ปลัด พม. เปิด คิกออฟ “ปิดเทอมสร้างสรรค์ ให้ทุกวันเป็นวันของเด็ก” ช่วยผู้ปกครองแบ่งเบาภาระ รับฝากดูแลบุตรหลานช่วงปิดเทอม

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์ ให้ทุกวันเป็นวันของเด็ก” เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการส่งเสริมและพัฒนาทักษะเด็กและเยาวชนอย่างรอบด้าน อีกทั้งเป็นการลดปัญหาทางสังคมที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงปิดภาคเรียน ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์และประสบการณ์ฝึกการทำงาน โดยมี นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวรายงาน พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมควบคุมโรค กรมพลศึกษา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว บริษัท พรอสเพอร์ เวล อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด สมาคมสแต็คประเทศไทย มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย เข้าร่วม ณ บริเวณโถง ชั้น 1 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า ประเทศไทย ได้ลงนามในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2535 เป็นต้นมา ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของเด็กทุกคนที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 4 ด้าน ได้แก่ สิทธิที่จะมีชีวิตรอด , สิทธิที่จะได้รับการปกป้องคุ้มครอง , สิทธิที่จะได้รับการพัฒนา และสิทธิที่จะมีส่วนร่วม โดยตั้งอยู่บนหลักการของการไม่เลือกปฏิบัติ และถือประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นที่ตั้ง ปัจจุบันสถานการณ์สังคมไทย กำลังเผชิญกับวิกฤตประชากร คือ สังคมสูงวัย เด็กเกิดน้อย วัยแรงงานแบกรับภาระพึ่งพิงมากขึ้น โดยมีเด็กและเยาวชน จำนวน 18,978,917 คน คิดเป็น 29.65 ของประชากรไทยทั้งประเทศ (64.98 ล้านคน) แบ่งเป็นเด็ก 0 - 17 ปี จำนวน 12,436,691 คน และเยาวชน 18 - 25 ปี จำนวน 6,542,226 คน (ข้อมูลจากกระทรวงมหาดไทย ณ ตุลาคม 2567) ขณะที่อัตราการเกิดน้อยกว่าอัตราการตาย ดังนั้น เด็กจึงถือเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ และมีคุณค่าของประเทศ

นายอนุกูล กล่าวว่า งานวันนี้ นับเป็นการ คิกออฟ (Klick off) กิจกรรม “ปิดเทอมสร้างสรรค์ ให้ทุกวันเป็นวันของเด็ก” พร้อมกันทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้ง 77 จังหวัด และสถานรองรับเด็ก 10 กว่าแห่งของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านเด็กและเยาวชน เพราะทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับเด็ก สอดคล้องกับการแก้ปัญหาวิกฤตประชากรตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เนื่องจากอัตราการเกิดเด็กต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราต้องกลับมาให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตของเด็ก โดยเฉพาะการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ ซึ่งในช่วงปิดภาคเรียน จะทำให้ผู้ปกครองไม่ละเลยการใช้เวลาให้เกิดประโยชน์เต็มที่ เมื่อบุตรหลานได้กลับมาอยู่กับครอบครัว อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าว พบว่า เด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำ หรืออุบัติเหตุอื่นๆ ซึ่งกระทรวง พม. มีความห่วงใยเด็กปฐมวัย แดละเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 6 ขวบ จนถึง 10 ขวบ เพราะเป็นเด็กที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองที่มีภาระสามารถนำบุตรหลานมาฝากดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัวหรือสถานรองรับเด็ก โดยที่ไม่จำกัดอายุ เพื่อให้เด็กๆ ได้เข้ามาร่วมกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่สร้างสรรค์ในช่วงปิดภาคเรียน ตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2568 โดยเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว และสถานรองรับเด็ก จะช่วยดูแลบุตรหลานของท่านและเฝ้าดูพฤติกรรม เพื่อติดตามพัฒนาการเด็ก อีกทั้งสภาเด็กและเยาวชนทั่วประเทศในทุกจังหวัด ทุกอำเภอ และทุกตำบล จะช่วยจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับบุตรหลานของท่านอีกด้วย