ในยุคปัจจุบัน ผู้หญิงจำนวนมากเลือกที่จะวางแผนชีวิตและการมีครอบครัวอย่างรอบคอบ หลายคนอาจยังไม่พร้อมมีบุตรในขณะนี้ แต่ก็ไม่อยากปิดโอกาสการมีลูกในอนาคต การฝากไข่จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงที่ต้องการรักษาโอกาสในการมีบุตรเมื่อพร้อม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคุณภาพของไข่ที่เสื่อมลงตามอายุที่มากขึ้น การฝากไข่จึงเป็นวิธีช่วยรักษาการเจริญพันธุ์ได้ แล้วการฝากไข่ต้องทำอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เราจะมาบอกให้รู้กัน
ฝากไข่คืออะไร ?
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าการฝากไข่มีค่าใช้จ่ายเท่าไร เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฝากไข่กันก่อน
การฝากไข่ หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า การเก็บรักษาไข่ (Egg Freezing) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเก็บรักษาไข่ของตนเองไว้ใช้ในอนาคต โดยไข่ที่เก็บรักษาไว้จะมีคุณภาพเท่ากับช่วงเวลาที่ทำการเก็บ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม วิธีการนี้จึงช่วยให้ผู้หญิงสามารถชะลอเวลาการมีบุตรไปจนกว่าจะพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสถานะทางการเงิน
การฝากไข่มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ?
ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่อาจแตกต่างกันไปตามสถานพยาบาลและประเทศ โดยทั่วไปแล้วค่าใช้จ่ายมักประกอบด้วย
- ค่าตรวจร่างกายและฮอร์โมน
- ค่ายากระตุ้นการตกไข่
- ค่าเก็บไข่
- ค่าแช่แข็งและเก็บรักษาไข่
ในประเทศไทย ค่าใช้จ่ายโดยรวมอาจอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 300,000 บาทต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับจำนวนไข่ที่เก็บได้และระยะเวลาในการเก็บรักษา นอกจากนี้ ยังมีค่าใช้จ่ายรายปีในการเก็บรักษาไข่ ซึ่งอาจอยู่ที่ประมาณ 10,000 - 20,000 บาทต่อปี
ขั้นตอนการฝากไข่
เมื่อได้รู้แล้วว่าการฝากไข่มีค่าใช้จ่ายเท่าไรและอะไรบ้าง เราไปรู้ถึงขั้นตอนในการฝากไข่กัน
- ปรึกษาแพทย์ เริ่มต้นด้วยการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เพื่อประเมินสุขภาพและความเหมาะสมในการฝากไข่
- ตรวจร่างกายและฮอร์โมน แพทย์จะตรวจร่างกายและระดับฮอร์โมนเพื่อประเมินปริมาณและคุณภาพของไข่
- กระตุ้นการตกไข่ ผู้หญิงจะได้รับฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการสร้างไข่หลายใบในรอบเดียว
- ติดตามการเจริญเติบโตของไข่ แพทย์จะติดตามการเจริญเติบโตของไข่ด้วยการอัลตราซาวน์และตรวจเลือด
- เก็บไข่ เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ แพทย์จะทำการเก็บไข่ผ่านการใช้เข็มดูดไข่ภายใต้การดมยาสลบ
- แช่แข็งและเก็บรักษา ไข่ที่เก็บได้จะถูกนำไปแช่แข็งด้วยวิธีการพิเศษและเก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลว
การฝากไข่เหมาะกับใคร ?
การฝากไข่ที่มีค่าใช้จ่ายสูง เหมาะสำหรับผู้หญิงในหลายสถานการณ์ เช่น
- ผู้หญิงที่ต้องการเน้นเรื่องการศึกษาหรือหน้าที่การงานก่อนมีครอบครัว
- ผู้ที่ยังไม่พบคู่ชีวิตที่เหมาะสม แต่ต้องการรักษาโอกาสในการมีบุตรในอนาคต
- ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการรักษาโรคที่อาจส่งผลต่อภาวะการเจริญพันธุ์ เช่น การรักษามะเร็ง
- ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเกี่ยวกับภาวะหมดไข่ก่อนวัยผู้ที่ต้องการชะลอการมีบุตรด้วยเหตุผลทางการเงินหรือสถานการณ์ชีวิต
ข้อควรพิจารณา
แม้ว่าการฝากไข่จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ก็มีข้อควรพิจารณา ดังนี้
- ไม่รับประกันความสำเร็จ 100% การฝากไข่ไม่ได้รับประกันว่าจะสามารถมีบุตรได้แน่นอนในอนาคต
- ผลข้างเคียง อาจมีผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนและการเก็บไข่ เช่น อาการปวด บวม หรือเลือดออก
- ค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายในการฝากไข่ค่อนข้างสูงและอาจไม่ครอบคลุมโดยประกันสุขภาพ
- ความเครียด กระบวนการฝากไข่อาจก่อให้เกิดความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ
การฝากไข่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้หญิงที่ต้องการวางแผนอนาคตและรักษาโอกาสในการมีบุตร แม้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงและไม่รับประกันความสำเร็จ 100% แต่ก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้นในการวางแผนครอบครัว อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฝากไข่ควรผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละบุคคล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'แพท ณปภา' ฉีดฮอร์โมน เตรียมฝากไข่ แพลนมีลูกคนที่2
คุณแม่สายสตรอง แพท-ณปภา ตันตระกูล รับมีแฟนเด็กอายุห่างกัน 14 ปี ลั่นไม่เปิดตัวเด็ดขาด อีกทั้งเจ้าตัวยังแพลนมีลูกอีกคน โดย แพท ณปภา มาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มีพีเค ปิยะวัฒน์, บูม สุภาพร และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ