธิ วิชัย ศรีวัฒนประภา และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เดินหน้าสานต่อความสุขที่ยิ่งใหญ่ ปลูกหัวใจแห่งการให้ที่ยั่งยืน จัดกิจกรรม “ให้โลหิต ให้ชีวิต” นำโดย คุณเอมอร ศรีวัฒนประภา, คุณอรุณรุ่ง ศรีวัฒนประภา, คุณวรมาศ ศรีวัฒนประภา, คุณรวิ อิทธิระวิวงศ์ และคุณวรวิชยะ ศิรศีล ศรีวัฒนประภา
คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก เสริมความปังรับตรุษจีน เปิดศาสตร์แห่งโชคลาภด้วยปฏิทินน่ำเอี๊ยง จัดงาน “CHINESE NEW YEAR 2025 LUCKY BOUTIQUE” พร้อมกิจกรรมดูดวงทำนายชีวิต วันนี้ถึง 2 ก.พ.นี้
คิง เพาเวอร์ ซิตี บูทีก ที่สุดแห่งประสบการณ์ช้อปมิติใหม่ใจกลางเมือง ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน จัดงาน “CHINESE NEW YEAR 2025 LUCKY BOUTIQUE”