พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงมีความห่วงใยด้านสาธารณสุขของประชาชนชาวไทย จึงทรงมีพระราชปณิธานแน่วแน่ ในการสืบสาน รักษา และต่อยอด ด้านการแพทย์และการสาธารณสุขไทยให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้ชาวไทยทุกหมู่เหล่าเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างเท่าเทียมกัน
เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ณ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ทรงเฝ้า ฯ รับเสด็จ
สำหรับอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” เป็นอาคารที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อศูนย์การแพทย์แห่งนี้ว่า “อาคารนวมินทรบพิตร๘๔พรรษา” อันมีความหมายว่า ปวงพสกนิกรต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นใหญ่รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา มุ่งหวังให้อาคารแห่งนี้ตอบสนองการให้บริการทางการแพทย์ทั้งผู้ป่วยนอก และผู้ป่วยในของโรงพยาบาลศิริราช ที่นับวันจะมีความซับซ้อนและมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงเพิ่มคุณภาพการบริการอย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจร ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดการประสานงานและการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างคุ้มค่า
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงคำนึงถึงการดูแลรักษาสุขอนามัยและการรักษาพยายาลของผู้เจ็บป่วยในประเทศให้ได้รับโอกาสในการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ จำนวน 100 ล้านบาท สมทบทุนสร้าง “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” และพระราชทานพระราชทรัพย์เพิ่มอีก 700 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ สำหรับใช้ในการรักษาพยาบาลที่อาคารดังกล่าว อาทิ เครื่องเร่งอนุภาคอิเล็คตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็ก (MR Linac) อันเป็นเครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคอิเล็คตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเครื่องแรกและเครื่องเดียวในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง
จุดเด่นคือการฉายรังสีปริมาณสูงพร้อมไปกับการทำเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในแต่ละวันของการฉายรังสีได้ ทำให้แพทย์สามารถเห็นรายละเอียดของก้อนมะเร็งและอวัยวะข้างเคียงได้อย่างชัดเจน เพิ่มความแม่นยำในการฉายรังสี
นอกจากนี้ในขณะฉายรังสี เครื่อง MR Linac สามารถให้ข้อมูลภาพ MRI แบบ Real-time ทำให้สามารถติดตามตำแหน่งของผู้ป่วยและก้อนมะเร็งรวมถึงอวัยวะข้างเคียงได้ตลอด หากพบว่ามีการเคลื่อนที่ออกนอกขอบเขตที่วางแผนไว้หรือตำแหน่งของอวัยวะข้างเคียงเคลื่อนที่เข้ามาในบริเวณที่ฉายรังสีมากจนเกินไป สามารถที่จะหยุดการฉายรังสีและปรับตำแหน่งให้ตรงเพื่อเริ่มฉายรังสีใหม่ ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและลดผลข้างเคียงที่ผู้ป่วยได้รับในเวลาเดียวกัน
เครื่อง MR Linac ยังมีจุดเด่นที่สำคัญที่เครื่องฉายรังสีอื่นๆทำไม่ได้ คือ การที่แพทย์สามารถปรับแผนการฉายรังสีให้เหมาะสมแก่ผู้ป่วยในแต่ละวันให้สอดคล้องกับตำแหน่งของตัวโรคและรูปร่างของตัวโรคในกรณีที่ผู้ป่วยอาจมีลักษณะของก้อนมะเร็งที่เปลี่ยนไปทั้งตำแหน่งและรูปร่าง ด้วยระบบ Online Adaptive Planning System อันชาญฉลาดก่อนเริ่มการรักษาในวันนั้นๆ ทำให้แพทย์และผู้ป่วยมั่นใจว่า สามารถรักษาได้อย่างตรงจุดที่สุด และยังสามารถรองรับการฉายรังสีได้หลากหลายโรค โดยเฉพาะโรคที่ในอดีตการฉายรังสีเป็นไปได้ยากเนื่องจากตัวก้อนมีการเคลื่อนไหวในขนาดฉายรังสี ดังเช่น มะเร็งตับ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น ซึ่งผู้ป่วยทุกสิทธิ์การรักษาสามารถเข้าถึงการรักษาด้วยเครื่องฉายรังสี MR Linac ได้ทั้งหมด
หนึ่งในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่อง MRLINAC เครื่องเร่งอนุภาคอิเล็คตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็ก (MR Linac) ที่อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา กล่าวด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีว่า ได้เข้ารับการฉายแสงเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ให้แก่โรงพยาบาลศิริราช นับเป็นความโชคดีและปลื้มปิติอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทั้งสองพระองค์มิได้ทรงทอดทิ้งในความทุกข์ยากของราษฎร ทุกความแสนเข็ญของปวงประชาล้วนอยู่ในสายพระเนตรเสมอมา
“ได้มาฉายแสงเครื่องที่พระองค์ท่านพระราชทานพระราชทรัพย์ให้โรงพยาบาลศิริราช เพื่อรักษาประชาชนของพระองค์ท่านให้หายจากอาการป่วยไข้ รู้สึกดีใจที่พระองค์ไม่ทิ้งประชาชน พระองค์ยังทรงห่วงใยราษฎรของพระองค์ พูดไม่ออกเหมือนกัน มันตื้นตัน รักและเทิดทูนพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ของประเทศไทยครับ”
ขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยเครื่องฟอกไต อันเป็รอีกหนึ่งอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ได้พระราชทานให้แก่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า โรงพยาบาลศิริราชได้เปิดตึกใหม่ และยิ่งดีใจเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัวที่ได้ทราบว่าในหลวงได้พระราชทานเครื่องฟอกไตมาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคไต ก็รู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ ที่ทรงคอยดูแลความทุกข์สุขของประชาชน ขอให้พระองค์ท่านทั้งสองพระองค์ทั้งในหลวงและพระราชินีทรงพระเจริญ
ปิดท้ายที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยการเปลี่ยนหัวใจ กล่าวทั้งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นว่า ป่วยเป็นโรคหัวใจเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ชีวิตที่ผ่านมาเหมือนคนสิ้นหวังด้วยมีโรคร้ายมารุมเร้า แต่ก็รอดชีวิตมาได้เพราะในหลวง และพระราชินี ที่ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนหนึ่งเพื่อสบทบทุนในการสร้างอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษาขึ้นมา
“ ขอบคุณพระองค์ท่านที่ช่วยชีวิต ที่ช่วยสร้างตึกนี้ขึ้นมาให้ชาวบ้านให้ประชาชนได้รักษาตัว เป็นพระคุณอย่างสูงเลยครับผมเป็นคนยากคนจนมาจากต่างจังหวัดได้มารับการรักษา ได้มารอดชีวิตที่ศิริราชถ้าไม่มีพระองค์ท่านคงลำบากขอบคุณพระองค์ท่านที่ได้ช่วยชีวิตครับ”
กาลเวลาได้เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทยถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขดูแลปกป้องพสกนิกรอย่างทั่วถึง ได้สะท้อนถึงพระราชปณิธานแน่วแน่ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวดั่งที่พระองค์ได้พระราชทานพระบรมราชโองการว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ในหลวง พระราชินี' ทอดพระเนตรการแสดงละครนอก 'สังข์ทอง' เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรการแสดง ละครนอก เรื่อง “สังข์ทอง” ตอน มณฑาลงกระท่อม จัดโดยมูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย
รัฐบาลเตรียมจัดงานเฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่า รัชกาลที่ 1
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคลพระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่1 ครั้งที่ 1/2567 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
'ในหลวง พระราชินี' ทรงเปิด 'สะพานทศมราชัน' ทางพิเศษสายพระราม 3
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด “สะพานทศราชัน” ณ สะพานทศราชัน ทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก
ในหลวง-พระราชินี ทรงสักการะพระเขี้ยวแก้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน มาประดิษฐานในประเทศไทย เป็นการชั่วคราว
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ทางชลมารค ทรงเปิดสวนเฉลิมพระเกียรติ 'เปรมประชาวนารักษ์'
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ “เปรมประชาวนารักษ์” เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ พื้นที่ถนนกำแพงเพชร 6 แนวขนานคลองเปรมประชากร เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร
เชิญชวนสวมเสื้อเหลืองเฝ้าฯ รับเสด็จ 'ในหลวง-พระราชินี' 10 ธ.ค.
สำนักงานเขตบางซื่อ ขอเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ 'ในหลวง-พระราชินี' เส้นทางคลองเปรมประชากร 10 ธ.ค. นี้