วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “12 พฤศจิกายน วันเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ประจำปี พ.ศ.2567” ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5
.
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญในการดูแลด้านความปลอดภัย โดยขับเคลื่อนภายใต้โครงการ Safety Thailand ด้วยการเคร่งครัดบังคับใช้กฎหมาย สร้างองค์ความรู้ และพัฒนากลไกภาคีเครือข่าย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายลดการประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงจาก 2.30:1,000 คน ในปี 2567 ให้คงเหลือ 1:1,000 คน ในปี 2573 เป็นเป้าหมายที่ต้องได้รับความร่วมมือกับทุกฝ่าย ในการสร้างพัฒนา สร้างความปลอดภัยให้ยั่งยืน ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานมีการกำหนดให้นายจ้างของสถานประกอบกิจการต้องจัดให้มีบุคลากรเข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านความปลอดภัย ในสถานประกอบกิจการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 ซึ่งเรียกว่า “เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน” หรือ จป. ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการให้คำปรึกษา แนะนำ ดำเนินการตรวจสอบ ประเมินอันตรายในการทำงานให้แก่นายจ้างและลูกจ้างสร้างมาตราการเพื่อเป็นเกราะป้องลดการสูญเสีย อันจะนำไปสู่การยกระดับมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดสภาพความปลอดภัยต่อคนทำงานปราศจากอุบัติเหตุและโรคที่เกิดจากการทำงาน ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมา (กรณีร้ายแรง) ลดลงได้ถึงร้อยละ 4.69 ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชม สามารถดำเนินการได้เกินเป้าหมายร้อยละ 4.0 ที่ตั้งไว้ อันแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจกันของเครือข่ายความปลอดภัยในการทำงานที่ทำคุณประโยชน์ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน
.
ด้าน เรือเอก สาโรจน์ คมคาย รองปลัดกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า การจัดงานในวันนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Safety Culture Together” เพื่อขับเคลื่อนการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่จะปลุกกระตุ้นให้สถานประกอบกิจการทั่วประเทศ รวมพลังร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการไปกับกระทรวงแรงงานให้มีการดำเนินงาน ได้แก่ 1.การประกาศเจตนารมณ์สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย 2.จัดกิจกรรมรณรงค์ต่าง ๆ และ 3.ผู้แทนนายจ้าง ลูกจ้าง ได้ร่วมมือกันค้นหาอันตรายเพื่อวางมาตรการป้องกัน นอกจากนี้ กรมได้สนับสนุนให้ จป. ทั่วประเทศรวมตัวเป็นเครือข่าย เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องผู้ใช้แรงงาน ชุมชน สังคม รวมไปถึงบูรณาการการทำงานกับภาครัฐ ช่วยให้การขับคลื่อนการสร้างหลักประกันทางสังคม พัฒนาทักษะการทำงานให้เกิดความทันสมัย ส่งเสริมเกิดการจ้างงานเพิ่ม ร่วมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้ยั่งยืน และทำให้ภาคเศรษฐกิจแรงงานไทยมีศักยภาพให้ถึงขีดสุดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘พิพัฒน์’ ระดมแจกถุงยังชีพช่วยน้ำท่วมใต้ พร้อมแก้ปัญหาเดือดร้อนด้านอาชีพ ลดเงินสมทบประกันตน 6 เดือน ขี้นทะเบียนว่างงาน เร่งซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้า มอเตอร์ไซด์หลังน้ำลด
วันที่ 2 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรี นายธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรี นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์
"พิพัฒน์" ลงใต้ ปักหลัก 3 - 5 ธันวา ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมแรงงานเต็มที่
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงแนวทางการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ว่า ได้สั่งการเร่งด่วนให้ 5 เสือแรงงานจัดส่งถุงยังชีพไปแล้วกว่า 3,000 ชุด
“พิพัฒน์” เน้นย้ำความปลอดภัยในสถานประกอบการ จัดประชุมวิชาการ เสวนาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยฯ ภาคเหนือ
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการเสวนาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
ข่าวดีผู้เกษียณ! เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตรา
'คารม' เผยรัฐบาลเดินหน้าสร้างโอกาสทำงานวัยเกษียณ จับมือ 16 ธุรกิจเอกชน เปิดตำแหน่งงานกว่า 4 พันอัตราทั่วประเทศ สมัครได้ที่เว็บไซต์ 'ไทยมีงานทำ.doe.go.th' หรือแอปพลิเคชัน 'ไทยมีงานทำ'
“พิพัฒน์" มุ่งสร้างสวัสดิการให้เงินทดแทนการขาดรายได้ แรงงานอิสระและอาสาสมัครแรงงาน ในพื้นที่ กทม. กว่า 1.72 ล้านคน
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมให้กับแรงงานอิสระและอาสาสมัครแรงงานในพื้นที่ กทม. โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี
‘พิพัฒน์’ ห่วงน้ำท่วมใต้ สั่ง 5 เสือแรงงาน ระดมกำลังช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้อยู่ในขณะนี้ ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างนั้น ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ผมและท่านปลัดกระทรวงแรงงาน