บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF หรือ บริษัทฯ) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 โดยมีรายได้รวม (total revenue) เท่ากับ 31,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาส 3/2566 และมีกำไรจากการดำเนินงาน (core profit) เท่ากับ 4,710 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จาก 4,203 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของกลุ่มบริษัทฯ มีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ โดยโครงการกัลฟ์ ปลวกแดง (GPD) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD กำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,650 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 2 และ 3 ในเดือนตุลาคม 2566 และมีนาคม 2567 ตามลำดับ ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2567 GULF รับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการ GPD หน่วยที่ 1-3 ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,987.5 เมกะวัตต์และโครงการโรงไฟฟ้าหินกอง (HKP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP กำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,540 เมกะวัตต์ ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์หน่วยผลิตที่ 1 ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ GULF รับรู้กำไรจากการดำเนินงานของโครงการ HKP หน่วยที่ 1 ในไตรมาสนี้ อีกทั้ง GULF ยังรับรู้ส่วนแบ่งกำไร core profit ของโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ Jackson Generation ในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 150 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 เป็น 414 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2567 ซึ่งเป็นผลมาจากการกลับรายการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (property tax) ค้างจ่ายที่บันทึกไว้สูงเกินไปสำหรับปี 2566 และ 9 เดือนแรกของปี 2567 จำนวน 326 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/2567 นี้ GULF รับรู้ส่วนแบ่งกำไร core profit จากการลงทุนใน INTUCH จำนวน 1,583 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จาก 1,527 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลประกอบการของ ADVANC
ที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัจจัยบวกดังกล่าวถูกชดเชยจาก core profit ที่ลดลงของโครงการโรงไฟฟ้ากัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายบำรุงรักษา (maintenance expense) ของทั้ง 4 หน่วยที่เริ่มทยอยซ่อมบำรุงระหว่างไตรมาส 3/2566 - ไตรมาส 3/2567 และปริมาณการขายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ลดลง โดยมี load factor เฉลี่ยลดลงจาก 79% ในไตรมาส 3/2566 เป็น 69% ในไตรมาสนี้ นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้า IPP 2 โครงการ และ SPP 7 โครงการภายใต้กลุ่ม GJP มีผลกำไรที่ลดลง เนื่องมาจากผลกระทบจากค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เพิ่มขึ้นจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ อีกทั้ง โรงไฟฟ้า IPP 2 โครงการ ซึ่งได้แก่ GNS และ GUT มีปริมาณการขายไฟฟ้าให้ กฟผ. ที่ลดลง โดยมี load factor เฉลี่ยที่ลดลงจาก 21% ในไตรมาส 3/2566 เป็น 7% ในไตรมาส 3/2567
ประกอบกับ โครงการโรงไฟฟ้า SPP 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายไฟฟ้าให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมที่ลดลง จากราคาค่า Ft เฉลี่ยที่ลดลงในอัตราที่สูงกว่าการลดลงของราคาค่าก๊าซธรรมชาติเฉลี่ย โดยค่า Ft เฉลี่ยลดลงจาก 0.68 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในไตรมาส 3/2566 เป็น 0.40 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในไตรมาส 3/2567 ในขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยลดลงจาก 345.97 บาท/ล้านบีทียู ในไตรมาส 3/2566 เป็น 333.79 บาท/ล้านบีทียู ในไตรมาสนี้
ทั้งนี้ GULF มีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ในไตรมาส 3/2567 จำนวน 9,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับ 9,364 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 ในขณะที่กำไรสุทธิ (net profit) ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 6,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79% จาก 3,360 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2566 โดยในไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ รับรู้ผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิที่ยังไม่ได้เกิดขึ้นจริง เนื่องจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจาก 37.01 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 เป็น 32.46 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวเป็นเพียงการบันทึกรายการทางบัญชี และไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและผลประกอบการของ GULF แต่อย่างใด
ณ วันที่ 30 กันยายน 2567 GULF มีสินทรัพย์รวม 486,837 ล้านบาท หนี้สินรวม 338,421 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 148,416 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (net interest-bearing debt to equity) อยู่ที่ 1.71 เท่า ลดลงจาก 1.85 เท่า ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยเป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนของผู้ถือหุ้นจากผลประกอบการที่ดีขึ้นของกลุ่มบริษัทฯ
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน GULF เปิดเผยว่า “ในไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ คาดว่ารายได้รวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการต่าง ๆ ของ
บริษัทฯ ที่เปิดดำเนินงานตามแผน โดยโครงการโรงไฟฟ้า GPD หน่วยที่ 4 (662.5 เมกะวัตต์) ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่ง GULF จะเริ่มรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มไตรมาสของหน่วยผลิตนี้ในไตรมาส 4/2567 นอกจากนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินร่วมกับระบบกักเก็บพลังงาน (solar farms with battery energy storage systems) มีแผนที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 5 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 532 เมกะวัตต์ ในเดือนธันวาคม 2567 ประกอบกับในไตรมาส 4 เป็นช่วง high season ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ส่งผลให้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 3 โครงการภายใต้กลุ่ม Gulf Gunkul Corporation ในประเทศไทย และโครงการ BKR2 ในประเทศเยอรมนี คาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอีกทั้ง ผลการดำเนินงานของ ADVANC คาดว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ใช้งานและ ARPU ที่เพิ่มขึ้น”
นางสาวยุพาพิน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในปี 2568 ผลประกอบการของบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดภายหลังการควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH เสร็จสิ้น เนื่องจากบริษัทใหม่ (NewCo) จะถือหุ้นโดยตรงใน ADVANC ในสัดส่วน 40.4% ซึ่งทำให้สามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ แบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) ของ ADVANC และ THCOM จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2567 - 1/2568 ทั้งนี้ การจัดตั้งบริษัทใหม่ (NewCo) คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นไตรมาส 2/2568
ในปี 2568 บริษัทฯ คาดว่าจะมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,470 เมกะวัตต์ โดยโครงการโรงไฟฟ้า HKP หน่วยผลิตที่ 2 (770 เมกะวัตต์) จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 มกราคม 2568 อีกทั้ง โครงการ solar farms และ solar farms with battery energy storage systems มีแผนที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มเติมรวมอีก 7 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวมประมาณ 600 เมกะวัตต์ ในขณะที่โครงการ solar rooftop ภายใต้ GULF1 คาดว่าจะดำเนินการจ่ายไฟฟ้าให้กับลูกค้าเพิ่มอีกประมาณ 100 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ รับรู้กำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการดังกล่าว ในส่วนของธุรกิจนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ปีหน้าบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเข้า LNG เป็นจำนวน 70 ลำ หรือประมาณ 5 ล้านตัน เพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้า GSRC, GPD และ HKP
นอกจากนี้ ธุรกิจศูนย์ข้อมูล GSA DC (data center) ของกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งมีขนาด 50 เมกะวัตต์ โดยเฟสหนึ่งขนาด 25 เมกะวัตต์ อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและมีแผนที่จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 ส่วนธุรกิจ cloud ที่บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับ Google เพื่อให้บริการ Google Distributed Cloud air-gapped มีแผนที่จะเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 2/2568 โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ธุรกิจ health care ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค รวมถึงสถาบันทางการเงิน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองการต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจไปสู่บริการอื่น ๆ ในอนาคต ซึ่งได้แก่ AI และ cybersecurity อีกด้วย ส่วนธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (digital asset exchange) ภายใต้แพลตฟอร์ม Binance TH by Gulf Binance ภายหลังจากการเปิดให้บริการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา Gulf Binance ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนและมีผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดที่มากกว่า 20% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย อีกทั้งยังได้มีการคัดสรรคู่เหรียญใหม่ ๆ เพิ่มเติมลงบนแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทางเลือกในการลงทุน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
GULF ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ระดับ AAA
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ได้รับการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ปี 2567 ในระดับสูงสุด ‘AAA’
กัลฟ์ จัดกิจกรรม “GULF Sparks Energy ชวนน้องท่องโลกพลังงาน” ปลูกฝังเรื่องพลังงานสะอาด และการแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
กลุ่มบริษัทกัลฟ์ จัดกิจกรรม “GULF Sparks Energy ชวนน้องท่องโลกพลังงาน” เพื่อเป็นการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแหล่งที่มาของพลังงานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
หาดใหญ่วิทยาลัย 2 คว้าแชมป์ Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน ชวนโหวตกันต่อกับผลงานทีมที่ชื่นชอบ ชิงรางวัล Popular Vote By GULF
สิ้นสุดลงแล้วกับการแข่งขัน Green Mission by Chula x GULF ภารกิจรักษ์ยั่งยืน โครงการสุดสร้างสรรค์ที่ชวน นักเรียนทั่วประเทศมาปลุกปั้นไอเดียเพื่อสิ่งแวดล้อม ในโจทย์ "Beware Your Step ก้าวต่อไปไร้รอยเท้า"
AIS รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567
AIS รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2567 ทำรายได้รวมอยู่ที่ 52,209 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 8,788 ล้านบาท ในขณะที่กำไร EBITDA หรือกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย
'Family Power หลานม่า' พาความคิดถึงกลับบ้าน
GULF จับมือ GDH จัดแคมเปญพิเศษ Family Power หลานม่า พาความคิดถึงกลับบ้าน เพราะเล็งเห็นว่าทุกครอบครัวเวลาคือสิ่งที่มีค่าและสำคัญเสมอ จึงจัดรถบัส EV พลังงานไฟฟ้าให้เข้ากับธุรกิจพลังงานของ GULF ที่เล็งเห็นพลังงานความรักของครอบครัว เพื่อส่งต่อผู้โดยสารกลับบ้านไปหาครอบครัวฟรี โดยมี MRT ร่วมสนับสนุน จุดปล่อยรถ
หุ้นการเมือง SIRI - GULF ร่วงรับผลเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์วันนี้ พบว่า หุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมีการปรับตัวลดลง อย่างมีนัยสำคัญ