ความแข็งแกร่งที่นุ่มนวล
แม้ใกล้จะส่งท้ายปี 2024 แล้วก็ตามแต่แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิสฯอย่าง มอริส ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix) ก็ยังได้เปิดตัวนาฬิกา AIKON Automatic Ceramic ที่มีรูปลักษณ์อันโดดเด่นออกมาด้วยกันถึงสองขนาด โดยเป็นสองเฉดสีที่ตัดกันอย่างสีขาวและสีดำ นาฬิการุ่นล่าสุดนี้นับเป็นผลงานสุดยอดอันเกิดจากการวิจัยและพัฒนาที่ยาวนานถึงสามปี โดยเป็นผลงานที่มีคุณค่าสมกับราคาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งทำให้การที่จะได้เป็นเจ้าของนาฬิกาเซรามิกสักเรือนที่มีรูปลักษณ์ประณีตงดงามมากเป็นพิเศษ กลายเป็นเรื่องที่จับต้องได้ นอกจากนี้ มอริส ลาครัวซ์ ยังก้าวไปไกลกว่าเดิมด้วยการใช้ 'เซรามิกเชิงเทคนิค' ซึ่งเป็นวัสดุที่มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซรามิกทั่วไป โดยการนำออกไซด์อย่าง”เซอร์โคเนียมออกไซด์” เพิ่มเติมเข้าไปกับตัวเรือนและสายนาฬิกามากเป็นพิเศษ ทั้งนี้ก็เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นผิวและเหลี่ยมมุมในทุกๆด้านจะสะท้อนความเป็นเลิศออกมาได้อย่างโดดเด่น นอกจากนี้ข้อต่อสายนาฬิกาแต่ละชิ้นยังได้ออกแบบมาให้รับกับข้อมือได้อย่างกลมกลืน ก็เพื่อให้การสวมใส่นั้นเป็นไปอย่างง่ายดายและสบายข้อมือที่สุด นาฬิการุ่นล่าสุดนี้ ถือเป็นเรือนเวลารุ่นใหม่อย่างชัดเจนที่ยังคงรักษาชื่อเสียงแห่งตระกูล AIKON ในด้านรายละเอียดอันพิถีพิถัน และการสัมผัสอันยอดเยี่ยมไว้อยู่เสมอ ผ่านหนึ่งวัสดุแต่สองรูปลักษณ์ ทั้งขาวหรือดำ อยู่ที่คุณแล้วว่าอยากแสดงสไตล์ชีวิตคนเมืองออกมาในแบบไหน
วัสดุที่มีเสน่ห์อย่างยั่งยืน
ในปีนี้จะเห็นได้ว่า มอริส ลาครัวซ์ได้เปิดตัว AIKON ซึ่งเป็นนาฬิกาสไตล์คนเมืองที่ประสบความสำเร็จอย่างมากออกมาหลายแบบ โดยทำออกมาจากวัสดุหลากหลายประเภท และในตอนนี้เพื่อส่งท้ายปี 2024 แบรนด์จากสวิสได้ให้ความสนใจกับ 'เซรามิกเชิงเทคนิค' ซึ่งเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งทนต่อการขีดข่วนแม้จะผ่านกาลเวลาไปนานหลายปีก็ตาม แม้ว่าตัวเรือนเซรามิกที่ประกอบด้วยเซอร์โคเนียมออกไซด์นั้นได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ทว่า มอริส ลาครัวซ์ ก็ยังได้ผลักดันประสิทธิภาพให้สูงขึ้นด้วยการสร้างสรรค์เซรามิกเชิงเทคนิคให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ อันแสดงถึงการก้าวไปข้างหน้าอย่างมีนัยสำคัญในแง่ของความทนทาน ความเสถียรของอุณหภูมิ และความแข็งแกร่งโดยรวม วัสดุที่มีความทันสมัยทางเทคนิคนี้ใช้การ ‘กระตุ้น’ เซอร์โคเนียมออกไซด์พร้อมออกไซด์เพิ่มเติมสามชนิด ได้แก่ แฮฟเนียมออกไซด์, อิทเทรียมออกไซด์ และอลูมิเนียมออกไซด์โดยกระบวนการนี้จะต้องได้รับการควบคุมอย่างเคร่งครัดถึงจะได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ สำหรับการรังสรรค์ตัวเรือนและสายนาฬิกาเซรามิกเชิงเทคนิคขึ้นมานั้นต้องใช้การวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจังเป็นเวลานานถึงสามปี และยังต้องเผชิญกับความท้าทายในทางเทคนิคต่างๆ มากมาย ทีมวิจัยและพัฒนาของ มอริส ลาครัวซ์ ได้ใช้เวลาอย่างยาวนานและมักทำงานหนักตลอดทุกคืน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกพื้นผิวและเหลี่ยมมุมของตัวเรือนและสายนาฬิกานั้นจะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ตัวอย่างเช่น ขอบตัวเรือนที่มีตราสัญลักษณ์อันโดดเด่นนำเสนอในรูปแบบตัวนูนโดยมีผิวสัมผัสที่แตกต่างกัน ก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความท้าทายในทางเทคนิคเช่นกัน การรังสรรค์สายนาฬิกาด้วยเซรามิกเชิงเทคนิคนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าต้องใช้การเอาใจใส่เป็นอย่างมาก เนื่องจากข้อต่อต้องมีการเชื่อมเข้าด้วยกันเพื่อให้สามารถยืดได้ในขณะที่สวมใส่ โดยในตอนที่สายนาฬิกาโอบรอบข้อมืออยู่นั้นผู้สวมใส่จะต้องรู้สึกสบายที่สุด ซึ่งในระหว่างกระบวนการพัฒนา มอริส ลาครัวซ์ ได้มอบหมายให้ทีมได้ทำการวิจัยและพูดคุยกับตัวแทนจำหน่ายรายย่อยรวมไปถึงผู้คนในเมือง หลังจากได้รับคำติชมแล้ว แบรนด์ก็ได้พยายามที่จะปรับปรุงรูปลักษณ์และผิวสัมผัสของเรือนเวลารุ่นใหม่ที่รังสรรค์มาจากเซรามิกเชิงเทคนิค โดยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ตามหลักสรีรศาสตร์ระหว่างตัวเรือน สายนาฬิกาและผู้สวมใส่ ผลจากความพยายามอันยาวนานของแบรนด์จาก Franches-Montagnes นี้ นำไปสู่การรังสรรค์นาฬิการุ่นใหม่อย่าง Maurice Lacroix AIKON Automatic Ceramic ในแบบยูนิเซ็กส์ ที่มีให้เลือกทั้ง 2 ขนาด คือ 39 มม. และ 42 มม. โดยแต่ละขนาดจะมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันไปอย่างชัดเจนจนทำให้วัสดุอันมีเสน่ห์นี้เข้าไปถึงคนรุ่นใหม่ได้อยู่เสมอ และมีคุณภาพสมกับราคาในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
บทเรียนในความแตกต่าง
ย้อนกลับไปในปี 2016 มอริส ลาครัวซ์ได้เปิดตัวนาฬิกา AIKON เรือนแรก ซึ่งเป็นนาฬิกาควอตซ์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น CALYPSO ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ขายดีที่สุดในช่วงยุค 90 ทำให้หลังจากนั้นความนิยมของคอลเลคชั่นนี้ก็เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ โดยในช่วงเวลาหลายปีต่อจากนั้น แบรนด์ได้ใช้ประโยชน์จากความสำเร็จนี้ด้วยการเปิดตัวตระกูล AIKON ที่มีขนาดตัวเรือน สีหน้าปัด และระบบคอมพลิเคชั่ชันที่หลากหลายและแตกต่างกัน จนวันนี้ มอริส ลาครัวซ์ ยังคงสร้างความแตกต่างด้วยนาฬิกา AIKON Automatic Ceramic รุ่นใหม่ในรูปแบบสีขาวหรือสีดำ โดยตัวเลือกสีดำด้าน บนขนาด 42 มม. นั้นมากับความปราดเปรียวที่จะช่วยปลุกเร้าบรรยากาศแห่งเมือง ดุจนกฮูกกลางคืนที่ต้องออกมาเริงร่าหลังจากที่ฟ้ามืดมิด ในขณะที่รุ่นสีขาวมันเงาขนาด 39 มม. นั้นดูราวกับนางฟ้าแสนบริสุทธิ์ที่กำลังถูกอาบด้วยแสงแดด ดูดึงดูดสายตาจนน่าชื่นชมไม่ว่าจะมองไปทางไหน และไม่ว่าจะเป็นกลางคืนหรือกลางวัน จะเปิดเผยหรือแยบยล จะไร้เดียงสาหรือรู้เท่าทัน จะมี AIKON Automatic Ceramic ที่เหมาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ อารมณ์ และผู้สวมใส่ ซึ่งวันนี้ มอริส ลาครัวซ์ ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุและความแตกต่าง นี่คือการแสดงประสิทธิภาพอันโดดเด่น
สัมผัสนาฬิกาเรือนจริงได้แล้ววันนี้ที่ มอริส ลาครัวซ์ บูติค ชั้น 2 Gaysorn Village นาฬิการุ่น AIKON Automatic Ceramic จำหน่ายในราคาเรือนละ 119,900 บาท สามารถสอบถามข้อมูลนาฬิกาเพิ่มเติมได้ที่ มอริส ลาครัวซ์ บูติค ชั้น 2 Gaysorn Village 02-853-9742 หรือ LINE Official @MauriceLacroixTH คลิ๊ก https://lin.ee/TYO5J3F
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Maurice Lacroix X Pond Review AIKON Automatic Limited Edition 39 mm.
แบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ เรือนเวลาหรูจากสวิสฯ สร้างปรากฏการณ์น่าตื่นใจขึ้นอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ อย่าง มอริส ลาครัวซ์ เอ็กซ์ ปอนด์ รีวิว ไอคอน ลิมิเต็ด อิดิชั่น 39 มม.
มอริส ลาครัวซ์ ไอคอน ไทเทเนียม คอลเลคชั่น ใหม่! เบาแต่หนักแน่นในประสิทธิภาพ
มอริส ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix) แบรนด์นาฬิกาหรูจากสวิส เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ New AIKON Titanium ด้วยกันถึง 2 รุ่นอย่าง AIKON Automatic Titanium
AIKON Mercury Thai Edition of 25 Pieces ที่มีเพียง 25 เรือนทั่วโลก
ย้อนกลับไปในปี 2019 มอริส ลาครัวซ์ ได้รังสรรค์นาฬิกา ไอคอน เมอร์คิวรี่ (AIKON Mercury) เรือนแรกของโลกขึ้นภายใน Manufacture ของตนเอง ณ ซาแนงลีเช่
มอริส ลาครัวซ์ ปองโตส เอส ไดฟเวอร์ ใหม่!
มอริส ลาครัวซ์ (Maurice Lacroix) เผยโฉมนาฬิกาดำน้ำใหม่ทั้งสองรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับวิถีชีวิตคนเมือง แม้นาฬิกา PONTOS S DIVER 2024
มอริส ลาครัวซ์ ไอคอน ออโตเมติก บรอนซ์
นาฬิกา AIKON Automatic Bronze เรือนใหม่จากแบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ ที่เกิดจากการผสานกันอย่างเป็นธรรมชาติระหว่างโลหะและสีน้ำตาลได้อย่างลงตัว
Maurice Lacroix AIKON #tide Camo
แบรนด์ มอริส ลาครัวซ์ เปิดตัวนาฬิกา AIKON #tide Camo (ไอคอน ไทด์ คาโม) คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดภายใต้คอนเซ็ปต์ ของนาฬิการักษ์โลกอย่าง #tide โดยครั้งนี้ได้นำเอาลายคาโมหรือลายพรางที่แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจออกแบบมาเพื่อให้