โมโตจีพี สนามประเทศไทย กลับมาทวงบัลลังก์ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง เตรียมเปิดประวัติศาสตร์ใหม่ จัดใหญ่ – จัดเต็มสมการรอคอย ผนึกกำลังรัฐ – เอกชนสร้าง Big Event มหกรรมกีฬาที่สร้างความสุข ความประทับใจ พร้อมเผยแผนรองรับการหลั่งไหลมาของผู้ชมมากกว่า 3 แสนคน อาสาสมัครนับพัน อำนวยความสะดวกในงาน ตลอด 3 วัน ครบเครื่องทั้งกีฬา-บันเทิง โดยเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมวันแรกผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และจุดจำหน่ายทั่วประเทศ ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากแฟนความเร็วทั่วโลก บัตรแกรนด์แสตนด์ขายหมดภายใน 3 นาที
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดแถลงข่าวการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือศึกโมโตจีพี 2022 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ภายใต้ชื่อรายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022” (OR THAILAND GRAND PRIX 2022) ซึ่งจะชิงชัย สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่าง 30 กันยายน – 2 ตุลาคม 2565 ภายใต้แนวคิด Thailand to the World กรังด์ปรีซ์สุดยิ่งใหญ่ “โมโตจีพีวิถีไทย” หวังสร้างความประทับใจและภาพจำสู่คนทั่วโลก ประเดิมเปิดขายบัตรวันแรก ทำสถิติ 3 นาที บัตรแกรนด์สแตนด์หมดเกลี้ยง
วันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 25 การกีฬาแห่งประเทศไทย(หัวหมาก) : นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นประธาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้สนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมคับคั่งนำโดย การกีฬาแห่งประเทศไทย, จังหวัดบุรีรัมย์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยเครื่องดื่มตราช้าง, บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด, ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน), บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด, สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต รวมทั้งพันธมิตรและผู้สนับสนุน, สื่อมวลชนจำนวนมาก
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือศึกโมโตจีพี ฤดูกาล 2022 และการได้บรรจุเป็นหนึ่งในสนามแข่งขัน“โมโตจีพี” ซึ่งเป็นมอเตอร์สปอร์ตอันดับหนึ่งของโลกเป็นปีที่ 3 โดยจัดแข่งขันมาแล้ว 2 ครั้ง คือในปี 2561-2562 เป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จและ มีสถิติที่น่าสนใจหลายประการ อาทิ ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น โมโตจีพีที่สนุก และมีความสุขที่สุดในโลก, การนั่งอยู่บน Shuttle แต๋น ที่เป็นไวรัลไปทั่วโลก, ครองแชมป์สนามที่มีผู้ชมสูงสุดของโลก 2 ปี ซ้อน, ได้รับรางวัลสนามที่ดีที่สุดตั้งแต่ปีแรกของการจัดการแข่งขัน (Best Grand Prix of the Year 2018), บัตรชมการแข่งขันแกรนด์แสตนด์หมดลงภายใน เวลา 5 นาทีที่เปิดจอง,นักท่องเที่ยวจองที่พักเต็มยาวข้ามปี, เผยแพร่การแข่งขันและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ไปกว่า 207 ประเทศ สู่ผู้ชมราว 800 ล้านคนทั่วโลกกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะแม่งานหลัก พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยสู่ความยั่งยืนแล้ว โมโตจีพียังถือเป็นต้นแบบของการใช้กีฬา ในการประชาสัมพันธ์ประเทศ สร้างเม็ดเงินรายได้จากการท่องเที่ยว และยังเชื่อมโยงสู่อุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย การจัดการแข่งขันในครั้งนี้จะต้องยิ่งใหญ่สมการรอคอย สร้างภาพจดจำให้กับชาวโลก ต้นแบบ Big Event ของมหกรรมกีฬาไทยฝีมือคนไทยให้กระหึ่มโลกอีกครั้ง”
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นับเป็นก้าวสำคัญของวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ตในประเทศไทยกับการจัดกรังด์ปรีซ์ อันดับหนึ่งของโลกบนผืนแผ่นดินไทยอีกครั้ง ตอกย้ำภาพความสำเร็จและศักยภาพของคนไทยในบริหารจัดการมหกรรมกีฬาที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกประทับใจมากที่สุดและได้รับคำชื่นชมและกล่าวขานถึงมากที่สุด โดยที่ผ่านมาการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตัวแทนของ รัฐบาลไทย ร่วมกับ เอฟไอเอ็ม, ดอร์น่า สปอร์ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำงานอย่างหนักในการสานต่องานสำคัญนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 (Covid-19) ทำให้ต้องมีการปรับแผน โดยเลื่อนการแข่งขันออกมาถึง 2 ปี อย่างไรก็ตาม การกีฬาแห่งประเทศไทยยังคงเดินหน้าปรับแผนกลยุทธ์และผลักดันในทุกมิติ ประสานงานกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง สำหรับการจัดงานในปีนี้ จะทวีความยิ่งใหญ่และครบเครื่องยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแม่แบบ และประกาศศักยภาพฝีมือการบริหารจัดการของคนไทยในการจัดแข่งขันกีฬาระดับสากลในอนาคต นอกจากนี้เรามีนักแข่งไทย ที่จะลงทำการแข่งขันในปีนี้ในรุ่น โมโตทู 2 คน คือ“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา และ เขมินทร์ คูโบะ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่านักกีฬามอเตอร์สปอร์ตของไทย ได้พัฒนาไปสู่การแข่งขันระดับโลกแล้วอย่างแท้จริง ผมขอเชิญชวนแฟนๆ มอเตอร์สปอร์ตชาวไทย มาช่วยเชียร์นักแข่งไทยให้สามารถคว้าชัยในโฮมเรซให้ได้
ด้านนายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้มีโอกาสสำคัญในการจัดกีฬาระดับโลกเป็นปีที่ 3 ที่ผ่านมาเราได้นำเสียงสะท้อนมาปรับปรุงแก้ไข จุดที่ดีต้องดียิ่งขึ้น จุดที่บกพร่องต้องได้รับการแก้ไข สำหรับปัญหาด้านที่พักที่ถูกจับจองเต็มข้ามปีทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และพื้นที่ใกล้เคียง จังหวัดได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านนำที่พักมาจัดเป็นโฮมสเตย์รองรับมากขึ้น ทั้งยังส่งเสริมสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมใหม่ๆ, พัฒนาศูนย์นกกระเรียน, หมู่บ้านต้นแบบ ส่วนการอำนวยความสะดวกผู้ชม นักท่องเที่ยว เรายังมีทีม ask me ซึ่งเป็นอาสาสมัครกว่าพันคน มาจากนักศึกษา และประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ มีเจ้าหน้าที่ Gu เก็บ ที่มาคอยดูแลเรื่องความสะอาดในงานและขาดไม่ได้คือ ชัตเติ้นแต๋น ที่พร้อมแล้ว ที่จะมาคอยให้บริการเพื่อความประทับใจของทุกๆ คนที่จะมายังจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ผ่านมาเราเคยได้รับคำชมจากดอร์น่า สปอร์ตว่าจัดการแข่งขันได้ยอดเยี่ยม บรรยากาศดี การต้อนรับก็ดี ประชาชนชาวบุรีรัมย์เป็นมิตร มีการนำเสน่ห์ของท้องถิ่นมาใช้ ทำให้สนามเป็นที่จดจำจากคนทั่วโลก นอกจากรถอีแต๋น ที่เรานำมาประยุกต์มารับส่งผู้โดยสาร จนเป็นที่กล่าวขานไปทั่วโลกแล้ว เรายังมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรม และการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกในงาน โดยการนำสินค้าของดีบุรีรัมย์ในแต่ละท้องถิ่นมาออกร้าน และยังมีกลุ่ม นครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ร่วมออกบูธสินค้าและขายสินค้าท้องถิ่นในงาน ซึ่งจะสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก
นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ โออาร์ ในฐานะ Title Sponsor กล่าวว่า โออาร์ ได้สนับสนุนวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยมาตลอด โดยโออาร์ได้สนับสนุนนักแข่ง ทีมแข่ง และรายการแข่งขันต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้นักบิดชาวไทยและทีมแข่งไทย ได้พัฒนาฝีมือเพื่อก้าวเข้าสู่เวทีระดับโลก ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยผลักดันมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เติบโตไป ถึงระดับโลกอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม และในการสนับสนุนสุดยอดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบของโลก โมโตจีพี สนามประเทศไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ในปีนี้โออาร์ หวังว่าจะเป็นการร่วมสร้างประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง และขอเชิญชวนแฟนมอเตอร์สปอร์ตทุกท่านไปติดตามชมการแข่งขัน OR Thailand Grand Prix 2022 ติดขอบสนามด้วยกัน
สำหรับสมาชิก Blue Card ใช้เพียง 5 คะแนน แลกรับส่วนลด 25% สำหรับซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน OR Thailand Grand Prix 2022 กดรับสิทธิ์ได้ที่ Blue Card Application ส่วนผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกก็สามารถสมัครเป็นสมาชิก Blue Card ได้ฟรีที่ www.pttbluecard.com หรือสมัครด้วยตัวเองได้ที่ PTT Stationและร้านค้าในเครือ OR ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ยังมีการเปิดขายบัตรเข้าชมวันแรก โดยแบ่งเป็น 4 ประเภทได้แก่ Grand Stand 4,000 บาท เห็นทุกโค้งทั่วสนาม ส่วน Quartararo Stand 3,000 บาท รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จากฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ต่อด้วย Chantra Stand 3,000 บาท รับของที่ระลึกลิขสิทธิ์แท้จาก ก้อง สมเกียรติ จันทรา และ Side Stand ซึ่งกระจายอยู่ทุกด้านของสนามแข่งขัน ราคา 2,000 บาท โดยบัตรทุกประเภทสามารถใช้เข้าชมได้ 3 วัน ทั้งศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ โดยมีสิทธิพิเศษ! ส่วนลดผู้จากสนับสนุนมากมาย อาทิ สมาชิก Blue Card ใช้ 5 แต้ม แลกรับส่วนลดทันที 25% หรือลดทันที 20% เมื่อใช้สิทธิ์ส่วนลดจากผู้สนับสนุนอื่นๆ ได้แก่ Chang International Circuit Friend Club, กุญแจรถจักรยานยนต์ HONDA, กุญแจรถจักรยานยนต์ YAMAHA, บัตรเครดิต และบัตรเดบิต SCB
โดยเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมวันแรกผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และจุดจำหน่ายทั่วประเทศ ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากแฟนความเร็วทั่วโลก บัตรแกรนด์แสตนด์ขายหมดภายใน 3 นาที
แฟนๆ มอเตอร์สปอร์ต สามารถหาซื้อบัตรได้ที่ Counter Service All Ticket ในร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือซื้อออนไลน์ได้ที่ www.allticket.com หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กแฟนเพจ Chang Circuit Buriram
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'OR ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023' สร้างความประทับใจให้แฟน'โมโตจีพี' ทั่วโลกเป็นปีที่4
OR ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ไทยอีกครั้ง ในศึกโมโตจีพี “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023” พร้อมสร้างความประทับใจให้แฟนมอเตอร์สปอร์ตทั่วโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 4
OR ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ไทยอีกครั้ง ในศึกโมโตจีพี “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023”
บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ หรือ Title Sponsor สำหรับการแข่งขันสุดยอดรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือ โมโตจีพี 2023 สนามที่ 17 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
'โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์'สำเร็จยิ่งใหญ่ 'มาร์ติน"เหมาชัยชนะ 'ก้อง'คว้าโพเดียมโฮมเรซ
สุดยอดมอเตอร์สปอร์ต 2 ล้อโลก “โมโตจีพี” ดวลความเร็วสนาม 17 รายการ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” สุดเดือดบนแผ่นดินไทย ยอดผู้ชมทะลุ 1.79 แสน ฮอร์เก มาร์ติน นักบิดสแปนิชจาก พรีม่า พรามัค เรซซิ่ง ระเบิดฟอร์มเหมาชัยชนะในรุ่น โมโตจีพีไปครอง ไล่จี้ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า แชมป์โลกชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ เหลือเพียง 13 คะแนน ด้าน“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย สร้างประวติศาสตร์คว้าโพเดียมในบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรก พร้อมสร้างสถิติเป็นนักบิดไทยคนไทยในประวัติศาสตร์ที่ขึ้นโพเดียมใน “โฮมกรังด์ปรีซ์” ได้สำเร็จ
ทัพนักบิดถึงบุรีรัมย์ ลุย'โออาร์ ไทยแลนด์ จีพี2023' ระเบิดความเร็ว27-29 ตุลานี้
สุดยอดนักบิดดังของโลก ยกทัพถึงบุรีรัมย์แล้ว เตรียมสู้ศึก MotoGP สนามประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ ด้านจังหวัดบุรีรัมย์ปูพรมให้การต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ตั้งแต่ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ พร้อมชวนแฟนคลับโมโตจีพี ลิ้มรสเมนูเด็ดจากเถียงนา ภายใต้ชื่อ เถียงนาเชฟเทเบิล ซอฟต์พาวเวอร์ วัฒนธรรมทางอาหาร ครัวชุมชน ชมนาข้าวอินทรีย์ ถิ่นอาศัยของนกกระเรียนพันธุ์ไทยหายาก เนรมิตโซนต้อนรับหน้าทางเข้างาน สวยงามไปด้วยธีม “ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม” โชว์ภูมิปัญญาโบราณของไทยสู่สายตาชาวโลก
'รัฐบาล'ชวนแฟนMotoGP นับถอยหลังสู่'ORไทยแลนด์จีพี' พร้อมเปิดโทรฟี่ 2023
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐ-เอกชน แถลงนับถอยหลังและเปิดตัวโทรฟี่ “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ 2023” หรือถ้วยโมโตจีพี สนามประเทศไทย เลอค่า อร่ามตาด้วยธีมสีทองสุดอิลิแกนซ์ แรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ความยิ่งใหญ่ พระอาทิตย์ขึ้น-ตก ผ่านช่องประตูทั้ง 15 บาน ของปราสาทหิน “พนมรุ้ง” ผสานให้เกิดแรงจูงใจในการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างลงตัว พร้อมเผยยุทธศาสตร์ความร่วมมือแบบบูรณาการเน้นการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน รองรับผู้ชมในสนามหลายแสนคน ถ่ายทอดสดความยิ่งใหญ่ 200 ประเทศทั่วโลก สู่ผู้ชม 800 ล้านคน จารึกประวัติศาสตร์โมโตจีพีที่ดีที่สุด และน่าประทับใจที่สุดแก่แฟนความเร็วทั่วโลกอีกครั้ง
'ไทยแลนด์ โมโตจีพี'ฟีเวอร์ ทัพนักแข่งดาวดังบินถึงบุรีรัมย์แล้ว
กระแส "โมโตจีพี" กำลังได้รับความนิยมอย่างหนักในเมืองไทย จนกลายเป็น "ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์" ทั่วทั้งประเทศ ล่าสุดบรรดานักบิดดาวดังนำโดย ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร แชมป์โลกจาก ยามาฮ่า, มาร์ค มาร์เกซ ผู้ชนะไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2 สมัย และ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ตัวเต็งแย่งแชมป์โลกจาก ดูคาติ และทีมเมทอย่าง แจ็ค มิลเลอร์, อเลช เอสปาร์กาโร และ มาเวริค บีญาเลส จาก อพริเลีย เรซซิ่ง พร้อมด้วยทัพนักบิดซูเปอร์สตาร์ เดินทาง จ.บุรีรัมย์แล้ว เพื่อเตรียมระเบิดความมันส์ในศึก โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ สุดสัปดาห์นี้