เทศกาลกินเจ 2567 สสส. สานพลัง เครือข่ายลดบริโภคเค็ม ชวนคนรุ่นใหม่ กินเจปลอดภัย ห่างไกล NCDs

น.ส.นิรมล ราศรี ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า เทศกาลกินเจ เป็นเทศกาลแห่งการสั่งสมบุญกุศล ละเว้นเนื้อสัตว์ เพิ่มการกินผัก ผลไม้ ถือเป็นโอกาสดีในการดูแลสุขภาพ แต่อาหารเจส่วนมากมีรสหวาน มัน และเค็มจัด จากการสำรวจการบริโภคโซเดียมในคนไทย ปี 2566 พบว่า คนไทยได้รับโซเดียมจากอาหารที่บริโภคเฉลี่ย 3,636 มก./วัน ซึ่งมากกว่าคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ประชาชนควรได้รับโซเดียมไม่เกิน 2,000 มก./วัน เกือบ 2 เท่า การได้รับโซเดียมในปริมาณสูงเกินกว่าคำแนะนำ มีผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายทำให้เกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) สอดคล้องกับข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบคนไทยป่วยด้วยโรคที่สัมพันธ์กับการบริโภคโซเดียมถึง 22.05 ล้านคน แบ่งเป็น โรคความดันโลหิตสูง 13.2 ล้านคน โรคไต 7.6 ล้านคน โรคหัวใจขาดเลือด 7.5 แสนคน โรคหลอดเลือดสมอง 5 แสนคน ที่สำคัญพบเยาวชนอายุ 17-24 ปี บริโภคโซเดียมเกินถึง 3,194 มิลลิกรัมต่อวัน ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของคนไข้ป่วยเป็นโรคไตหรือไตวายอายุน้อยลง จากเดิมที่อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 50–60 ปี

“เทศกาลกินเจ 2567 สสส. แนะนำ 8 วิธีเลือกกินอาหารเจง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก 1.เลือกผักหลากสี เพื่อรับวิตามินซีที่ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก มีไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มง่าย เช่น ผักโขม เห็ดฟาง 2.เลือกข้าวกล้องหรือขนมปังโฮลวีททดแทนแป้ง 3.เลือกโปรตีนจากเต้าหู้ ถั่ว และธัญพืช 4.เลือกปรุงอาหารด้วยน้ำมันดีหรือเติมน้ำมันแต่น้อย (น้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวัน) 5.เลือกอาหารที่ปรุงด้วยวิธีต้ม นึ่ง 6.เลือกผลไม้หวานน้อย เช่น ชมพู่ ฝรั่ง แก้วมังกร 7.เลือกอาหารที่ไม่หวานหรือเค็มจัด 8.เลือกอาหารที่อิ่มนาน ทั้งมื้อหลักและของว่าง และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การกินเจปีนี้ได้ทั้งบุญได้ทั้งสุขภาพ” น.ส.นิรมล กล่าว

รศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดการบริโภคเค็ม กล่าวว่า โซเดียมมีอยู่ในองค์ประกอบของอาหารแทบทุกอย่าง มีโซเดียมที่เกิดจากการใช้เกลือโซเดียมคลอไรด์ที่ผสมในอาหาร หรือการถนอมอาหาร โซเดียมแฝงในเครื่องปรุงรส หรือส่วนผสมของอาหาร เช่น ผงฟู (โซเดียมไบคาบอเนต) ในเบเกอรี่ จึงควรหันมาสนใจลดการกินโซเดียม (รสชาติเค็ม) ช่วงเทศกาลกินเจ หลายคนนิยมเลือกอาหารเจแบบแช่แข็งและกึ่งสำเร็จรูป เพราะหาซื้อได้สะดวก ผลสำรวจกลุ่มอาหารแช่แข็ง 53 รายการ พบปริมาณโซเดียมเฉลี่ยสูง 890 มิลลิกรัมต่อบรรจุภัณฑ์ ขณะที่กลุ่มอาหารกึ่งสำเร็จรูป 300 รายการ เช่น บะหมี่ โจ๊ก ซุปกึ่งสำเร็จรูป มีโซเดียมเฉลี่ยสูง 1,240 มิลลิกรัม ซึ่งการบริโภคโซเดียมในปริมาณสูง อาจส่งผลกระทบให้เกิด 6 อาการเบื้องต้น 1.กระหายน้ำ 2.ท้องอืด 3.น้ำหนักขึ้นเร็ว 4.ใต้ตา มือ เท้าบวม 5.เหนื่อยง่าย 6.ความดันโลหิตสูง

“ทุกคนสามารถปรับลิ้นรับรสได้ในเวลา 21 วัน ด้วยสูตร 3 สัปดาห์ ปลุกลิ้น-ปรับลิ้น-เปลี่ยนลิ้น เริ่มจากช่วงเวลากินเจ 7 วันแรก ปลุกลิ้น เลือกเเละกินอาหารที่จืดลงเพื่อให้ลิ้นเริ่มปรับตัว 14 วันต่อมา ปรับลิ้น ปรุงอาหารหรือสั่งเมนูเค็มน้อย พอครบ 21 วัน เปลี่ยนลิ้น ลิ้นจะรับรสอร่อยกับรสที่จืดลง ติดตามแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดเค็มเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์และเฟซบุ๊กแฟนเพจ ลดเค็ม ลดโรค” รศ.นพ.สุรศักดิ์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชวนนักดื่ม “ตรวจตับ-เลิกจับขวด” ฟื้นฟูสุขภาพคืนความสุขครอบครัว

"งดเหล้าเข้าพรรษา" ในระยะเวลา 3 เดือน ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งในเทศกาลสำคัญ ที่มุ่งเน้นให้ชาวพุทธงดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่เพียงเป็นการรักษาประเพณีและศีลธรรมเท่านั้น

“สุรศักดิ์” รมช.ศธ. เดินหน้าขับเคลื่อนรถรับส่งนักเรียนปลอดภัย ชูโมเดล “ศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนักเรียนปลอดภัย จ.อยุธยา” ของสสส.

วันที่ 18 พ.ย. 2567 ที่ โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้การจัดการรถรับส่งนักเรียนที่ปลอดภัย โรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ภายในงานเวทีสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการพัฒนาศูนย์เรียนรู้รถรับส่งนั

สสส.สานพลังภาคี ขจัดความเหลื่อล้ำกิจกรรมทางกาย ดึงคนไทยสู่เวอร์ชั่นใหม่

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม

สสส.-สคล. ผนึกภาครัฐ เอกชน จัดแข่งฟุตซอลเยาวชนไม่เกิน 15 ปี ชิงถ้วยกรมสมเด็จพระเทพฯ

สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ

"สิทธิในอาหารเพื่อชีวิตที่ดี" ความตระหนักรู้เสริมสุขภาวะ

เด็กทั่วโลกเผชิญปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านอาหาร เพราะการบริโภคไม่สมดุล ส่งผลต่อสุขภาวะอ้วนผอม ชาวโลกเผชิญความอดอยากเกือบ 300 ล้านคน

สสส.ชวนคนรักสุขภาพ ร่วม'เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง' กระตุ้น'นักวิ่งหน้าใหม่'ลงสนาม8ธ.ค.นี้

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. ร่วมกับ สมาพันธ์ชมรมเดิน-วิ่งเพื่อสุขภาพไทย จัดงานแถลงข่าว Thai Health Day Run 2024 วิ่งสู่วิถีชีวิตใหม่ ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด “เมื่อคุณเริ่มวิ่ง หัวใจเต้นแรง” ในวันที่ 8 ธ.ค. นี้ ที่สะพานพระราม 8 โดย สสส. มุ่งจุดกระแสกิจกรรมทางกายเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้มีสุขภาพดี ลดความเสี่ยงเกิดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ในอนาคต ซึ่งจากผลสำรวจอายุคาดเฉลี่ยทั่วโลกในปี 2567 ของ www.worldometers.info ระบุว่า ไทยมีอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ 76.56 ปี อายุยืนเป็นอันดับที่ 78 ของโลก ขณะที่ข้อมูลจากฐานข้อมูลการตาย กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กระทรวงสาธารณสุข ปี 2561-2565 พบคนไทยเสียชีวิตก่อนวัยอันควร 164,720 ราย สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คือ ป่วยด้วยกลุ่มโรค NCDs ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมและวิถีชีวิต