ในหลวงพระราชทานเงินแก่มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ - สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ

ในหลวง พระราชินี พระราชทานอาหาร เงิน สิ่งของ แก่มูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ และสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง

17 ส.ค.2565 – เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยราชการในพระองค์ เชิญอาหารพระราชทาน เงิน สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน ไปมอบแก่มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2565  ดังนี้       

 – ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ท่านผู้หญิงอินทิรา  พลธร เป็นประธานเชิญสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์พระราชทาน  ไปมอบแก่ผู้พิการทางสายตา และเจ้าหน้าที่ จำนวน 407 คน ณ มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เขตราชเทวี  กรุงเทพมหานคร          สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับมูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2502 และพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมและพระราชทานกำลังใจแก่ผู้พิการทางสายตา และเจ้าหน้าที่ หลายครั้ง ซึ่งมูลนิธิ ฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาทั้งชายและหญิง โดยไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา พร้อมทั้งให้การศึกษาสายสามัญและการฝึกอบรมด้านอาชีพ เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตาสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และร่วมมือกับหน่วยงานราชการและองค์กรต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้พิการทางสายตาด้วย     

             

– ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ ท่านผู้หญิงจีริกัญญา  โชติกเสถียร เป็นประธานเลี้ยงอาหารพระราชทาน และเชิญเงิน สิ่งของ กับเครื่องอุปโภคบริโภคพระราชทาน ไปมอบแก่ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ และเจ้าหน้าที่ จำนวน 557 คน ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ                   สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้การคุ้มครอง สงเคราะห์ ฟื้นฟูสมรรถภาพในทุก ๆ ด้าน และพัฒนาศักยภาพผู้พิการทุกประเภททั้งชายและหญิง ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ขาดผู้อุปการะ และมีฐานะยากจน เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความมั่นคง และบางส่วนสามารถกลับคืนสู่สังคมและพึ่งพาตนเองได้       

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงตั้งพระราชหฤทัยมุ่งมั่นที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎร รวมถึงเด็ก เยาวชน ผู้พิการ ผู้ทุพพลภาพ และผู้สูงอายุ ในสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ ให้มีโภชนาการที่ดี มีสุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง และมีอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์เพียงพอ ตลอดจนเพื่อใช้ในการดูแลรักษาและป้องกันตนเอง ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 (COVID-19) ที่ยังคงมีอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้ทุกคนมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจที่ดี สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ในหลวง พระราชินี ทรงเปิดอาคาร 'จักรีทศมรามาธิบดินทร์' โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร "จักรีทศมรามาธิบดินทร์" ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

ในหลวงพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้เอกอัครราชทูตเฝ้าฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง-อักษรสาส์นตราตั้ง 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง และอักษรสาส์นตราตั้ง

ในหลวง พระราชินี ทรงเป็นประธานกาล่าดินเนอร์ เฉลิมพระเกียรติ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานงานกาล่าดินเนอร์เฉลิมพระเกียรติ ในโครงการ “สสธวท รวมใจเทิดเอกลักษณ์แห่งปัญจมังกร จารึกความกตัญญูต่อแผ่นดิน”

ในหลวง พระราชินี เสด็จฯ ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 

ในหลวง พระราชินี  เสด็จฯ ในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา   6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง