ประกันชีวิตมีกี่ประเภท เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคนวัยทำงาน

คนวัยทำงานเป็นช่วงอายุที่ต้องเริ่มวางแผนชีวิตอย่างจริงจัง ทั้งในด้านการเงิน การลงทุน และการสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงเริ่มสนใจที่จะทำประกันคุ้มครองชีวิตกันมากขึ้น แต่ด้วยความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประกันคุ้มครองชีวิตในปัจจุบัน หลายคนอาจสงสัยว่าประกันคุ้มครองชีวิตมีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับตนเอง บทความนี้จะช่วยไขข้อสงสัยและให้คำแนะนำในการเลือกประกันชีวิตที่เหมาะสมสำหรับคนวัยทำงาน

ประกันชีวิตมีกี่ประเภท

  1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา (Term Life Insurance) ประกันประเภทนี้ให้ความคุ้มครองชีวิตในระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี, 10 ปี หรือ 20 ปี หากผู้เอาประกันเสียชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินตามจำนวนทุนประกัน แต่หากพ้นระยะเวลาคุ้มครอง กรมธรรม์จะสิ้นสุดลงโดยไม่มีการจ่ายเงินคืน
  2. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ (Endowment Insurance) ประกันประเภทนี้ผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมทรัพย์ ผู้เอาประกันจะได้รับเงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา หรือผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินก้อนหากผู้เอาประกันเสียชีวิตก่อนครบกำหนดสัญญา
  3. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life Insurance) ประกันประเภทนี้ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิตของผู้เอาประกัน โดยจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่งหรือตลอดชีพ เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต ผู้รับผลประโยชน์จะได้รับเงินตามจำนวนทุนประกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนของเงินปันผลหรือเงินสะสมที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ถือกรมธรรม์
  4. ประกันชีวิตแบบยูนิต ลิงค์ (Unit-Linked Insurance) ประกันประเภทนี้ผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการลงทุนในกองทุนรวม ผู้เอาประกันสามารถเลือกสัดส่วนการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ได้ตามความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของกองทุนที่เลือกลงทุน

ประกันชีวิตเลือกแบบไหนให้เหมาะกับคนวัยทำงาน

  1. สถานะทางการเงินและภาระรับผิดชอบ หากคุณมีภาระหนี้สินหรือมีครอบครัวที่ต้องดูแล ประกันคุ้มครองชีวิตแบบชั่วระยะเวลาอาจเหมาะสมที่สุด เนื่องจากให้ความคุ้มครองสูงในราคาที่ไม่แพงมาก
  2. เป้าหมายการออมและการลงทุน หากคุณต้องการผสมผสานระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมเงิน ประกันคุ้มครองชีวิตแบบสะสมทรัพย์หรือแบบตลอดชีพอาจเป็นตัวเลือกที่ดี ในขณะที่ประกันคุ้มครองชีวิตแบบยูนิต ลิงค์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสในการลงทุนที่มากขึ้น
  3. ระยะเวลาที่ต้องการความคุ้มครอง หากคุณต้องการความคุ้มครองเฉพาะในช่วงที่มีภาระทางการเงินสูง เช่น ช่วงที่กำลังผ่อนบ้านหรือรถยนต์ ประกันคุ้มครองชีวิตแบบชั่วระยะเวลาอาจเพียงพอ แต่หากต้องการความคุ้มครองตลอดชีวิต ประกันคุ้มครองชีวิตแบบตลอดชีพอาจเหมาะสมกว่า
  4. ความสามารถในการจ่ายเบี้ยประกัน พิจารณาว่าคุณสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้มากน้อยเพียงใด โดยทั่วไป ประกันคุ้มครองชีวิตแบบชั่วระยะเวลาจะมีเบี้ยประกันที่ถูกกว่าแบบอื่น ๆ
  5. สิทธิประโยชน์ทางภาษี ประกันชีวิตบางประเภทสามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจ

สำหรับคนวัยทำงานที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตการทำงาน การทำประกันคุ้มครองชีวิตแบบชั่วระยะเวลาอาจเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากให้ความคุ้มครองสูงในราคาที่ไม่แพงมาก ทำให้สามารถวางแผนการเงินในด้านอื่น ๆ ได้ด้วย เมื่อมีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น อาจพิจารณาเพิ่มความคุ้มครองหรือเปลี่ยนไปทำประกันชีวิตแบบอื่นที่มีส่วนของการออมหรือการลงทุนเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

5 ข้อควรรู้ก่อนซื้อประกันเดินทาง เลือกอย่างไรให้คุ้มค่า

“ซื้อประกันเดินทาง เลือกอย่างไรให้คุ้มค่าที่สุด ?” การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง ประกันการเดินทางจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

รัฐบาลชวนครู รับสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุฟรี จ่ายสูงสุด 1 แสน

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ห่วงใยครูและบุคลากรทางการศึกษา

เมืองไทยประกันชีวิต เปิดตัวประกันตัวช่วยวางแผนชีวิต

เมืองไทยประกันชีวิต ส่งแคมเปญ “ShieldLife ประกันชีวิตตัวช่วยให้คุณเบาใจ ในวันที่คุณจากไป...”ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่าง Worry Free พร้อมเปิดตัวโฆษณาชุดใหม่ ถ่ายทอดมุมมองการสร้างความสุขให้ตัวเอง และไม่ทิ้งภาระให้ใคร

"พรรคภูมิใจไทย" ออกนโยบายล่าสุด "กองทุนประกันชีวิต 60 ปีขึ้นไป" เป็นสวัสดิการใหม่ ที่รัฐบาล จะจัดให้แก่ประชาชนคนไทยทุกคน ที่มีอายุ 60 ขึ้นไป ฟรี

นายภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า พรรคภูมิใจไทย ออกนโยบายสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ จะได้รับสิทธิ เป็นสมาชิกกองทุนประกันชีวิต และมีกรมธรรม์ประกันชีวิต