PRINC ปักหมุดอีสานล่าง เตรียมเปิด “ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา” แห่งแรกของศรีสะเกษ ธ.ค. นี้ มุ่งครอบคลุมทุกสิทธิการรักษาโรคมะเร็งและให้บริการครบวงจร

โรคมะเร็งเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญ กระทบชีวิตของประชาชนเป็นอันดับที่ 1 ในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 10 ซึ่งครอบคลุมจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ตอนล่าง จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร (ที่มา: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข, มี.ค. 66) พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งจำนวนกว่า 107.55 รายต่อแสนประชากร และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของคนในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 10

บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือ “พริ้นซิเพล เฮลท์แคร์“ โดยโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ จึงเดินหน้ายกระดับการดูแลสุขภาพประชาชนในพื้นที่ ด้วยการเปิดศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาแห่งแรกของจังหวัดศรีสะเกษ ถือเป็นการร่วมกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งในพื้นที่อย่างครบวงจรและทันสมัย สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งเน้นการดูแลผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มแรกจนถึงระยะสุดท้าย และมะเร็งรักษาได้ทุกที่ (Cancer Anywhere) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค

ด้าน นายแพทย์ตะวัน จึงสมาน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ กล่าวถึงการเปิดให้บริการศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษในช่วงธันวาคม 2567 นี้ว่าเป็นให้บริการแบบครบวงจร ตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย การรักษาด้วยรังสีรักษา เคมีบำบัด การรักษาด้วยยามุ่งเป้า และการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โดยมีเป้าหมายให้บริการรักษามะเร็งและรังสีรักษา ที่มีมาตรฐานสากลเพื่อชาวศรีสะเกษและพื้นที่ใกล้เคียง ให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

"เราเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายองค์ความรู้ และสร้างการเข้าถึงในการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ตั้งแต่การป้องกันโรคระดับปฐมภูมิ การให้คำปรึกษาความเสี่ยงโรคมะเร็ง วางแผนเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละราย รวมถึงการตรวจคัดกรอง ตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งต่างๆ ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสมและเพียงพอต่อผู้รับบริการ ตลอดจนฟื้นฟูร่างกายและจิตใจให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น", นพ.ตะวันกล่าว
ทั้งนี้ การเปิดตัว ศูนย์มะเร็งและรังสีรักษา รพ.พริ้นซ์ ศรีสะเกษ ในครั้งนี้ นับเป็นการยกระดับการรักษาพยาบาล และการตรวจวินิจฉัยโรคเฉพาะทางด้านมะเร็งในจังหวัดศรีสะเกษและพื้นที่อีสานตอนล่าง โดยมุ่งดูแลให้ครอบคลุมทุกสิทธิการรักษาภายในปี 2568 และพร้อมเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 นี้เป็นต้นไป รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ผ่านทาง https://www.princsisaket.com/medical-center/Cancer-Center หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หมายเลข 045 968 888

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ไตรศุลี” พร้อมสู้ “ทักษิณ ”ช่วยหาเสียงนายกฯ อบจ.แข่งกับพ่อตัวเอง ขอให้รอดูความสามัคคีชาวศรีสะเกษเอาชนะพท.

วันที่3 ธค. ที่ทำเนียบ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ ​รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมืใจไทย กล่าวถึงกรณีการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก​ อบจ. ศรีสะเกษ จะเป็นการชนระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นแนะนำพรรค​

PRINC แจ้งยุติแผนซื้อรพ. เครือมาย ฮอสพิทอลย้ำไม่กระทบเป้ารายได้ แย้มพลิกมีกำไรปีนี้ พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนเพิ่มเตียง-ศูนย์รักษาโรคยากซับซ้อน

วันนี้ (2 ธ.ค.) - บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือ “พริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์” รายงานข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์

'นุ๊ก สุทธิดา' ช็อค! ตรวจเจอมะเร็งเพิ่ม

จากที่ตั้งความหวังว่าจะไปรักษาโรคมะเร็งที่ประเทศจีน แต่ปรากฏว่ายังทำไม่ได้ เพราะนักร้องนักแสดงสาว นุ๊ก-สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา กลับตรวจเจอก้อนเนื้อที่เพิ่มขึ้นมา แถมเจอจุดที่ปอดเพิ่มอีกด้วย ซึ่งในแง่การรักษาในตอนนี้ นุ๊กเผยว่ายังไม่พร้อมรับการผ่าตัดอีกครั้ง เพราะยังติดภารกิจอีกหลายอย่าง ทั้งถ่ายละครและเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ

'ช้างFAคัพ'รอบ64ทีม คู่เอกบีจีบุกท่าเรือ เมืองทองรับศรีสะเกษ เตะ20พ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น. ณ ห้องบอลรูม สโมสรราชพฤกษ์ “น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” ร่วมกับ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย บริษัท ไทยลีก จำกัด และเหล่าพาร์ทเนอร์ ได้แก่ บริษัท มอลเท่น ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท วอริกซ์สปอร์ต จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงข่าวและพิธีจับสลากประกบคู่การแข่งขันฟุตบอลถ้วยประวัติศาสตร์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2024/25 รอบ 64 ทีม สุดท้าย

‘หมอธีระวัฒน์’ ยกรายงานญี่ปุ่น ประเมินผลวัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง

วัคซีนนั้นทำให้ระบบการตรวจตราเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดมะเร็งนั้นถดถอยลงโดยเฉพาะในระบบ ที่เรียกว่า innate immunity และความบกพร่องห่วงโซ่ ในระบบภูมิคุ้มกัน