จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี บนถนนวิภาวดีรังสิต ตรงข้ามพหลโยธิน 72 ซึ่งกำลังพาครู และนักเรียนมาทั้งหมด 44 คน เดินทางไปทัศนศึกษา ส่งผลให้เกิดเหตุสลด มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังของศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค โดยสภาผู้บริโภค ระบุว่าปี 2565-2567 มีอุบัติเหตุทางถนน และความไม่ปลอดภัยกับรถรับส่งนักเรียนถึง 30 ครั้ง ขณะที่ช่วงเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ปี 2567 เกิดอุบัติเหตุรถรับส่งนักเรียนถึง 15 ครั้ง มีนักเรียนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บ 153 คน โดยสาเหตุของอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความประมาทเลินเล่อของผู้ประกอบการ หรือผู้ขับรถ สภาพรถที่ไม่ปลอดภัย และขาดการจัดการที่เป็นระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากกรณีเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาที่เกิดขึ้น เป็นรถโดยสารเช่าแบบไม่ประจำทาง ที่อาจเกิดการว่าจ้างโดยขาดขั้นตอนการจัดทำสัญญาที่มีมาตรฐานความปลอดภัย
“ทุกโรงเรียนก่อนจะมีการว่าจ้างรถโดยสารเพื่อนำพานักเรียนไปนอกสถานที่ โรงเรียนควรจัดทำสัญญาจ้างเช่ารถโดยสารไม่ประจำทางที่มีมาตรฐาน มีเงื่อนไขความปลอดภัยให้กับผู้ให้บริการต้องจัดให้มี เช่น ข้อมูลการตรวจสภาพรถ การประกันภัย ข้อมูลรถ-คนขับรถ ตลอดจนความรับผิดชอบของผู้ให้บริการนอกจากนี้ต้องมีการประเมินจำนวนนักเรียน และครูผู้ควบคุมรถว่าต้องใช้ครูจำนวนครูเท่าไหร่ถึงจะดูแลเด็กนักเรียนได้อย่างเหมาะสมทั่วถึง ครูจะต้องผ่านการฝึกกรณีเกิดเหตุฝึกฝน ในสถานการณ์ที่เด็กในสภาวะวิกฤตก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยสภาผู้บริโภคมีข้อเสนออย่างเร่งด่วน ดังนี้ 1. ทบทวนมาตรการการพาเด็กออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะกรณีไปทัศนศึกษา ควรกำหนดกิจกรรมให้เหมาะสมตามช่วงวัย 2. ทบทวนการจัดซื้อจัดจ้าง การทำสัญญาว่าจ้างรถโดยไม่ประจำทาง หากเกิดกรณีจำเป็น ต้องมีสัญญามาตรฐานที่มีองค์ประกอบความปลอดภัยและความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ รวมถึงมาตรการตรวจรถก่อนใช้ล่วงหน้าโดยโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการคัดกรองผู้ให้บริการที่มีคุณภาพ ขอให้อุบัติเหตุอันตรายที่เกิดกับรถโดยสารนักเรียนเป็นครั้งสุดท้าย” นายคงศักดิ์ กล่าว
นายคงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมามูลนิธิผู้บริโภคในฐานะหน่วยงานประจำจังหวัดกรุงเทพมหานคร สภาผู้บริโภค ได้มีการจัดทำร่าง “หนังสือสัญญาจ้างรับขนคนโดยสาร” โดยมีเนื้อหาระบุถึงข้อกำหนดมาตรฐานรถ ดังนี้ ผู้รับขนส่งต้องจัดหารถโดยสาร ที่มีอายุการใช้งานตามที่กำหนด นับแต่วันจดทะเบียนตามคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ มีอุปกรณ์ และส่วนควบที่มีสภาพมั่นคงแข็งแรง พร้อมใช้งานได้อย่างปลอดภัยครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด เช่น มีเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีประตูฉุกเฉิน ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ครบถ้วนสมบูรณ์ และรถโดยสารผ่านการตรวจสภาพรถจากกรมการขนส่งทางบก และต้องมีระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม (GPS) เพื่อให้ผู้รับขนส่งตรวจสอบการเดินทาง และการใช้ความเร็วของพนักงานขับรถโดยสารได้ โดยผู้รับขนส่งต้องจัดหาพนักงานขับรถที่มีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้องตรงตามประเภทของรถโดยสาร โดยได้รับอนุญาตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ใบอนุญาตไม่สิ้นอายุ พนักงานขับรถมีความสุภาพเรียบร้อย เคารพกฎจราจร ไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ไม่ดื่มสุรา สูบบุหรี่ และไม่มีการใช้สารเสพติดใดๆ มีความชำนาญเส้นทางตามแผนการเดินทาง หากเดินทางในระยะทางที่มากกว่า 400 กิโลเมตร ผู้รับขนส่งต้องจัดหาพนักงานขับรถ 2 คน เพื่อสลับเปลี่ยนพนักงานขับรถตามกฎหมายและห้ามพนักงานขับรถคนเดียวติดต่อกันนานเกินกว่า 4 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาดา-ซาบีดา ร่วมกับ มูลนิธิมาดามแป้ง มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวเด็กและเยาวชน จากเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา
นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นตัวแทนมอบเงินจำนวน 4,850,000 บาท
กมธ.คมนาคม สว. เรียกหน่วยงานชี้แจงเหตุไฟไหม้รถบัส ขนส่งฯไม่รู้เปลี่ยนใช้แก๊สเมื่อไหร่
ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา มีการประชุม เพื่อพิจารณากรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ประกอบด้วย กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม
'กมธ.คมนาคม' สว. ไล่บี้กรมขนส่งฯ ปมบัสไฟไหม้ แนะขึ้นบัญชีรถบริการ 'ผู้สูงอายุ-นร.'
'สว.วุฒิชาติ' แจงเหตุชงญัตติด่วนไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ย้ำต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัย ขู่เจอตรวจทิพย์ต้องดำเนินคดี แนะกรมขนส่งฯ ขึ้นบัญชีรถที่ให้บริการผู้สูงอายุ-นักเรียน