Inti Labs บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพที่มุ่งมั่นในการพัฒนาและวิจัยเทคโนโลยีการทำเด็กหลอดแก้ว (In vitro fertilization: IVF) เปิดตัวเทคโนโลยีการทดสอบทางพันธุกรรมใหม่ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จให้กลุ่มคนไข้ IVF ในประเทศไทย โดยเทคโนโลยีการทดสอบนี้จะช่วยกำหนดเวลาที่เหมาะสมและแม่นยำสำหรับย้ายตัวอ่อน ซึ่งนำไปสู่อัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์ที่สูงขึ้น ลดความจำเป็นในการทำรอบทดสอบของการย้ายตัวอ่อน (Mock cycle) รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวต้องเผชิญ และกระบวนการอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็น
อัตราการเกิดในประเทศไทยลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในปี พ.ศ. 2565 มีจำนวนเด็กเกิดใหม่เพียง 500,000 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในรอบ 70 ปี ด้วยอัตรการเกิดลดลงทั่วทั้งเอเชียและทั่วโลก ประเทศไทยจึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่หน้าสนใจสำหรับการรักษาภาวะการมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีอย่าง IVF
ถึงอย่างนั้น แม้จะมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ แต่กระบวนการ IVF ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ รวมไปถึงการระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมในการย้ายตัวอ่อน ด้วยวิธีการอย่างการตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูก (ERA) จำเป็นจะต้องเตรียมผนังมดลูกและตัดชิ้นเนื้อเก็บตัวอย่างเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อนำไปตรวจหาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อน ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้เวลานานและไม่สะดวกสบาย อาจทำให้เกิดความล่าช้าและมีค่าใช้จ่ายที่สูงสำหรับครอบครัว
ดร. เอริค ปก หยาง (Dr. Eric Pok Yang) ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของ Inti Labs กล่าวว่า “เป้าหมายของ Inti Labs คือการแก้ปัญหาด้านการเจริญพันธุ์ โดยการระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อน (window of implantation: WOI) ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้การทำ IVF ประสบความสำเร็จ ด้วยเทคโนโลยี ORA™ ที่เป็นการตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกแบบไม่รุกล้ำร่างกายครั้งแรกของโลก โดยใช้เพียงตัวอย่างเลือด เรามีความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การทำ IVF ด้วยวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์ และลดความเครียดทางอารมณ์และการเงินที่เกิดจากกระบวนการทำ IVF ซ้ำ ๆ หลายรอบ
ORA™ (Optimal Receptivity Analysis) เป็นเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยในกระบวนการรักษาภาวะการมีบุตรยาก เนื่องจากมีหลายครอบครัวที่ต้องเผชิญกับความผิดหวังในการทำ IVF หลาย ๆ ครั้งจากการย้ายตัวอ่อนในเวลาที่ไม่เหมาะสม เพราะเหตุนี้ Inti Labs จึงอยากนำเสนอ ORA™ ให้เป็นหนึ่งในโซลูชันทางเลือกที่จะช่วยพัฒนาวิธีการรักษาของผู้เชี่ยวชาญด้านการมีบุตรยาก
ด้วยผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ORA™ สามารถ
- ตรวจความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพและรุกล้ำร่างกายน้อยผ่านการเจาะเลือดตรวจ โดยไม่จำเป็นต้องเก็บชิ้นเนื้อจากเยื่อบุโพรงมดลูก
- ระบุช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการย้ายตัวอ่อนได้อย่างแม่นยำถึง 95%
- เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อนำไปวิเคราะห์ในอนาคต เพื่อแจ้งให้ผู้ป่วยและแพทย์ทราบระยะเวลาที่เหมาะสมในระหว่างรอบการย้ายตัวอ่อนที่เหมาะสมครั้งต่อไป ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
วิทยาศาสตร์เบื้องหลัง ORA™
ORA™ เป็นการวิเคราะห์ไมโครอาร์เอ็นเอ (micro RNAs: miRNA) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่มีความเสถียรในเลือด และเป็นตัวบ่งชี้สภาพทางสรีรวิทยาที่เชื่อถือได้ รวมถึงสามารถระบุสถานะความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ORA™ ถูกพัฒนาโดยผ่านการวิจัยอย่างกว้างขวาง โดยสามารถประเมินความพร้อมของเยื่อบุโพรงมดลูกได้อย่างแม่นยำผ่านการวิเคราะห์ตัวอย่างเลือดเท่านั้น
เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน 2 ท่าน ดร.วิกเตอร์ อัมโบรส และ ดร.แกรี รัฟกัน ได้รับรางวัลโนเบล สาขาสรีรวิทยาหรือการแพทย์ จากผลงานการค้นพบว่า miRNA เป็นโมเลกุลที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุมกิจกรรมของยีน และการทำงานของเซลล์ การวิจัยนี้ส่งผลกระทบต่อหลายด้านของชีววิทยาและทางการแพทย์ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ miRNA ในสาขาต่าง ๆ รวมถึงด้านการเจริญพันธุ์ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ครั้งนี้ สนับสนุนแนวทางของเทคโนโลยี ORA™ และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Inti Labs ในการพัฒนานวัตกรรมที่สนับสนุนการดูแลผู้ป่วยภาวะมีบุตรยาก ผ่านการวิเคราะห์ miRNA ขั้นสูง
Inti Labs ได้ใช้ประโยชน์จากชีวสารสนเทศขั้นสูงและระบบการเรียนรู้ด้วยตัวเองของคอมพิวเตอร์ ในการพัฒนา ORA™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมการทดสอบที่วิเคราะห์ระดับ miRNA เพื่อคาดการณ์เวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน โดยการวิเคราะห์รูปแบบ miRNA ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจริญพันธุ์สามารถระบุช่วงเวลาที่เยื่อบุโพรงมดลูกตอบสนองต่อการฝังตัวของตัวอ่อนได้แม่นยำที่สุด ซึ่งช่วยให้สามารถย้ายตัวอ่อนได้ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จ
ORA™ เหมาะกับผู้ที่มีประวัติการฝังตัวอ่อนไม่สำเร็จหรือเคยแท้งบุตรมาก่อน ผู้ที่มีตัวอ่อนคุณภาพสูงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว และรวมไปถึงผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
การก้าวข้ามภาวะมีบุตรยาก สู่การพัฒนาการดูแลภาวะมีบุตรยาก
ผู้ริเริ่มคิดค้นนวัตกรรมล้ำสมัยของ Inti Labs คือ ดร.เอริค ปก หยาง ซึ่งประสบการณ์ในการเป็นพ่อในวัย 41 ปี ทำให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความท้าทายที่ผู้ป่วยและครอบครัวต้องเผชิญต่อปัญหาภาวะมีบุตรยาก ด้วยแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเอง ดร.หยาง จึงอุทิศเวลาหลายปีในการค้นคว้าและวิจัยสาเหตุของภาวะการมีบุตรยาก และพัฒนาวิธีการวินิจฉัยเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ในระหว่างการศึกษาวิชาการที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส และโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด ดร.หยาง มุ่งเน้นการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับไมโครอาร์เอ็นเอ โดยระบุถึงศักยภาพของไมโครอาร์เอ็นเอในฐานะไบโอมาร์กเกอร์ (Biomarker) หรือ ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพเฉพาะ ที่ไม่รุกล้ำร่างกายสำหรับการประยุกต์ใช้ในด้านสุขภาพสืบพันธุ์และมะเร็งวิทยา
ในระหว่างการวิจัยเกี่ยวกับกระบวนการ IVF ดร.หยางได้ติดตามผลงานของ ดร.แบร์รี เบหร์ (Barry Behr) ผู้ร่วมก่อตั้ง Igenomix USA ซึ่งเป็นผู้นำด้านพันธุศาสตร์การเจริญพันธุ์ อย่างใกล้ชิด โดย ดร.เบหร์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้คิดค้นวิธีการเพาะเลี้ยงตัวอ่อนจำนวนมากที่ใช้ในปัจจุบัน และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบไทม์แลปส์ (Time-lapse machine) ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA ระบบแรก เพื่อคาดการณ์ว่าตัวอ่อนในวันที่ 3 วัน จะสามารถเติบโตเป็นตัวอ่อนอายุ 5 วันได้สำเร็จหรือไม่
ดร.หยาง และ ดร.เบหร์ ได้ร่วมก่อตั้ง Inti Labs โดยทั้งคู่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันในการช่วยให้คนไข้ได้กลายเป็นพ่อแม่โดยเร็วที่สุดและลำบากน้อยที่สุด พวกเขาเล็งเห็นอนาคตของ IVF ว่าเป็น “IVF 2.0” โดยมุ่นเน้นไปที่ความก้าวหน้าสำคัญ 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การระบุช่วงเวลาการฝังตัวอ่อนเฉพาะของผู้ป่วยแต่ละรายด้วย ORA™ 2) การจัดระดับไข่ตามคุณภาพ และ 3) การทำให้กระบวนการทำ IVF เป็นระบบอัตโนมัติ เพื่อลดต้นทุนและทำให้คนไข้ทั่วโลกเข้าถึงการรักษาได้ง่ายขึ้น
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://intilabs.com/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี จัดพิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานทั่วประเทศ ประจำปี 2567 สืบทอดประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา
พระพุทธศาสนามีบทบาทสำคัญในสังคมไทย ทั้งในด้านความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรมต่าง ๆ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ส่งผลต่อวิถีชีวิตและค่านิยมของคนไทยรุ่นต่อรุ่น
บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว
วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์
"พิพัฒน์” ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี
เลือกแก้วค็อกเทลที่ใช่ ตัวช่วยเสริมรสชาติและสไตล์ในการดื่ม
การเลือกใช้แก้วค็อกเทลไม่เพียงช่วยเสริมความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่อรสชาติและประสบการณ์การดื่มอย่างมาก แก้วค็อกเทลแต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อเน้นรสชาติ
แจก How to เลือกเครื่องล็อคฝาขวดให้ตอบโจทย์การใช้งาน
ปัญหาฝาขวดหลวมหรือเปิดออกเองเป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับขวดน้ำดื่ม ขวดนม หรือขวดบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ การมีเครื่องล็อคฝาขวด
เคล็ดลับการเลือกคลีนเซอร์ให้เหมาะกับผิวหน้า สู่ผิวสวยใส
การดูแลผิวพรรณเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายคน แต่ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดมักกลับถูกมองข้ามไป นั่นคือการทำความสะอาดผิวด้วยคลีนเซอร์