'มาดามแป้ง' นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย พอใจภาพรวมการอุ่นเครื่อง 2 นัด ของทัพช้างศึกชุดใหญ่ ในช่วง ฟีฟ่า เดย์ เดือนมีนาคมนี้ เพราะนอกจากผลการแข่งขันที่ทำได้ตามเป้าหมายแล้ว ยังได้ประโยชน์ทั้งในแง่ การทดลองระบบการเล่น และ ผู้เล่นหน้าใหม่ ที่พร้อมเป็นตัวเลือกของทีมในอนาคต
ช้างศึก ภายใต้การคุมทัพของ มาโน โพลกิ้ง ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเอาชนะคู่แข่งแบบไม่เสียประตูได้ทั้ง 2 นัด คือ ชนะเนปาล 2-0 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม และต่อด้วย ชนะซูรินาม 1-0 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พร้อมรักษาสถิติยังไม่แพ้ใครตลอด 10 นัด ตั้งแต่เข้ามาคุมทีม
“มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ กล่าวว่า “อยากขอบคุณน้องๆ นักกีฬา และผู้ฝึกสอน ทีมงานทุกคน ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในการเก็บตัวฝึกซ้อมครั้งนี้ ส่วนตัว รู้สึกพอใจในภาพรวมตลอด 2 นัดที่ผ่านมา เพราะนอกจากผลการแข่งขันที่ดี และทีมยังทำให้คนไทยมีความสุข อีกทั้งยังได้ประโยชน์มากมายจากในช่วง ฟีฟ่า เดย์ ครั้งนี้ด้วย”
“การชนะเนปาล แม้จะเป็นทีมที่มีอันดับโลกไม่สูงมากนัก แต่เราก็ได้เห็นแล้วว่าทีมจากเอเชียใต้ แข็งแกร่ง และ มีสไตล์การเล่นอย่างไร ก่อนที่เราจะต้องเจอกับทีมแถบนี้ ทั้ง ศรีลังกา และ มัลดีฟส์ ในเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก เช่นเดียวกับเมื่อวาน เชื่อว่าเราได้เห็นสิ่งใหม่ๆ จากการที่เล่นกับนักเตะที่ค้าแข้งในยุโรปทั้งหมด ที่สำคัญ น้องใหม่หลายคนได้พิสูจน์ตัวเองให้โค้ชเห็น”
“สุดท้าย อยากขอบคุณแฟนบอลชาวไทย ที่ยังเป็นกำลังใจให้ทีมชาติไทยเสมอ ทั้งที่เชียร์หน้าจอและมาในสนาม นานมากแล้วที่เราไม่ได้อยู่ในบรรยากาศร่วมกันแบบนี้ หวังว่าทุกคนจะมีความสุขไปกับเรา โดยหลังจากนี้ ทุกคนก็จะพยายามทำงานหนักต่อไป ก่อนถึงเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้” มาดามแป้ง ปิดท้าย
ด้าน มาโน่ โพลกิ้ง เฮดโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า “เป็นสองเกมที่มีความสุขมากๆ แผนงานที่วางไว้คือต้องการดูผู้เล่นที่เรียกมาทุกคนและทำให้ทุกคนกลับสโมสรในสภาพที่ดี ในช่วง 7 วัน ได้ซ้อมในแนวทางที่ทำกันมาการเพรสซิ่งต่างๆ ทุกคนทำได้ยอดเยี่ยมทั้งสองชุด ทุกคนมีความมุ่งมั่น ไม่มีอีโก้กันเลยและแสดงให้เห็นถึงทีมเวิร์คที่ดี”
“การเจอกับซูรินาเมวันนี้ไม่ง่าย เพราะนักเตะหลายคนเล่นอยู่ในลีกยุโรป แต่ครึ่งแรกทุกคนเล่นได้ดีมากๆ เป็นบททดสอบที่ดีว่าไทยสามารถสู้กับนักเตะในระดับนี้ได้ แม้ว่าครึ่งหลังจะดร็อปลงไปแต่ก็จะต้องนำมาวิเคราะห์กันอีกครั้ง”
“ตอนนี้ทีมมีแผนจะอุ่นเครื่องอีก 2 นัดในช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนที่จะเดินทางไปอุซเบกิสถาน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นทีมใด ใจนั้นอยากได้ทีมที่มีแรงค์กิ้งดีกว่าทั้งสองเกมเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมและพัฒนาผู้เล่นของไทยอย่างต่อเนื่อง เท่าที่ทราบมีบาห์เรนแต่ยังไม่คอนเฟิร์ม”
“เราได้เห็นผู้เล่นหน้าใหม่ๆ ในการเก็บตัวครั้งนี้ ซึ่งยังไม่ได้เรียกตัวหลักๆ ทั้งสารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา หรือพิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุลมา ทำให้เห็นว่ามีนักเตะที่ดีพอจะติดทีมชาติอีกหลายคน เป็นออปชั่นที่เพิ่มขึ้น และเป็นงานยากของตัวผมเองที่จะเลือก อย่างไรก็ตามจะมองหาผู้เล่นใหม่ๆ ต่อไป ใครที่มีฟอร์มสม่ำเสมอก็พร้อมจะให้โอกาส”
“เรื่องของโปรแกรมทับซ้อน ยู-23 นั้น มันไม่ง่ายเลยเพราะทั้ง ธนวัฒน์, กฤษดา, เอกนิษฐ์ และ ศุภณัฏฐ์ เป็นผู้เล่นที่ดีและดีพอจะเป็นตัวจริงให้ชุดใหญ่ได้ แต่สุดท้ายก็จะต้องพูดคุยกันเพื่อทำให้ทั้งสองทีมเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อจะแข่งขันทั้งสองรายการ”
จากชัยชนะทั้ง 2 นัด ทำให้ ทีมชาติไทย มีโอกาสสูงที่จะขยับจากอันดับ 112 ของโลกในปัจจุบัน ขึ้นไปอยู่ในกลุ่ม 110 อันดับแรกของโลก ในการประกาศฟีฟ่า แรงกิ้ง ที่จะมีขึ้นวันที่ 31 มีนาคม 2565
ขณะที่ ทีมชาติไทย มีโปรแกรมลุยศึกเอเชียนคัพ 2023 รอบคัดเลือก ที่ประเทศอุซเบกิสถาน วันที่ 8-14 มิถุนายน 2565 โดยอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ อุซเบกิสถาน (เจ้าภาพ), มัลดีฟส์ และ ศรีลังกา