ทัพไทยคว้า 92 เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 'ก้องศักด'พอใจผลงานกีฬาสากล

ปิดฉากกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พอใจผลงานทัพนักกีฬาไทยทำได้ 92 เหรียญทอง 102 เหรียญเงิน 138 เหรียญทองแดง ได้อันดับ 2 ส่วนเวียดนามเจ้าภาพ ทำเหรียญทองสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนามปิดฉากลงในวันที่ 23 พฤษภาคม โดยทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ 92 เหรียญทอง 102 เหรียญเงิน 138 เหรียญทองแดง ได้อันดับ 2 ในขณะที่ เวียดนาม เจ้าภาพ ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง ทำได้ 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเหนือทุกชาติในประวัติศาสตร์กีฬาซีเกมส์ ทำลายสถิติเจ้าเหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ที่ทำเหรียญทองได้มากที่สุดคือ อินโดนีเซีย ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จาการ์ตา อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 1997 (พ.ศ.2540) ทัพนักกีฬาอิเหนาทำได้ 194 เหรียญทอง 101 เหรียญเงิน 115 เหรียญทองแดง

ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม ครั้งนี้ ต้องเตรียมนักกีฬาและแข่งขันท่ามกลาง สถานการณ์โควิด 19 ถือว่าน่าพอใจแล้วกับการที่นักกีฬาทุกคนได้สู้อย่างเต็มที่ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในกีฬาสากล อาทิ กรีฑา, ว่ายน้ำ, เทนนิส, แบดมินตัน, เทเบิลเทนนิส ฯลฯ อย่างไรก็ตาม จะได้มีการสรุปและประเมินผลงานทั้งหมด เพื่อนำไปปรับใช้ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพในปี 2023 (พ.ศ.2566) ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี แล้ว รวมทั้งกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปี 2025 (พ.ศ.2568) โดยจะต้องจัดซีเกมส์ให้ได้มาตรฐานสากลมากที่สุด

สรุปผลงานซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ทั้ง 11 ชาติ เวียดนาม 205 เหรียญทอง 125 เหรียญเงิน 116 เหรียญทองแดง /ไทย 92 เหรียญทอง 102 เหรียญเงิน 138 เหรียญทองแดง/ อินโดนีเซีย 69 เหรียญทอง 91 เหรียญเงิน 81เหรียญทองแดง/ ฟิลิปปินส์ 52 เหรียญทอง 70 เหรียญเงิน 104 เหรียญทองแดง/ สิงคโปร์ 47 เหรียญทอง 46 เหรียญเงิน 73 เหรียญทองแดง/ มาเลเซีย 39 เหรียญทอง 45 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง/ เมียนมา 9 เหรียญทอง 18 เหรียญเงิน 35 เหรียญทองแดง/ กัมพูชา 9 เหรียญทอง 13 เหรียญเงิน 41เหรียญทองแดง/ ลาว 2 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน 33 เหรียญทองแดง/ บรูไน 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และ ติมอร์เลสเต 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง

พิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 มีขึ้นที่ศูนย์กีฬาในร่ม ก่วน เหงือ พาเลซ ออฟ แอธเลติกส์ กรุงฮานอย ความจุ 5,500 ที่นั่ง ในกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ปิดฉากการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ก่อนจะส่งมอบต่อให้ประเทศกัมพูชา ที่จะรับเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในปี 2023 (พ.ศ.2566) วันที่ 5-17 พฤษภาคม 2566

ทั้งนี้ กัมพูชา เป็นหนึ่งในชาติที่ร่วมก่อตั้งกีฬาแหลมทอง (เซียพเกมส์) ก่อนจะเป็นกีฬาซีเกมส์ในปัจจุบัน จะได้จัดมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ กำหนดการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ในวันที่ 5-17 พฤษภาคม พ.ศ.2566 ที่กรุงพนมเปญ เป็นเมืองหลัก เบื้องต้นจะบรรจุกีฬาชิงชัย 40 ชนิด ประกอบด้วย หมวดที่ 1 กีฬาบังคับ 2 ชนิด ได้แก่ กรีฑา (ลู่, ลาน และมาราธอน), กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, โปโลน้ำ)

หมวดที่ 2 กีฬาสากล ได้แก่ แบดมินตัน, บาสเกตบอล (5×5 และ 3×3), มวยสากลสมัครเล่น, บิลเลียด, จักรยาน, เรือแคนู-เรือพาย (เรือประเพณี), หมากรุก, ลีลาศ, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, ฮอกกี้, ยูโด, คาราเต้, มวย, เปตอง, เรือใบ, ตะกร้อ (ชินลง), ซอฟต์เทนนิส, เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, ไตรกีฬา (ทวิกีฬา), วอลเลย์บอล, มวยปล้ำ, ยกน้ำหนัก, วูซู และ หมวดที่ 3 กีฬาทางเลือก หรือ กีฬาพื้นบ้าน ได้แก่ อาร์นิส, เพาะกาย, อีสปอร์ต, ฟลอร์บอล, ยูยิตสู, เจ็ตสกี, คิกบ็อกซิ่ง, โบกาตอร์ (มวยกัมพูชา), โววีนัม, มาร์เชียลอาร์ตส์เกาหลี