ร้อยดวงใจ จิตอาสา พัฒนาชุมชนท้องถิ่น “ปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร. 10” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

พิธีโครงการร้อยดวงใจ จิตอาสา พัฒนาชุมชนท้องถิ่น“ปลูกป่า เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

นครพนม/ วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) ร่วมกับ จังหวัดนครพนม จัดโครงการร้อยดวงใจ จิตอาสา พัฒนาชุมชนท้องถิ่น "กิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระขนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา พื้นที่ป่าชุมชน และป่าครอบครัว จำนวน 4 ตำบล โดยมี พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานกล่าวเปิดโครงการฯ และปล่อยคาราวานจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  นายโชคชัย  วิเชียรชัยยะ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมันคงของมนุษย์ นางอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชมชน (องค์การมหาชน)  ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวนกว่า 400 คน ณ ป่าชุมชนบ้านพรเจริญ ตำบลวังตามัว อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม

จิตอาสากล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”

ด้วยในปี 2567 เป็นมหามงคลสมัยพิเศษ  พอช.สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จึงดำเนินการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา  เพื่อน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายเกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุข ซึ่งจะมุ่งเน้นให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมให้ได้มากที่สุด

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้กล่าวถึง  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช.เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสําคัญ ในการขับเคลื่อนดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนระดับฐานราก ซึ่งหลักแนวคิดคือเน้นให้พี่น้องประชาชนได้รวมตัวกันสร้างความเข้มแข็ง และบูรณาการทุกภาคส่วนเข้าด้วยกันในการแก้ไขปัญหาของชุมชน เช่นโครงการบ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากรและคลองลาดพร้าวซึ่งได้สัมผัสมาในช่วงที่เป็นรัฐมนตรีกระทรวง พม. มีเป้าหมายกว่า7,000 หลัง ภูมิใจที่ได้มีโอกาสร่วมขับเคลื่อน ได้กว่า 3,500 หลัง ทําให้พี่น้องประชาชนอยู่ในพื้นที่ของคลองลาดพร้าวและคลองเปรมประชากร ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เป็นการบูรณาการหลายกระทรวง พอช. เป็นตัวกลางที่สร้างกระบวนการเหล่านี้ วันนี้เขามีบ้านอยู่เป็นที่ภูมิใจ เป็นการยกระดับชีวิตของพี่น้องประชาชนจริงๆ  

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อไปอีกว่า สําหรับการปลูกป่าเฉลิมเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา ซึ่งเราก็ได้มารวมตัวกันในวันนี้ ก็ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากเพราะถ้าเรามีป่า เราก็ต้องมีความชุ่มชื้น เรามีป่าเราก็ต้องมีน้ำ และเราก็มีป่าเราก็จะมีอาหาร สมุนไพรต่างๆ เราร่วมกันปลูกป่าในวันนี้ ประโยชน์ก็จะเกิดขึ้นกับพี่น้องในชุมชน ทุกคนรักษาป่าให้เติบโตมีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อลดภาวะโลกร้อน การปลูกป่าในวันนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เราได้มาร่วมกันทําความดี และประโยชน์จากป่าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นางต้อย แลวงค์นิล ผู้แทนสภาองค์กรชุมชนตำบลและเครือข่ายบ้านมั่นคงชนบท จังหวัดนครพนม กล่าวว่า จากการดำเนินงานที่ผ่านมาของ ตำบลวังตามัว ตำบลโพนบก โพนสวรรค์ ตำบลนาใน ได้มีการดำเนินงานพัฒนาที่อยู่อาศัยและการพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามแนวทางบ้านมั่นคงชนบท โดยได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดนครพนม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดนครพนม ต่อการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินในพื้นที่ 2 อำเภอ 4 ตำบล 777 ครัวเรือน ในพื้นที่ภูมินิเวศป่าดงเซกาแปลงสอง ที่มีกระบวนการสำคัญ ในการพัฒนาบนพื้นฐาน ที่มากกว่า “คำว่าบ้าน” หากแต่คือ มีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย  วิถีชุมชนอยู่ร่วมกับธรรมชาติมาเนิ่นนาน หลายหมู่บ้านมีเขตป่าชุมชนและป่าหัวไร่ปลายนา ซึ่งปัจจุบันสมาชิกชุมชนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาในการสร้างพื้นที่สีเขียวมีลักษณะเป็น “ป่าครอบครัว” หรือบางคนก็เรียกว่า “สวนวนเกษตร เกษตรผสมผสาน” เป็นแหล่งอาหารและพื้นที่สีเขียว ปอดชุมชน ขณะเดียวกัน ยังสามารถสร้างรายได้ ลดรายจ่าย ในครัวเรือน ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

นายกฤษดา สมประสงค์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชมชน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า  สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรําลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้จัดทำโครงการร้อยดวงใจ จิตอาสา พัฒนาชุมชนท้องถิ่น “กิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ร่วมกับหน่วยงานภาคี ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา  บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาคี ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 10,272 ต้น  เป็นการสร้างพื้นที่กิจกรรมร่วมใน 4 ตำบล เครือข่ายภูมินิเวศน์ ป่าดงเซกา  แปลง 2  ตามแนวนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ด้วยการสร้างโมเดลพื้นที่   ป่าครอบครัวอย่างน้อยร้อยละ 20 ในพื้นที่ของตนเอง และสร้างพื้นที่ให้สภาองค์กรชุมชน กองทุนสวัสดิการชุมชน มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยส่งเสริมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติแบบมีส่วนร่วม และส่งเสริมให้กองทุนสวัสดิการชุมชนพัฒนาสวัสดิการรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ

ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานทรัพยากรธธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนม มณฑลทหารบกที่ 210 องค์การบริหารส่วนตำบลวังตามัว องค์การบริหารส่วนตำบลโพนบก เทศบาลตำบลโพนสวรรค์ องค์การบริหารส่วนตำบลโพนสวรรค์ องค์การบริหารส่วนตำบลนาใน สภาองค์กรชุมชมชนตำบลวังตามัว สภาองค์กรชุมชนตำบลโพนบก สภาองค์กรชุมชนตำบลโพนสวรรค์ สภาองค์กรชุมชนตำบลนาใน กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลวังตามัว กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลโพนบก กองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลโพนสวรรค์ และขบวนองค์กรชุมชนจังหวัดนครพนม ดำเนินการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯในพื้นที่ป่าชุมชน และป่าครอบครัว ตำบลวังตามัว ตำบลโพนบก โพนสวรรค์ ตำบลนาใน โดยมีเป้าหมาย จำนวน 21,572 ต้น

ปล่อยคาราวานจิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

การจัดกิจกรรม “ปลูกป่า  เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ที่จังหวัดนครพนม เป็นกิจกรรมที่ได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ โดยนำพระราชปณิธานและพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มุ่งยกระดับการแก้ไขปัญหาสังคมและการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน มาปรับใช้ในการดำเนินงานด้านการพัฒนาสังคม ให้มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ลดโลกร้อน ผ่านโครงการด้านจิตสาธารณะและจิตอาสาร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน เป็นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

มอบพระบรมฉายาลักษณ์ฯ มอบป้ายทะเบียนบ้าน และห้องน้ำจิตอาสา

จิตอาสาปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เยาวชน 19-20 ปี ตั้งแก๊งค้ายาบ้า สารภาพทำหลายครั้ง ได้ค่าจ้าง 3-5 หมื่นบาท

พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 พร้อมด้วย ชุดปฏิบัติการข่าว ตชด.235 อ.ธาตุพนม และหน่วยงานความมั่นคง ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี

แม่น้ำโขงนครพนมเริ่มล้นตลิ่ง ไหลท่วมนาข้าวแล้วกว่า 5 พันไร่ จ่อขยายวงกว้าง

มีความคืบหน้าสถานการณ์ระดับแม่น้ำโขง ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมายังเพิ่มระดับต่อเนื่อง นอกจากมีฝนตกหนักในพื้นที่แล้ว ยังมีมวลน้ำจากทางเหนือไหลมาสมทบ ทำให้ปริมาณน้ำโขงเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุดวันที่ 22 สิงหาคม 67 วัดได้ 9.60 เมตร เพิ่มขึ้นประมาณวันละ 10 -20 เซนมิเมตร

“Movement คนรุ่นใหม่” #คนรุ่นใหม่คืนถิ่น 2 สสส. สานพลัง พอช. มุ่งกระจายโอกาสทั่วถึง ร่วมพลิกวิกฤต เป็นโอกาสพัฒนาบ้านเกิด

กรุงเทพมหานคร / เวลา 09.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 2567 ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

นครพนมสร้างโบสถ์สแตนเลส แห่งแรกอีสาน

วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ยุคเดียวกับพระธาตุพนม สร้าง “โบสถ์สแตนเลส” แห่งแรกอีสาน สลักดุนนูนต่ำตำรับช่างสิบหมู่ เข้มขลังสวยงาม หนุนท่องเที่ยวเชิงธรรมะ

รวมพลังเครือข่ายสวัสดิการชุมชนภาคเหนือ จัดงานสมัชชาสวัสดิการชุมชน “สวัสดิการชุมชน พลังสร้างสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ แก้วิกฤตประชากรไทย” หนุนสวัสดิการแนวใหม่ชุมชนผสานพลังภาคี

เชียงราย/เครือข่ายสวัสดิการชุมชนภาคเหนือ ร่วม กระทรวง พม. พอช. จัดงานสมัชชาสวัสดิการชุมชนระดับภาค “สวัสดิการชุมชน พลังสร้างสังคม ลดความเหลื่อมล้ำ

สลด! ด.ญ. 10 ขวบ จมน้ำดับ เล่นกับเพื่อนจนออกนอกตลิ่ง น้ำพัดจมดิ่งติดตอม่อ

สมาคมกู้ภัยสายธารสะพานบุญ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลสามผง อ.ศรีสงคราม ว่า มีเหตุเด็กจมน้ำสูญหายบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำสงคราม ซึ่งอยู่หลังวัดหลวงพ่อพระเนาว์ บ้านศรีเวินชัย หมู่ 6 ต.สามผง จึงประสานชุดประดาน้ำกู้ภัยสว่างศรีวิไลฯจุดเซกา จ.บึงกาฬ ร่วมตรวจสอบพื้นที่ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต สร้างข้ามลำน้ำสงครามไปยังบ้านขามเปี้ยน้อย ต.บ้านข่า อ.ศรีสงคราม มีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่เต็ม พร้อมกับเสียงพูดคุยถึงเหตุการณ์ดังกล่าว