จากปี 1908 เดินทางเข้าสู่ศตววรษที่ 20 Rolex Watches ก็ยังคงครองตำแหน่งแบรนด์นาฬิกาหรูที่หลายคนทั่วโลกอยากครอบครอง ไม่ว่าจะในกลุ่มมืออาชีพที่มองหาผู้ช่วยบอกเวลาสุดแม่นยำ มีฟังก์ชันตอบโจทย์ใช้งานเฉพาะด้าน กลุ่มนักสะสมที่มองหาสินทรัพย์ที่คุ้มค่าแก่การลงทุน รวมไปถึงกลุ่มคนทั่วไปที่ชื่นชอบการแต่งตัว มองหา Accessory ที่ช่วยเสริมลุคให้หรูหรา สมบูรณ์แบบมากขึ้น โดย Rolex Watches ทุกเรือนรังสรรค์ต่างขึ้นด้วยแนวคิด ‘ความยั่งยืน’ ต้องมาพร้อมทั้งความงดงามและความคงทนเหนือกาลเวลาให้สามารถคงอยู่ได้ชั่วนิจนิรันดร์ อย่างการให้ความสำคัญกับ ‘คุณสมบัติกันน้ำลึก’ (Waterproofness) หนึ่งในนวัตกรรมในตัวเรือนที่พิสูจน์ว่า Rolex Watches รังสรรค์ด้วยความเชี่ยวชาญขั้นสูงเพื่อให้ยืนหยัดอยู่เหนือกาลเวลาจริงๆ และวันนี้เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกเบื้องหลังของคุณสมบัติกันน้ำลึกที่อยู่ใน Rolex Watches กัน
ตัวเรือน Oyster สู่การเป็นนาฬิกากันน้ำเรือนแรกของโลก
ตัวเรือน Oyster ของ Rolex Watches นับเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติวงการนาฬิกาโลกเลยก็ว่าได้ เพราะการเลือกใช้วัสดุตัวเรือนเป็น Oyster โดยมีการขันสกรูและติดตั้งซีลเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าตัวเรือนนั้น นั้นทำให้ Rolex สามารถกันได้ทั้งน้ำลึกระดับร้อยเมตรและฝุ่นละอองอย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นนาฬิกากันน้ำเรือนแรกของโลกด้วย ซึ่งถือเป็นต้นแบบของนาฬิกากันน้ำ และปฏิวัติวงการนาฬิกาทั่วโลกเลยก็ว่าได้
ระบบ Triplock และเม็ดมะยมไขลาน Triplock ล็อกตัวเรือนให้ปลอดภัยจากน้ำและสิ่งรบกวนอย่างแน่นหนา
Rolex Watches ที่อยู่ในกลุ่มนาฬิกาสำหรับมืออาชีพอย่างนาฬิกาสำหรับดำน้ำลึก Rolex Deepsea หรือ Rolex Submariner หรือรุ่นอื่นๆ เช่น Rolex Sea-Dweller ที่อาจถูกนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีควาแปรปรวนทางน้ำ Rolex มีการติดตั้งระบบ Triplock และเม็ดมะยมไขลาน Triplock ที่ปรับปรุงและพัฒนาให้มีคุณสมบัติด้านการกันน้ำและต้านทานต่อสิ่งรบกวนจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ ให้ได้มากที่สุด โดยระบบจะมี O-ring Gaskets หรือยางกันน้ำหลายวง ประกอบเป็นระบบกันน้ำสามชั้น เพื่อล็อกตัวเรือนเอาไว้อย่างแน่นหนา ปิดสนิท เรียกได้ว่าแม้กระทั่งอากาศก็อาจไม่สามารถผ่านเข้าไปได้เลย
วาล์วคายฮีเลียม (HEV) ป้องกันการกันน้ำและแรงดันสูง
วาล์วคายฮีเลียม (Helium Escape Valve, HEV) เป็นนวัตกรรมของ Rolex Watches ที่อยู่ในรุ่นนาฬิกาสำหรับนักดำน้ำ อย่างในรุ่น Sea-Dweller และ Deepsea วาล์วนี้ได้รับการจดสิทธิบัตรในปี 1967 มาพร้อมคุณสมบัติเฉพาะในการระบายก๊าซฮีเลียมที่สะสมอยู่ภายในตัวเรือนนาฬิกา เมื่อนาฬิกาขึ้นสู่ผิวน้ำ โดยจะทำงานอัตโนมัติเมื่อแรงดันภายในตัวเรือนมากกว่าแรงดันภายนอก ทำให้สามารถระบายฮีเลียมออกไปได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
ทดสอบขั้นสูงในห้องปฏิบัติงาน เพื่อประสิทธิภาพการกันน้ำสูงสุด
ไม่เพียงแค่รังสรรค์และออกแบบนวัตกรรมการกันน้ำเท่านั้น แต่ Rolex ยังควบคุมสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอนการผลิตด้วย เริ่มตั้งแต่ตรวจสอบความบริสุทธิ์ของอากาศและระดับความชื้นอย่างพิถีพิถันในห้องปฏิบัติงานเฉพาะของ Rolex จัดเก็บทุกชิ้นส่วนอย่างมิดชิด
โดย Rolex Watces ทุกเรือนจะต้องทดสอบนาฬิกาในถังปรับความดันบรรยากาศสูง ทำให้มีความทนทานต่อน้ำในระดับที่ตั้งค่าไว้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่ 100 เมตร ไปจนถึงหลัก 300 เมตรเลย
และนี่คือเบื้องหลังคุณสมบัติกันน้ำลึก (Waterproofness) ของ Rolex Watches นวัตกรรมสำคัญส่วนหนึ่งที่พิสูจน์ว่า Rolex เป็นแบรนด์นาฬิกาหรูเหนือกาลเวลา ที่ไม่เพียงแค่เน้นดีไซน์งดงาม เลือกใช้วัสดุเปี่ยมมูลค่า แต่ในด้านความแม่นยำและความทนทานก็เป็นสิ่งที่เหล่าผู้สวมใส่ หรือเหล่ามืออาชีพทุกๆ ท่านสามารถมั่นใจได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่สิบปี กี่ร้อยปีก็ตาม สำหรับใครที่อยากสัมผัสประสบการณ์การเป็นเจ้าของเรือนเวลาสุดพิเศษจาก Rolex ที่ Nam Sawang - นำสว่าง ตัวแทนจำหน่าย Rolex อย่างเป็นทางการ มี Rolex Watches หลากหลายรุ่น หลากหลายคอกเลกชันให้คุณได้เลือกซื้อ พร้อมให้บริการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกท่าน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'เจโทร-บีโอไอ-สกพอ 'จับมือตั้ง'Sustainable Business Desk '
ไทย-ญี่ปุ่น หนุนอุตสาหกรรมสีเขียว ล่าสุด เจโทร จับมือ บีโอไอ และ สกพอ.จัดตั้ง Sustainable Business Desk ด้านเอกชนใหญ่เครือเจริญโภคภัณฑ์ พีทีที โกลบอล เคมิคอล และเอกชนญี่ปุ่นขานรับ เผยผลรูปธรรมพัฒนาธุรกิจยั่งยืนและความเป็นกลางทางคาร์บอน