
การแข่งขันแบดมินตันรายการ ‘HYLO Open 2021’รายการระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่เมืองซับบรูเคน ประเทศเยอรมนี เมือวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย.2564 (เวลาท้องถิ่น) เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีนักแบดมินตันไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศถึง 2 ประเภท
ประเภทหญิงเดี่ยว ‘ครีม’ บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธ์ุ มืออันดับ 14 ของโลก เอาชนะ เหยา เจียหมิน มืออันดับ 26 ของโลกจากสิงคโปร์ 2-0 เกม 21-10 , 21-14 ทำให้ครีม บุศนันทน์ คว้าแชมป์ไปครองพร้อมรับเงินรางวัล 24,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 803,040 บาท ส่วน เหยา เจียหมิน รองแชมป์รับเงินรางวัล 12,160 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 406,144 บาท
ประเภทคู่ผสม ‘บาส’เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ‘ปอป้อ’ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก ก็ไม่ทำให้แฟนแบดมินตันไทยผิดหวัง ชนะคู่ของ ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อคตาเวียนติ คู่มืออันดับ 5 ของโลกจากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 22-20 และ 21 – 14 ทำให้ "บาส" เดชาพล กับ "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี คว้าแชมป์ไปครองเป็นรายการที่ 4 ในปีนี้ พร้อมรับเงินรางวัล 25,280 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 844,352 บาท ส่วน ปราวีน จอร์แดน กับ เมลาติ เดว่า อ๊อคตาเวียนติ รองแชมป์รับเงินรางวัล 12,160 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 406,144 บาท
สำหรับประเภทคู่ผสม ‘บาส’เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ‘ปอป้อ’ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 3 ของโลก ที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้นั้น เป็นการเพิ่มสถิติให้กับนักแบบคู่ขวัญ’บาส-ปอป้อ’ เพราะที่ผ่านมา 6 ปีทั้งคู่ สามารถคว้ามาได้ถึง 8 แชมป์ กับ 11 รองแชมป์
โดยปี 2558 ‘บาส’ เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ‘ปอป้อ’ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย เริ่มต้นจับมือแท็กทีมกันเป็นคู่ผสมหน้าใหม่ ประเดิมแข่งรายการแรกในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย (SCG All Thailand Badminton Championships 2015) และทั้งคู่ใช้เวลาแค่ปีครึ่งก็ไต่อันดับขึ้นไปติดท็อป 20 ของโลกได้อย่างรวดเร็ว!
6 เดือนต่อมา ‘บาส-ปอป้อ’ที่พัฒนาตัวเองอย่างก้าวกระโดด ก็ทะยานขึ้นไปติดท็อป 10 ของโลก และในปีเดียวกันคว้าแชมป์แรกได้สำเร็จในรายการ ‘โยเน็กซ์ สวิส โอเพ่น 2017’ รวมถึงพิชิตเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย บวกกับอีก 3 รองแชมป์จากรายการ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2017, สิงคโปร์ โอเพ่น 2017 และชิงแชมป์เอเชีย 2017ขณะที่ผลงานกำลังร้อนแรง ทั้งคู่ก็ต้องสะดุด เพราะปอป้อ ได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ในระหว่างลงเล่นหญิงคู่(กับพุธิตา สุภจิรกุล) ในกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซีย ทำให้ต้องเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งปอป้อต้องใช้ความอดทนในการรักษาและฟื้นฟูอย่างสูงภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่มีศ.ดร.เจริญ กระบวนรัตน์ เป็นหัวหน้าหลังจากใช้เวลารักษากว่า 5 เดือน ในปี 2561 ปอป้อกลับมาคืนคอร์ต เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้งในการเล่นคู่กับบาส และด้วยความมีวินัย ตั้งใจ มุ่งมั่น ทำให้ทั้งคู่ใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็เริ่มกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง เริ่มจากการคว้ารองแชมป์รายการ "เดนมาร์ก โอเพ่น 2018" และทำคะแนนสะสม ผ่านเข้าไปเล่นในรายการ ‘เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2018’ที่ประเทศจีน ก่อนจะสร้างผลงานเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้อีกด้วย!ปีต่อมา 2562 บาส-ปอป้อพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้ง กวาดแชมป์ได้ถึง 3 รายการคือ สิงคโปร์ โอเพ่น 2019, โคเรีย โอเพ่น 2019 และ มาเก๊า โอเพ่น 2019 นอกจากนี้ยังพ่วงด้วยรองแชมป์อีก 3 รายการ ซึ่ง 1 ในนั้น คือการแข่งขันชิงแชมป์โลก 2019 ที่สวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังฝ่าด่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2019 ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกันอีกด้วย
ปี 2563 บาส-ปอป้อทะลุเข้าชิงชนะเลิศและคว้ารองแชมป์รายการที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลกอย่าง “ออล อิงแลนด์ โอเพ่น 2020” เมื่อเดือนมีนาคมได้เป็นครั้งแรก ก่อนที่การแข่งขันแบดมินตันทั่วโลกจะถูกยกเลิกไป เนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19
ต้นปี 2564 กีฬาลูกขนไก่เริ่มกลับมาแข่งขันกันใหม่ บาส-ปอป้อก็สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการกวาด 3 แชมป์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้แก่ โยเน็กซ์ ไทยแลนด์ โอเพ่น, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น และเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2020 ซึ่งถือเป็นคู่ผสมคู่แรกที่คว้า "ทริปเปิ้ลแชมป์" ในรายการระดับ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 สามสัปดาห์ติดต่อกัน พร้อมๆ กับการก้าวขึ้นสู่มืออันดับ 2 ของโลก
แม้ว่า เมื่อกลางปีที่ผ่านมา บาส-ปอป้อ จะผิดหวังจากโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียวก็ตาม แต่ทั้งคู่ก็ไม่ถอดใจ ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนักต่อเนื่อง และมาคว้ารองแชมป์ “เดนมาร์ก โอเพ่น 2021” เมื่อเดือนตุลาคม ก่อนที่ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา จะผงาดแชมป์ ‘ฮายโล โอเพ่น 2021’( HYLO Open 2021) ที่เยอรมนี ได้อย่างสะใจกองเชียร์คนไทยทั้งประเทศ!
8 แชมป์กับอีก 11 รองแชมป์คือ เกียรติยศและชื่อเสียงที่ ‘บาส’ กับ ‘ปอป้อ’ ร่วมกันสร้างมาให้กับประเทศไทยในวงการแบดมินตันโลก

