“รองนายกฯ ประเสริฐ” สั่งเดินหน้าคุมเข้มลดเจ็บ-ตายปีใหม่ เฝ้าระวัง “นักซิ่งเยาวชน” หลังพบดื่มแล้วขับ “เจ็บ-ตาย” เฉลี่ยชั่วโมงละ 3 คน เล็งเชื่อมข้อมูลทำระบบ “ใบสั่งออนไลน์”

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวในการประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ครั้งที่ 9/2567 ว่า การขับเคลื่อนงานลดอุบัติเหตุทางถนน เทศกาลปีใหม่ 2568 เป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มความเข้มข้น จากสถิติอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ 2565-2567 รวม 7,435 ครั้ง บาดเจ็บ 7,416 คน เสียชีวิต 934 ราย โดยปี 2567 พบจังหวัดเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี 82 ครั้ง พระนครศรีอยุธยา 74 ครั้ง เชียงราย 67 ครั้ง ตามลำดับ ช่วงอายุที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับมากที่สุด คือ 20-29 ปี ในจำนวนนี้เป็นเด็ก เยาวชน อายุ 0-24 ปี จำนวน 29.8% หรือคิดเป็น 569 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 3 คน โดยเยาวชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญ ดังนั้นเพื่อลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลและลดความสูญเสียให้เป็นไปตามแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนน ฉบับที่ 5 ปี 2565-2570 ที่ต้องการลดผู้เสียชีวิตไม่เกิน 12 คนต่อแสนประชากร ขอให้ สสส. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีเครือข่ายดำเนินงานอย่างเข้มข้นและสื่อสารรณรงค์สร้างความตระหนักมาตรการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาล

“ขอให้ สสส. สื่อสารมาตรการห้ามขายเหล้าให้เด็กต่ำกว่า 20 ปีอย่างเข้มข้น หากตรวจพบควรขยายผลไปถึงร้านค้าที่จำหน่ายให้กับเด็ก เพราะ 55% ของอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ ซึ่งกระทรวงดีอีพร้อมที่จะเสริมความเข้มข้นการทำงานลดอุบัติเหตุ โดยได้มอบให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงดีอี หารือร่วมกับสำนักงานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้พัฒนาระบบการติดตามใบสั่งออนไลน์ และตรวจสอบประวัติการกระทำผิดซ้ำ รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลในส่วนของตำรวจ กรมการขนส่งทางบก กับประชาชน ภายใน 6 เดือน เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ที่เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด” นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องเร่งป้องกันแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชนอย่างเร่งด่วน โดยมอบให้ สสส. นำความเห็นมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ก่อนวันเด็กแห่งชาติ ปี 2568 เพื่อขอคงไว้ซึ่งกฎหมายให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าผิดกฎหมาย ห้ามนำเข้า และห้ามจำหน่าย และให้ สสส. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 5 ประเด็น คือ 1 ประสานกระทรวงสาธารณสุข เร่งการบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าและขายบุหรี่ไฟฟ้า ปราบปรามแหล่งขายอย่างเคร่งครัด 2 ขอความร่วมมือหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงดีอี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย พิษภัย ผลกระทบของบุหรี่ไฟฟ้าผ่านสื่อ 3 ขอความร่วมมือ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) และกระทรวงดีอี ในการควบคุมการขายบุหรี่ไฟฟ้าทุกช่องทางอย่างจริงจัง รวมทั้งขอร่วมมือจากภาคประชาชนในพื้นที่ร่วมกันสอดส่อง เฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสผู้ขายหรือผู้ให้บริการเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า 4 เร่งรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชน ในระบบการศึกษาทุกระดับผ่านการสื่อสารในทุกช่องทาง และ 5 ให้ขอความร่วมมือไปยังสำนักงานสถิติแห่งชาติ เพิ่มความถี่ในการสำรวจการสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อเป็นข้อมูลของประเทศ

นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส.จะเร่งดำเนินการสรุปข้อเสนอแนะ และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าในเด็กและเยาวชน นำเสนอต่อนายรัฐมนตรี เพื่อให้เป็นของขวัญวันเด็กที่จะถึงนี้ นอกจากนี้เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุและสูญเสียมากกว่าปกติ ซึ่งแผนการทำงานเพื่อลดอุบัติเหตุ สสส. ได้กำหนดเป็นแผนงานเทศกาลปีใหม่ เช่น การรณรงค์ผ่านสื่อทุกรูปแบบเพื่อสร้างความตระหนักรู้ โดยร่วมกับมูลนิธิเมาไม่ขับและเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับกว่า 100 เครือข่ายทั่วประเทศ เน้นย้ำให้ผู้พบเห็นผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะขับขี่ สามารถส่งคลิปมายังช่องทางต่างๆ เช่น เพจอาสาตาจราจร เพจตำรวจทางหลวง เพจกองบังคับการตำรวจจราจร โดยผู้กระทำผิดที่ถูกบันทึกคลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจสอบและติดตามมาดำเนินคดีทุกกรณี ร่วมกับเครือข่ายสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ตั้งด่านตรวจเตือนในอำเภอเสี่ยง 222 อำเภอ เน้น “ดื่มไม่ขับ-ไม่ขับเร็ว-สวมหมวกนิรภัย”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สสส. สานพลัง สกร. ดึง บรรณารักษ์ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” 30 แห่ง พร้อมครูศูนย์การเรียนรู้ ร่วมสร้างพื้นที่เติมสุข(ภาวะ) ในชุมชน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 เม.ย. 2568 ที่โรงแรมทีเค พาเลซ แอนด์คอนเวนชั่น หลักสี่ กรุงเทพฯ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) กระทรวงศึกษาธิการ

'ประเสริฐ' มั่นใจกาสิโนไปต่อในจังหวะเวลาที่เหมาะสม!

'ประเสริฐ' รับเป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจก่อนประชุมสภาสมัยหน้า หลังมีหลายฝ่ายต้านกาสิโน ยันแกนนำ พท.ไม่หนักใจอะไร เหตุมีอีกหลายเรื่องที่เร่งด่วน

'ประเสริฐ' คาด พ.ร.ก.ไซเบอร์ 2 ฉบับประกาศใช้เร็วๆ นี้

'ประเสริฐ' คาด พ.ร.ก.ไซเบอร์ 2 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเร็ววันนี้ รับอยากให้ใช้ก่อนสงกรานต์ ยก เป็นมาตรการสำคัญในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

สสส. สานพลัง สคล.-มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม ดีเดย์ รณรงค์เทศกาลสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า 2568

สสส. สานพลัง สคล.-มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม ดีเดย์ รณรงค์เทศกาลสงกรานต์ปลอดภัย พื้นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า 2568 ผลสำรวจชี้ไม่ดื่มช่วยลดอุบัติเหตุ-ลดเสี่ยง-ลดทะเลาะวิวาท-ล่วงละเมิดได้ ประชาชน 91.4% เห็นด้วยจัดสงกรานต์ปลอดเหล้าลดอุบัติเหตุ อีก 75% ชอบสงกรานต์แบบไร้แอลกอฮอล์ พร้อมชวนลด 6 พฤติกรรมเสี่ยง Call out ไม่เอาน้ำเมา

'ยกระดับ ไม่ยกเว้น' สสส. สานพลังภาคี ชวนมองชุมชนไม่ขึ้นทะเบียน ไร้โอกาสมีคุณภาพชีวิตที่ดี กระทบเศรษฐกิจ-สุขภาพ ชู โครงการ 'ชุมชนยกกำลังดี' สร้างพื้นที่สร้างสรรค์-อาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต 48 ชุมชนไม่ขึ้นทะเบียนทั่วกรุงฯ พร้อมเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งร่วมขับเคลื่อนเมืองสุขภาวะ

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) และภาคีเครือข่าย จัดงาน Commune Can Do Face รวมเพื่อน เชื่อมคน ชุมชนยกกำลังดี ภายใต้โครงการสร้างเสริมสุขภาวะชุมชนไม่ขึ้นทะเบียนกรุงเทพมหานคร “ชุมชนยกกำลังดี” เปิดพื้นที่กระจายโอกาสให้คนในชุมชนที่ไม่ขึ้นทะเบียนทั่วกรุงเทพฯ สะท้อนคุณค่าและตัวตนของคนในชุมชน