กยท.เสริมสร้างความมั่นคงอุตสาหกรรมยางไทย เพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ จับมือเอกชนผลิต
ยางล้อจักรยานยนต์แบรนด์ “Greenergy Tyre” มาตรฐานระดับโลก พร้อมเดินหน้าขยายชนิดยางล้อรถยนต์ครบทุกประเภท ชูจุดเด่นคุณภาพสูง ราคาถูก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มั่นใจจะมีส่วนสำคัญ
ทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้น
ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจาก กยท. ได้เปิดตัวยางล้อยี่ห้อ “Greenergy Tyre” สำหรับรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก(รถปิคอัพ) และรถตู้เมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างน่าพอใจ และเพื่อสนับสนุนมาตรการที่จะเพิ่มปริมาณการ
ใช้ยางในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ล่าสุดในปีนี้ กยท. ได้ร่วมมือกับบริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ IRC ผู้ผลิตยางอีลาสโตเมอร์ระดับโลก เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ยางล้อจักรยานยนต์ให้กับ กยท. โดยในล็อตแรกได้ผลิตยางล้อจักรยานยนต์ที่ใช้ได้กับจักรยานยนต์รุ่นยอดนิยมในตลาด จำนวน 5 รุ่น รวมกว่า 50,000 เส้น ซึ่งได้สำรวจแล้วว่าเป็นรุ่นที่เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศกว่า 1.5 ล้านคน และประชาชนส่วนใหญ่ใช้งาน
สำหรับจุดเด่นของยางล้อจักรยานยนต์ Greenergy Tyre คือผลิตจากยางคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานสากล ผ่านการทดสอบทุกขั้นตอน ลายดอกใหม่ ดีไซน์ทันสมัย เพิ่มสมรรถนะในการยึดเกาะได้ทุกสภาพเส้นทาง มีความนุ่มนวล รีดน้ำได้อย่างดีเยี่ยม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และยังให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมตั้งแต่วัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนถึงการจัดจำหน่าย ยางล้อทุกเส้นสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งวัตถุดิบยางได้ว่ามาจากสวนยางพาราที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ป่า รวมทั้งจะต้องมีการจัดการสวนยางพาราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม สอดรับกับกฎระเบียบ EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของสหภาพยุโรป
ในส่วนของยางล้อรถยนต์ จากเดิมที่ผลิตจำหน่ายเฉพาะรถบรรทุกขนาดเล็กขนาดเดียวคือ 215/70/R15 กยท. มีแผนที่จะผลิตยางล้อสำหรับรถยนต์ประเภทต่างๆ เพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมทุกประเภท
ทั้งรถบรรทุกขนาดใหญ่ รถบัส รถเพื่อการเกษตร รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถยนต์ขับเคลื่อน4ล้อ (ออฟโรด) เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการผลิตยางล้อ Greenergy Tyre ของ กยท. ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะเพิ่มปริมาณการ
ใช้ยางในประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งอุตสาหกรรมยางล้อของไทยมีศักยภาพและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าผลิตยางล้อที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพสูง ทำให้ไทยเป็นฐานการผลิตยางล้อรายใหญ่ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยประเทศใหญ่ๆ ที่นำเข้ายางล้อจากประเทศไทย เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศในสหภาพยุโรป เป็นต้น
ประธานบอร์ด กยท. กล่าวต่อไปว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกยางพารารายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ยางที่ส่งออกส่วนใหญ่ยังส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศ ดึงรายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้นแล้ว ยังจะทำให้ราคายางมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งยังจะลดผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าของประเทศผู้นำเข้ายางพาราได้อีกด้วย โดยเฉพาะการแปรรูปยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์ยางล้อ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในแง่ของการเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพารา กระจายรายได้สู่เกษตรกรและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางได้รับราคาที่ยุติธรรมจากการจำหน่ายวัตถุดิบยางให้โรงงานแปรรูป เกิดการสร้างงานในอุตสาหกรรมการผลิตยางล้อ ตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการจำหน่าย
“จะเห็นได้ว่าการแปรรูปยางพาราสู่ยางล้อไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้กับยางพาราไทยเท่านั้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมยานยนต์ และส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ถือเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางของไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง” ประธานบอร์ด กยท. กล่าวในตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กยท. จับมือเอกชนเดินหน้าสวนยางอินทรีย์ นำร่อง 10,000 ตัน วางเป้าราคาสูงกว่าตลาด 6 บาท
กยท.จับมือเอกชนขับเคลื่อนสวนยางอินทรีย์ตามกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลก นำร่องรับซื้อน้ำยางสดจากสวนยางในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์และชุมพร เพื่อนำมาผลิตน้ำยางข้น
กยท.เดินหน้าผลิตน้ำหมักชีวภาพปลาหมอคางดำเฟส 2 เผยช่วยเพิ่มผลผลิต-ลดต้นทุนได้ เตรียมขอขึ้นทะเบียนเป็นปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
กยท. ประสบผลสำเร็จในการับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อนำมาผลิตน้ำหมักชีวภาพใช้ในสวนยางพารา เดินหน้าต่อเป็นเฟสที่ 2
กยท.เดินหน้าเพิ่มปริมาณยางEUDR 2ล้านตัน/ปี เปิดไฟเขียวMOUกับเอกชนเพิ่มมูลค่ายาง6,000 ล้านบาท
กยท.เดินหน้าส่งเสริมสวนยางอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มปริมาณยางEUDR 2 ล้านตัน/ปี รองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น เปิดไฟเขียวขยาย MOUความร่วมมือทางด้านธุรกิจกับภาคเอกชน
กยท. ขยายตลาดยาง EUDR ต่อเนื่อง จับมือ ไทยรับเบอร์ฯ เซ็น MOU ซื้อขายน้ำยางสด 5 พันตันต่อเดือน
กยท. ทำได้จริงเปิดดีลซื้อขายน้ำยาง EUDR ต่อเนื่อง จับมือเอกชนรายแรก ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป เซ็น MOU ซื้อยางในราคาพรีเมี่ยม
กยท. มั่นใจก่อนสิ้นปีนี้ราคายางทะลุ 100 บาท/กก. ทุ่ม400ล. เปิดโรงงานยางแท่ง STR20 รองรับEUDRตรวจสอบย้อนกลับ100%
กยท.มั่นใจก่อนสิ้นปีนี้ราคายางทะลุ 100 บาท/กก.อย่างแน่นอน ย้ำชัดครั้งนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ประกาศเดินหน้าเอาจริงปราบยางเถื่อนตรวจสอบเส้นทางด้านการเงิน
กยท.ดีเดย์ซื้อปลาหมอคางดำ 1 ล้านกก. ผลิตน้ำหมักชีวภาพเพิ่มผลผลิตให้ยางพารา
กยท.ดีเดย์ เริ่มรับซื้อปลาหมอคางดำแล้วเป็นวันนี้เป็นวันแรก ตั้งเป้าหมาย 1 ล้านกก. นำร่องในพื้นที่การระบาด 16 จังหวัด ราคา 15 บาท/กก.