20 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดสัมมนาสิทธิประโยชน์จากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมีนายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงาน นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารสังกัดกระทรวงแรงงาน และเจ้าหน้าที่จากสถานประกอบกิจการในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ร่วมพิธี ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมบางกอกพาเลส กรุงเทพมหานคร
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดสัมมนาสิทธิประโยชน์จากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อแนะนำให้ผู้ประกอบการเล็งเห็นถึงความสำคัญและปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมทั้งใช้สิทธิประโยชน์จากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานอย่างเต็มที่ อีกทั้งสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะพนักงาน ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและบริการ พนักงานมีทักษะตรงกับตลาดแรงงาน
.
นอกจากนี้ยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยสามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการฝึกอบรมมาหักลดหย่อนภาษีอากรได้ในอัตราร้อยละร้อยของค่าใช้จ่ายที่ได้ใช้ไป หากพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ลูกจ้างเกินกว่าร้อยละ 70 ของลูกจ้างทั้งหมด สามารถยื่นขอเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุน 200 บาทต่อคน หรือหากมีลูกจ้างที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงาน และสถานประกอบกิจการมีการจ่ายค่าจ้างในอัตราตามมาตรฐานฝีมือแรงงานไม่น้อยกว่า 180 วัน สามารถยื่นขอเงินช่วยเหลือหรืออุดหนุน 1,000 บาทต่อคน ไม่เกินปีละ 100,000 บาท
.
นอกจากนี้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ยังมีกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งสถานประกอบกิจการสามารถยื่นกู้ยืมเพื่อเป็นเงินทุนในการฝึกอบรม หรือทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้ลูกจ้างได้ ในวงเงินกู้ยืมไม่เกิน 1,000,000 บาทต่อครั้ง อัตราดอกเบี้ย 0% ระยะเวลาผ่อนชำระคืนไม่เกิน 12 เดือนได้อีกด้วย ดังนั้นหากสถานประกอบกิจการ ได้รับทราบและปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงานของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการพัฒนาทักษะได้เป็นอย่างดี มีลูกจ้างที่มีมาตรฐาน ทันสมัย ทันต่อเทคโนโลยี และมีทักษะในด้านการทำงานมากขึ้น ตรงตามตลาดแรงงาน สามารถรองรับเศรษฐกิจใหม่ เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล พลังงานสะอาด และเศรษฐกิจสีเขียว เป็นต้น
.
นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ตั้งเป้าหมาย ปี 2568 ดำเนินการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการ ดำเนินการพัฒนาลูกจ้าง พัฒนาทักษะแรงงาน 4 ล้านคนทั่วประเทศ ในส่วนของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 13 กรุงเทพมหานคร มีเป้าหมายพัฒนาทักษะแรงงาน 1.57 ล้านคน จากสถานประกอบกิจการ 7,231 แห่ง ทั้งนี้หากสถานประกอบกิจการที่ได้ทำการยื่นรับรองหลักสูตรและดำเนินการพัฒนาทักษะให้แก่ลูกจ้างของตนเองเรียบร้อยแล้วในห้วงระหว่างเดือนมกราคม – ธันวาคม 2567 สามารถยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน (สท.2) ได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 31 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ PRB e – Service
.
สิทธิประโยชน์จากกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานยังมีอีกมากมาย สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานได้ทุกจังหวัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จ่ายแล้ว 22 ราย 17.4 ล้าน! ก.แรงงานเยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
กระทรวงแรงงานจ่ายเงินเยียวยาผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวแล้ว 17.4 ล้านบาท พร้อมเตรียมช่วยเหลือญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ หากเอกสารครบสามารถดำเนินการเสร็จภายใน 7 วัน
พิพัฒน์ หัวโต๊ะ ประชุมกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย สำหรับกิจการก่อสร้างขนาดใหญ่ ใน กทม.ปริมณฑล ระบุเหตุแผ่นดินไหว ก.แรงงาน พร้อมช่วยเหลือเยียวยาทั้งแรงงานไทย-ต่างด้าว ที่บาดเจ็บ และ เสียชีวิต
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวภายหลัง เป็นประธานการประชุมกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัยสำหรับกิจการก่อสร้างขนาดใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ครั้งที่ 1/2568
“มารศรี” เลขาธิการ สปส. ลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือกระทรวงแรงงาน จตุจักร กำชับเจ้าหน้าที่ สปส. ชี้แจงสิทธิประโยชน์ พร้อมเยียวยาลูกจ้างเต็มที่
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม “ศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว (ศปช.รง.)” จตุจักร กรุงเทพมหานคร เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
”พิพัฒน์“ ห่วงใยผู้ใช้แรงงาน เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง สั่งตั้งวอร์รูม เร่งช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ทั่วประเทศ ทันที
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แสดงความห่วงใยต่อพี่น้องแรงงานและสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในหลายพื้นที่
ประกันสังคม แจ้งผู้ประกันตนว่างงาน เช็กสิทธิรับเงินทดแทนด่วน!
สำนักงานประกันสังคมเตือนผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ว่างงาน เช็กสิทธิรับเงินทดแทนสูงสุด 50% ของค่าจ้าง พร้อมเงื่อนไขชัดเจน ย้ำต้องขึ้นทะเบียนว่างงานภายใน 30 วัน และรายงานตัวทุกเดือนผ่านระบบ ห้ามพลาดสิทธิสำคัญ