แนะ 4 วิธีรับมือเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่หมดกลางทาง

เทรนด์รถ EV หรือรถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยข้อดีที่น่าสนใจกว่ารถยนต์น้ำมันหลายข้อ ทั้งดีไซน์สวยที่มาพร้อมกับฟังก์ชันภายในที่แปลกใหม่และทันสมัยกว่าเดิมมากๆ การใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานสะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายหลายด้าน แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องฉุกเฉินบนท้องถนนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไม่ต่างกับรถยนต์น้ำมันแบบดังเดิมเลย โดยเฉพาะเหตุการณ์แบตเตอรี่หมดกลางทางนั่นเอง ดังนั้นใครที่ขับรถ EV หรือกำลังมีแผนจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้าสักคัน ลองมาดูสิ่งที่ควรทำเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่หมดกลางทางกันในบทความนี้ได้เลย 

แบตเตอรี่รถไฟฟ้าหมดกลางทาง ทำอย่างไรดี

หนึ่งในข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันนี้ต้องเจอก็คือ สถานีชาร์จแบตเตอรี่ที่ยังมีจำนวนน้อยกว่าปั๊มน้ำมันอยู่มาก โดยเฉพาะถนนเส้นรองหรือพื้นที่ต่างจังหวัด เหตุการณ์รถแบตหมดสำหรับรถไฟฟ้าจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นหากใครที่มีรถยนต์ไฟฟ้า ลองใช้การรับมือเมื่อแบตเตอรี่รถไฟฟ้าหมดขณะเดินทางด้วยวิธีต่อไปนี้

1. ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น

หากสังเกตเห็นว่าแบตเตอรี่กำลังจะหมด สิ่งแรกที่ควรทำคือลดการใช้พลังงานทุกอย่างลง เพื่อลดการใช้งานแบตเตอรี่ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการลดความเร็ว การปิดระบบปรับอากาศและอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานอื่นๆ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า หน้าจอและเครื่องเสียงต่างๆ ก็จะช่วยยืดระยะทางขับรถได้ไกลขึ้น

2. ใช้โหมดประหยัดพลังงาน (Eco Mode)

การเปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดอีโค่ เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเก็บพลังงานเพื่อพารถไปถึงจุดชาร์จได้ โดย Eco Mode จะปรับการทำงานของรถเพื่อลดการใช้พลังงานลง เช่น ระบบปรับอากาศ ลดกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า และลดความเร็วสูงสุดของรถยนต์ โหมดนี้จะช่วยให้สามารถยืดระยะทางการขับขี่ได้เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด

3. ค้นหาสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุด

ในระหว่างที่ขับอาจได้ยินสัญญาณเตือนแบตเตอรี่เหลือน้อยจากตัวรถ ให้พยายามตั้งสติและอย่าตื่นตระหนก และรีบค้นหาสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุด ซึ่งปกติแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจะมีระบบที่แสดงตำแหน่งของสถานีชาร์จที่อยู่ใกล้เคียง พร้อมช่วยคำนวณระยะทางที่เหลือโดยเทียบกับพลังงานที่มีอยู่ให้ด้วย หรือจะใช้สมาร์ตโฟนค้นหาจากแอปพลิเคชันหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ให้บริการแบรนด์ต่างๆ เช่น EA Anywhere, MEA EV, EVOLT, EV Station Pluz หรือ EleX by EGAT ก็ได้เช่นกัน

4. ติดต่อบริการฉุกเฉิน บริการรถสไลด์หรือรถลาก

ในกรณีที่ไม่สามารถหาสถานีชาร์จใกล้เคียงได้ ให้นำรถเข้าข้างทางและติดต่อบริการฉุกเฉิน บริการรถสไลด์หรือรถลาก ซึ่งปัจจุบันก็มีบริการฉุกเฉินรองรับสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น ช่วยชาร์จไฟแบตเตอรี่ให้เพียงพอที่จะขับไปยังสถานีชาร์จ หรือบริการลากรถ ขนย้ายรถไปยังสถานีชาร์จที่ใกล้ที่สุด ที่สำคัญบริการรถสไลด์ออน รถลาก ยังถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมในสถานการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนนต่างๆ เช่น รถเสีย รถสตาร์ตไม่ติด รถไม่สามารถขับรถต่อได้อีกด้วย โดยบริการรถยกรถสไลด์มีให้เลือกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ให้ลองพิมพ์คำค้นหาอย่างเช่น รถสไลด์นนทบุรี รถสไลด์มีนบุรี รถสไลด์รามอินทรา ฯลฯ ให้ตรงกับบริเวณที่รถเราจอดอยู่ได้เลย

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นหนึ่งตัวเลือกยานพาหนะที่ตอบโจทย์การใช้งานอย่างมากในยุคปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม การวางแผนชาร์จแบตเตอรี่และเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินบนท้องถนนอยู่เสมอ จะช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่น แต่หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์แบตเตอรี่รถไฟฟ้าหมดกลางทาง แจ็ครถยกรถลาก - ศูนย์บริการรถยก รถลาก รถสไลด์ 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการรถสไลด์นนทบุรี รถสไลด์สมุทรปราการ รถสไลด์นครปฐม และทุกพื้นที่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดอื่นทั้งประเทศไทย ติดต่อ โทร. 098-295-6197

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SolarEdge ส่ง 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ รับตลาดโซลาร์เซลล์ไทยพุ่งสวนกระแสโลก

ตลาดโซลาร์เซลล์ (PV) ของไทยที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว จากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้น กระแสความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า

'จิราพร' คาดแนวโน้มดี สัปดาห์หน้ารถไฟฟ้า BYD เข้าชี้แจง สคบ. หาทางออกให้ผู้บริโภค

น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตรวจสอบแคมเปญลดราคารถยนต์ไฟฟ้า BYD ว่า ในฐานะกำกับดูแล สคบ.ได้

สัมผัส “Honda e:N1” ยนตรกรรมไฟฟ้า 100%

หลังจากฮอนด้า ออโตโมบิล ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรุ่นแรกของทางฮอนด้าในประเทศไทย ซึ่งได้นำมาอวดโฉมในงาน บางกอกมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45