สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าเสริมแกร่งผู้ประกอบการ SMEs ไทย จัดงานสัมมนา connect-the-dots #2: DATA-DRIVEN SUSTAINABILITY for Hospitality, Tourism and Manufacturing ปลดล็อกสู่ความยั่งยืนด้วยข้อมูล สำหรับธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และการผลิต พร้อมโชว์ 2 โปรเจกต์ คือ Travel Link และ Envi Link เพื่อส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ตามติดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยี AI ชี้ช่องทางในการกำหนดกลยุทธ์ สู่นโยบายการขับเคลื่อนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืนขององค์กร ยกระดับเทียบเท่ามาตรฐานสากล
ดร.สุนทรีย์ ส่งเสริม รองผู้อำนวยการสถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ กล่าวว่า BDI ให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านข้อมูลขนาดใหญ่ พัฒนาองค์ความรู้และบุคลากร ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อพัฒนาไปสู่การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยร่วมมือกับพันธมิตรมากมายทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการ ซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้ประกอบการจะได้เรียนรู้การใช้ประโยชน์จากข้อมูลรวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ผ่านการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพและขยายขีดความสามารถของแต่ละธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น ภายใต้ 2 โครงการ คือ 1.โครงการ Travel Link และ 2.โครงการ Envi Link ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการในการบริหารจัดการอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว ควบคู่กับการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับขององค์กรเทียบเท่ามาตรฐานสากล สู่การเติบโตแบบก้าวกระโดด สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจต่อไป
ด้านนายทินกร ม้าลายทอง ผู้จัดการโครงการ Travel Link กล่าวว่า Travel Link คือ ศูนย์กลางการเชื่อมโยงและพัฒนาบริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว ผ่าน www.travellink.go.th สนับสนุนให้เกิดการใช้ประโยชน์ข้อมูล เพื่อขยายขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ ภายใต้ความร่วมมือของรัฐและเอกชนมากกว่า 20 หน่วยงาน ซึ่งจะมีแดชบอร์ดข้อมูลท่องเที่ยวมากกว่า 150 แดชบอร์ด ครอบคลุมกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ โดยรวบรวมข้อมูลการเดินทาง การพักแรม การใช้จ่าย และกระแสจากสื่อโซเชียล ทำให้ทราบถึงการแสดงความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว จำนวนผู้มาเยี่ยมเยือน เส้นทางบิน สถิติผู้โดยสารผ่านสนามบิน หรือด่านต่าง ๆ ทั่วประเทศ แล้วนำมาวิเคราะห์พร้อมแสดงสถิติผ่านอินโฟกราฟิกที่อัปเดตรายวันและรายเดือน ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของข้อมูลได้ง่ายขึ้น สามารถช่วยผู้ประกอบการในการตัดสินใจและแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น การใช้ข้อมูลเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้การท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นในระยะยาว
ขณะที่นางสาวพรรษพัชร์ บำรุงวงศ์ ผู้จัดการโครงการส่วนงาน Data Analytics Service กล่าวว่า จากสถานการณ์ประเทศไทยที่กำลังเผชิญกับสภาวะโลกร้อน ทำให้ทั่วโลกต่างรณรงค์การลดคาร์บอนฟุตพรินต์ แต่หัวใจสำคัญในลดคาร์บอนฟุตพรินต์ คือ ต้องทราบข้อมูลที่สะท้อนถึงคาร์บอนฟุตพรินต์ ทั้งนี้ โครงการแพลตฟอร์มบริการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับพื้นที่เมืองอัจฉริยะ (Envi Link) คือ แพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย เพื่อสนับสนุนการวางแผนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม อากาศสะอาด และลดคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยรวบรวมข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 30 องค์กร มากกว่า 80 ชุดข้อมูล ผ่านเว็บไซต์ www.envilink.go.th ทั้งนี้ นำร่องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ภายใต้ “โครงการความเป็นกลางทางคาร์บอน เมืองเก่าภูเก็ต” ที่มุ่งเน้นการประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์ในพื้นที่ผ่านเทคโนโลยี AI เพื่อประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Footprint) พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์สภาพแวดล้อมในพื้นที่ สร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศอย่างยั่งยืนต่อไป
ภายในงานสัมมนาครั้งนี้ ยังได้มีการบรรยายในหัวข้อ “LOW CARBON to NET ZERO: ลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์” ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ TGO โดยนายธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ มอบองค์ความรู้ คำแนะนำ ไขทุกข้อสงสัยในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมภายในธุรกิจ การลดคาร์บอนมีผลอย่างไรกับธุรกิจแต่ละรูปแบบ และปิดท้ายด้วยการเสวนาหัวข้อ “DATA-DRIVEN SUSTAINABILITY: ข้อมูลและนวัตกรรมเพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน” โดย ดร.ศกยง พัฒนเวคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญ Deep Technology ด้านความยั่งยืน, นายไชยวิวรรณ ชูวิเชียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นเนอร์จี้ เรสปอนส์ จำกัด สตาร์ตอัปผู้พัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มและระบบวิเคราะห์ข้อมูล ทรานส์ฟอร์มการบริหารจัดการระบบด้านวิศวกรรมและพลังงาน, นายประจิตร จันทร์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ปัญญ์ปุริ ผู้ประกอบการที่จัดการ Carbon Footprint และ Carbon Credit ในภาคการผลิต พร้อมด้วยผู้บริหารจาก BDI มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ด้วยความมุ่งมั่นของ BDI ที่มีความตั้งใจในการผลักดันผู้ประกอบการ SMEs ไทย สร้างการเติบโตของธุรกิจอย่างมีทิศทางด้วยการใช้ DATA ข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญและจากผู้ประกอบการตัวจริง ยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เตรียมพบกับกิจกรรมครั้งที่ 3 ที่ผู้ประกอบการทุกประเภทไม่ควรพลาด กับงานสัมมนา connect-the-dots #3: BIG DATA & AI ECOSYSTEM IN THAILAND ในวันที่ 12 กันยายน 2567 เข้าร่วมอัปสกิลฟรี! ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BDI ได้ที่เว็บไซต์ www.bdi.or.th และทาง เพจเฟซบุ๊ก BDI - Big Data Institute: www.facebook.com/bdithailand
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
BDI จัดงานใหญ่แห่งปี “connect-the-dots #3: BIG DATA & AI ECOSYSTEM IN THAILAND”
สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI หน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมยุคดิจิทัล เดินหน้าจัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี "connect-the-dots #3: BIG DATA & AI ECOSYSTEM IN THAILAND"
สสว. ปลื้มผู้ประกอบการเข้าร่วม แคมเปญ “SUPER SMEs SELECT” กว่า 1,000 ราย เดินหน้าผลักดันสิทธิประโยชน์ ขยายช่องทางการตลาดต่อเนื่อง
นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการสำนักงาน รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว.
ดีอี-BDI เดินหน้าผลักดันการใช้ Big Data และ AI สู่ Data-Driven Nation ตั้งเป้าปี 67 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 3,000 ล้านบาท
กรุงเทพฯ 21 กุมภาพันธ์ 2567- กระทรวงดีอี – BDI แถลงบทบาทใหม่ เดินหน้าหนุนใช้ Big Data และ AI ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมยุคดิจิทัล
SMEs เฮทั่วไทย! กระทรวงอุตฯ ใจดี หลักทรัพย์ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้
รมว.พิมพ์ภัทรา สั่งการ ดีพร้อม ผนึกกำลัง บสย. และ 4 สถาบันการเงิน เพิ่มโอกาสให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุน หลักทรัพย์ไม่มี ดีพร้อมค้ำประกันให้ แจ้งผลภายใน 7 วัน
พาณิชย์สั่งลุยอีคอมเมิร์ซปั้น SMEs สินค้าชุมชน OTOP ขายออนไลน์
คณะอนุกรรมการพาณิชย์อิเล็กทรกนิกส์ Big Data และอินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า กระทรวงพาณิชย์ครั้งที่ 2 เห็นชอบแผน Quick Win ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวม 4 แผนงาน ตั้งเป้าส่งเสริม SMEs สินค้าชุมชน OTOP ขายออนไลน์ได้จริงไม่ต่ำกว่า 25,000 รายต่อปี ช่วยยกระดับความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรม พัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ส่งเสริมใช้อินฟลูเอนเซอร์เพื่อการค้า และพัฒนาปัจจัยสนับสนุนอย่างเต็มที่
เริ่มแล้ว พักหนี้-ปลดหนี้ SMEs โดย บสย. ลงทะเบียน 1 ม.ค. เป็นต้นไป
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายในการแก้ปัญหาหนี้ทั้งระบบอย่างจริงจังและ