สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ ‘พอช.’ สรรหาผู้อำนวยการสถาบันคนใหม่แทน ผอ.คนเก่าที่หมดวาระ เปิดรับสมัครผู้ที่สนใจมีคุณสมบัติเหมาะสมระหว่างวันที่ 14 ก.พ.- 4 มีนาคมนี้
สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พ.ศ. 2543 ปัจจุบัน พอช. ย่างเข้าสู่ปีที่ 22 มีวิสัยทัศน์ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) คือ “ชุมชนท้องถิ่นมีความเข้มแข็งเต็มพื้นที่ประเทศไทย”
‘พอช.’ ยึดหลักการพัฒนาแบบองค์รวม มุ่งสร้างชุมชนเข้มแข็ง
วัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของ พอช. คือ 1.สนับสนุนและให้การช่วยเหลือแก่องค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนเกี่ยวกับการประกอบอาชีพ การพัฒนาอาชีพ การเพิ่มรายได้ การพัฒนาที่อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกในชุมชนทั้งในเมืองและชนบท โดยยึดหลักการพัฒนาแบบองค์รวมหรือบูรณาการและหลักการพัฒนาที่สมาชิกชุมชนมีส่วนร่วมเป็นแนวทางสำคัญ ทั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและประชาสังคม
2.สนับสนุนและให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชน 3.สนับสนุนและให้การช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาองค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชน ตลอดจนประสานงานการสนับสนุนและให้การช่วยเหลือดังกล่าวจากหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และ 4.ส่งเสริมและสนับสนุนและสร้างความร่วมมือขององค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับจังหวัด และระดับประเทศ
อำนาจหน้าที่ของสถาบัน 1.ประสานงานการพัฒนาองค์กรชุมชนของหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้าถึงชุมชนตามความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง 2.ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับองค์กรชุมชนและการพัฒนาองค์กรชุมชน 3.ส่งเสริมและแนะนำให้องค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนมีบทบาทที่เหมาะสมในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้น รวมถึงการพัฒนากิจกรรมในเชิงธุรกิจ 4.รับรองสถานภาพการเป็นองค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากกิจการที่อยู่ในอำนาจของสถาบัน 5.ให้สินเชื่อแก่องค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชน ฯลฯ
บ้านที่มากกว่าคำว่า “บ้าน”
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา เช่น สนับสนุนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยทั้งในเมืองและชนบท ตามโครงการ ‘บ้านมั่นคง’ การพัฒนาที่อยู่อาศัยชุมชนริมคลองลาดพร้าว คลองเปรมประชากร คนไร้บ้าน สนับสนุนการซ่อมแซมบ้านเรือนที่มีฐานะยากจน โดยยึดหลักให้ชุมชนและผู้ที่มีความเดือดร้อนรวมกลุ่มกันแก้ไขปัญหา เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัย “แนวใหม่” โดยให้ชุมชนและผู้เดือดร้อนเป็นแกนหลัก และมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขปัญหา พอช.และภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุน
การพัฒนาชุมชนริมคลองลาดพร้าวและเปรมประชากร เปลี่ยนจากชุมชนรุกล้ำลำคลองให้อยู่อาศัยอย่างถูกกฎหมาย รัฐบาลสามารถสร้างเขื่อนระบายน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม ขณะที่ชุมชนมีที่อยู่อาศัยใหม่ มีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี
ไม่เพียงแต่ส่งเสริมการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อยเท่านั้น พอช.ยังสนับสนุนให้ชุมชนต่างๆ พัฒนาคุณภาพชีวิตชาวชุมชนทุกมิติ เช่น การส่งเสริมอาชีพ รายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม จัดการขยะ น้ำเน่าเสีย ฯลฯ เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกมิติ มิใช่เฉพาะด้านกายภาพ “แต่เป็นบ้านที่มากกว่าคำว่าบ้าน”
การพัฒนาที่อยู่อาศัยดังกล่าวนี้ พอช.ดำเนินการตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และรัฐบาล มีเป้าหมายประชาชนที่มีรายได้น้อยทั่วประเทศ ประมาณ 1,050,000 ครัวเรือน มีวิสัยทัศน์คือ “คนไทยทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีภายในปี 2579”
ชาวบ้านที่อำเภอห้วยคต จ.อุทัยธานี ช่วยกันลงแรงสร้างบ้านใหม่ให้ผู้ที่มีความเดือดร้อน
ชุมชนสู้ภัยโควิด-19
นอกจากนี้ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2563 พอช.ได้สนับสนุนให้ชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะชุมชนในเมืองที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ได้จัดทำโครงการต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ การเฝ้าระวัง การดูแลสมาชิกในชุมชน การจัดทำศูนย์พักคอยในชุมชน ส่งเสริมอาชีพ สร้างแหล่งอาหาร แจกจ่ายอาหาร สิ่งของจำเป็นให้แก่กลุ่มเสี่ยง ครอบครัวเปราะบาง ผู้ได้รับผลกระทบ ฯลฯ
โดยโควิดระยะที่ 1 (ปี 2563) พอช. อนุมัติงบประมาณ 144.25 ล้านบาท เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเร่งด่วนให้แก่เครือข่ายบ้านมั่นคงเมือง จำนวน 300 ชุมชน และเครือข่ายบ้านมั่นคงในชนบท 1,500 ชุมชน
โควิดระยะที่ 3 (ปี 2564) อนุมัติงบประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากโควิด-19 สู่การเข้าถึงชุมชนบุกรุก ชุมชนที่ยังไม่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานรัฐ ครอบคลุมทั้งเขต/เมืองในกรุงเทพฯ ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ระดับเครือข่ายเมือง 63 พื้นที่ และระดับชุมชน 737 พื้นที่
พอช.ร่วมกับเครือข่ายสลัม 4 ภาคและแพทย์ชนบท ตรวจคัดกรองเชื้อโควิดให้แก่ชาวชุมชนช่วงโควิดปี 2564 ที่ พอช.
นอกจากภารกิจของ พอช.ในสถานการณ์ร้ายแรงดังกล่าวแล้ว พอช.ยังมีภารกิจที่สำคัญอีกหลายด้านที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องร่วมกับชุมชน ท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย เช่น ส่งเสริมการจัดสวัสดิการชุมชนทั่วประเทศ เพื่อให้ชุมชนมีกองทุนในการดูแลสมาชิกในชุมชน ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ส่งเสริมอาชีพ การศึกษา ดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในชุมชนท้องถิ่น ฯลฯ
ส่งเสริมการดำเนินงานของสภาองค์กรชุมชนตำบลทั่วประเทศ เพื่อให้ชุมชนมีเวทีกลางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น สร้างประชาธิปไตยจากฐานรากอย่างแท้จริง ฯลฯ
พอช. เปิดสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่
เนื่องด้วยผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนฯ คนล่าสุด คือนายสมชาติ ภาระสุวรรณ ครบวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนกันยายน 2564 ที่ผ่านมา คณะกรรมการสถาบันจึงได้เปิดสรรหาผู้อำนวยการคนใหม่ตามระเบียบที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบัน พ.ศ.2543 คือ
มาตรา 24 ให้สถาบันมีผู้อำนวยการคนหนึ่ง คณะกรรมการเป็นผู้มีอํานาจสรรหา แต่งตั้ง และถอดถอนผู้อํานวยการ หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้อํานวยการให้เป็นไปตามข้อกําหนดของคณะกรรมการ
เจ้าหน้าที่และผู้บริหาร พอช.ร่วมประกาศเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริต เมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่พอช.
มาตรา 25 ผู้อํานวยการต้องเป็นผู้สามารถทํางานให้แก่สถาบันได้เต็มเวลาและต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทย (2) มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง (3) มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์เหมาะสมในการบริหารกิจการของสถาบันตามวัตถุประสงค์และอํานาจหน้าที่ตามมาตรา 7 และมาตรา 8 (4) ไม่มีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 15 (3) (4) (5) หรือ (6)
มาตรา 26 ผู้อำนวยการมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่ไม่เกินสองวาระติดต่อกัน
มาตรา 28 ผู้อํานวยการมีหน้าที่บริหารกิจการของสถาบันให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และอํานาจหน้าที่ของสถาบัน ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกําหนด นโยบาย ประกาศ และมติของคณะกรรมการและเป็นผู้บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่และลูกจ้างทุกตําแหน่ง เว้นแต่ผู้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจสอบภายในตามมาตรา 36 วรรคสอง รวมทั้งให้มีหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) เสนอเป้าหมาย แผนงาน และโครงการต่อคณะกรรมการเพื่อให้การดําเนินงานของสถาบันบรรลุวัตถุประสงค์
(2) เสนอรายงานประจําปีเกี่ยวกับผลการดําเนินงานต่าง ๆ ของสถาบัน รวมทั้งรายงานการเงินและบัญชี ตลอดจนเสนอแผนการเงินและงบประมาณของปีต่อไปต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
(3) เสนอความเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงกิจการและการดําเนินงานของสถาบันให้มีประสิทธิภาพและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ต่อคณะกรรมการ
ทั้งนี้ข้อห้ามตามมาตรา 15 เช่น ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เคยได้รับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิดที่ได้กระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ไม่เป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดํารงตําแหน่งซึ่งรับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง ฯลฯ
ผู้ที่สนใจและมีคุณสมบัติที่เหมาะสม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) เลขที่ 912 ถนนนวมินทร์ เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โทร. 0 2378 8300 ต่อ 8382
เรื่องและภาพ โดยสำนักพัฒนานวัตกรรมชุมชนจัดการความรู้และสื่อสาร สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน
UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’
รวมพลังคนจนแก้ปัญหาที่ดิน-ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศ วันที่อยู่อาศัยโลก ปี 2567
ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยหรือมีที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมเป็นปัญหาที่สำคัญของผู้คนทั่วโลก UN-Habitat หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’
‘21 ปีบ้านมั่นคง’ พอช. แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยคนจนทั่วประเทศ กว่า 3 แสนครัวเรือน
รัฐบาลได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย และสร้างความมั่นคงในการอยู่อาศัยแก่คนจนในเมืองที่ ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มผู้อยู่อาศัยในชุมชนแออัด
เสียงจากคลองเปรมประชากร…บ้านหลังใหม่ชีวิตใหม่ “คืนสายน้ำให้คนคลอง คืนสายคลองให้คนเมือง”
คลองเปรมประชากร มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คลองนี้ได้ประสบปัญหามากมาย
บอร์ด พอช. มีมติ พักชำระหนี้องค์กรผู้ใช้สินเชื่อในพื้นที่ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ
สถานการณ์การเกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุยางิ ในระหว่างวันที่ 7 - 8 กันยายน 2567 ส่งผลกระทบต่อประชาชนในจังหวัดเชียงราย จำนวน 7 อำเภอ
รมว.พม. แจ้งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 34 แห่ง ใน 13 จว. ช่วยกลุ่มเปราะบาง-ผู้ประสบภัยน้ำท่วมริมแม่น้ำโขง ด้าน พอช. พร้อมอนุมัติงบช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบภัยพิบัติภาคเหนือและอีสาน
จากสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ส่งผลกระทบในพื้นที่ 8 จังหวัด 47 อำเภอ 207 ตำบล 22,817 ครัวเรือน โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา