รมว.กีฬา สั่งกกท.เอาผิดเซียนมวยขึ้นเวที สร้างความวุ่นวาย

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 3/2565 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. และคณะกรรมการฯ ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2565

ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยภายในสนามมวย ภายใต้พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในการแข่งขันมวยไทยรายการศึกเพชรยินดี ที่เวทีมวยราชดำเนิน นั้น ได้มีการประชุมหารือว่า จำเป็นต้องปฏิรูปวงการกีฬามวยไทยอาชีพทั้งระบบ โดยเริ่มต้นจาก 
 
1.จัดทำโครงการการรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูปมวยไทย ประชาพิจารณ์ (Public Hearing) จากผู้ที่เกี่ยวข้อง  
 
2.นำผลจากการรับฟังความคิดเห็นมาแปลงสู่การปฏิบัติ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานในด้านต่างๆ เช่น มาตรฐานการจัดการแข่งขัน, มาตรฐานในการตัดสิน, การควบคุมพฤติกรรมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน การควบคุม กำกับ ดูแล การจัดอบรมผู้ตัดสิน ปฏิรูปสนามแข่งขัน ทั้งเวทีมาตรฐานและเวทีชั่วคราว ให้มีมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น และ 
 
3.บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง โดยต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านกีฬามวยไทยโดยตรง เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือหน่วยงานภาครัฐ ต้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อประเมินผล และจัดมาตรฐานสำหรับสนามมวยในทุกๆมิติ ทั้งระบบ เพื่อให้การจัดการแข่งขันออกมาในรูปแบบโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่วงการมวยไทย เนื่องจากประเทศไทยกำลังผลักดันมวยไทยไปสู่โอลิมปิกเกมส์
 
โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เผยว่า ได้มีการสั่งการให้กกท.ลงมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างจริงจัง คนผิดก็จะมีโทษตามความผิด มากน้อยลดหลั่นกันลงไป ไม่ว่าจะเป็นนายสนามมวย, โปรโมเตอร์, ผู้ตัดสิน, ค่ายมวย, นักกีฬา หรือแม้กระทั่งกองเชียร์ที่ควรจะอยู่ในหน้าที่กองเชียร์ ไม่ใช่ขึ้นไปกดดันกรรมการแบบนั้น ต้องเคารพการตัดสินของกรรมการ ถ้าหากกรณีแบบนี้ไม่มีการลงโทษ วงการมวยก็จะไม่มีคนสนใจ กลายเป็นปาหี่ มวยล้มต้มคน
 
เหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของวงการมวยไทยเสียหายอย่างมาก ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เพราะประเทศไทยกำลังผลักดันมวยไทยไปสู่โอลิมปิกเกมส์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

"พิพัฒน์“ รุก! เพื่อแรงงาน เพิ่มรายได้กองทุนฯ พบบริษัทจัดการสินทรัพย์สวีเดน กางแผนผลตอบแทนระยะยาวเฉลี่ย 8 -10% ต่อปี เพื่อกองทุนยืน

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี

กกท. ประกาศความพร้อมจัดใหญ่ ‘วันกีฬาแห่งชาติ 2567’ ยกย่องคนกีฬา

กกท. เตรียมจัดงาน “วันกีฬาแห่งชาติ 2567” ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 39 ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่น บุคลากรทางการกีฬาดีเด่น และองค์กรกีฬาดีเด่นแห่งปี รวมกว่า 40 รางวัล เชิดชูคนกีฬาไทยที่สร้างชื่อเสียงและผลงานโดดเด่นทั้งในและต่างประเทศ

‘พิพัฒน์’ห่วงแรงงานไทย นำคณะ ถก ! ระบบบำนาญสวีเดน สร้างมาตรฐาน พัฒนาบริการผู้ประกันตน รองรับสังคมสูงอายุ

มื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะกรรมการประกันสังคม และที่ปรึกษา (ชุดที่ 14) รวมถึงผู้บริหาร

'พิพัฒน์' ย้ำสิทธิประโยชน์อาชีพอิสระ มอบทุนซื้อบ้าน เงินทดแทนเจ็บป่วย เงินทุพพลภาพตลอดชีวิต บำเหน็จชราภาพ ด้วยประกันสังคมมาตรา 40

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นรุ่นแรก เป็นจังหวัดซึ่งมีประชากรจำนวนมากที่สุดในภาคใต้ ประกอบอาชีพอิสระกว่า 500,000 คน

“พิพัฒน์” กำชับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ร่วมสร้างเกราะป้องกันในสถานประกอบการ ดูแลคนทำงาน ลดการสูญเสีย มุ่งเป้าลดอันตรายร้ายแรง 1:1,000 คน

วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “12 พฤศจิกายน วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี พ.ศ.2567” ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 .