“สุชาติ” เยือนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ชี้โอกาสขยายตลาดสินค้าไทยในอินเดียยังสดใส พร้อมสำรวจห้างพบสินค้าไทยที่ขายดีเพียบ !

วันที่ 7 สิงหาคม 67 เวลา 17.00 น. (เวลาประเทศไทย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น และคณะ ได้เยือนสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี โดยมีนางสาวภัทรัตน์ หงษ์ทอง
เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ให้การต้อนรับ ซึ่งนับเป็นการเยือนกรุงนิวเดลีครั้งแรกของผู้แทนระดับรัฐมนตรีของกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด 19 ในปี 2563

นางสาวภัทรัตน์ฯ เอกอัครราชทูต ได้กล่าวต้อนรับและแสดงความขอบคุณรัฐมนตรีช่วยฯ ที่ให้เกียรติมาเป็นผู้แทนระดับสูงของไทยที่เข้าร่วมงาน BIMSTEC Business Summit ในวาระที่ที่ไทยเป็นประธานกลุ่มบิมสเทค ซึ่งรัฐมนตรีช่วยฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์และความมุ่งหมายของประเทศไทยที่พร้อมเร่งรัดให้ประเทศสมาชิกกระชับความร่วมมือเพื่อเร่งรัดการจัดทำ BIMSTEC FTA ให้บรรลุผลสำเร็จซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้สมาชิกได้เห็นถึงการมุ่งมั่นของไทยในการรวมกลุ่มของภูมิภาคอ่างเบงกอล เพื่อให้เกิดความตกลงเสรีทางการค้าที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะทำให้ประเทศสมาชิกได้ร่วมมือกัน อีกทั้งเชื่อมั่นว่าการเยือนกรุงนิวเดลีของระดับรัฐมนตรีจากกระทรวงพาณิชย์ในครั้งนี้จะยิ่งเป็นการย้ำความสำคัญของไทยในวิสัยทัศน์ของอินเดียได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ อินเดียยังมีความสำคัญในเชิงความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับอินเดีย ซึ่งอินเดียเป็นคู่ค้าสำคัญ ที่ผ่านมาการค้าไทย-อินเดียมีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และมีแนวโน้มจะขยายตัวได้อีกมาก

รัฐมนตรีช่วยฯ ได้แสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ และทีมประเทศไทย ณ กรุงนิวเดลี ที่ทำงานร่วมกันใกล้ชิดเพื่อขยายโอกาสและขับเคลื่อนผลประโยชน์ของไทยในประเทศอินเดียซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพสูง และการเยือนครั้งนี้ทำให้ยิ่งตระหนักถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจของอินเดียและจะนำไปต่อยอดในการกำหนดกลยุทธ์เชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ต่อตลาดอินเดียได้อย่างรอบด้านยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ อินเดียประกาศนโยบายอินเดียใหม่ (New India) จะทำให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่เหมาะสมกับการลงทุน โดยจะกลายเป็นประเทศที่มีตลาด ขนาดใหญ่และมีกําลังบริโภคของชนชั้นกลาง ชุมชนเมืองและประชาชนที่มีอายุเฉลี่ยต่ํามาก ทำให้มีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจมาขยายในตลาดอินเดีย และอินเดียมีโครงสร้าง พื้นฐานที่รองรับการทําธุรกิจ มีแรงงานที่มีฝีมือราคาต่ำ มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ดี ทำให้เหมาะสมแก่นักลงทุนไทย

หลังจากนั้น นายสุชาติฯ ได้เดินทางสำรวจโอกาสและศักยภาพของ ผลิตภัณฑ์อาหารและผลไม้ของไทย ในซุปเปอร์มาเกต ”Food Stories“ พบสินค้าไทยหลายชนิดที่ได้รับความนิยม อาทิ ผลไม้สดจากไทย มังคุด ลำไย มะพร้าว และผัก ได้แก่ ข่า ตะไคร้ นอกจากนี้ ยังมีชั้นวางสินค้าไทยโดยเฉพาะ เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างมาก อาทิ ซอสปรุงรส น้ำปลา น้ำจิ้ม อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง ผงต้มยำ แกงพแนง แกงเขียวหวาน ที่มีวางจำหน่ายอย่างโดดเด่นในเชลล์ของไทย

สำหรับมูลค่าการค้าไทย-อินเดีย ระหว่างเดือนมกราคม -มิถุนายน 2567 มีมูลค่ารวม 8,158.65 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ แบ่งเป็น การส่งออก 5,397 ล้านเหรียญสหรัฐ การนำเข้า 2,761.65 ล้านเหรียญสหรัฐ ไทยได้ดุลการค้า 2,635.35 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ เคมีภัณฑ์
เม็ดพลาสติก ไขมันและนํ้ามันจากพื่ชและสัตว์ อัญมณีและเครืองประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ทองแดงและของทําด้วยทองแดง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“สุชาติ” เร่งเครื่อง! แพลตฟอร์ม “ITD Expert Anywhere” เติบใหญ่ ไปไกลกว่าเดิม พร้อมพา SMEs ไทยฝ่าอุปสรรค สู่ความสำเร็จระดับโลก!

วันที่ 14 มกราคม 2568 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์

'รัฐบาลพ่อเลี้ยง' ฉายารัฐบาลปี67 นายกฯ'แพทองโพย' อนุทิน'ภูมิใจขวาง' วาทะแห่งปี'สามีเป็นคนใต้'

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายาปี 67 'รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง' ส่วนฉายานายกฯ 'แพทองโพย' 7 รมต.ติดโผ 'บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี' พ่วง 3 รมต.โลกลืม

“สุชาติ” ตัดริบบิ้นงานใหญ่ “ชลบุรี พราว เอ็กโป 2024” ปั้น คนตัวเล็กให้เป็นคนตัวใหญ่ สร้างช่องทางให้ SME สร้างงานให้ประชาชน

วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน “ชลบุรี พราว เอ็กซ์ โป 2024 (CHONBURI PROUD EXPO 2024)” ณ FORYER ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ NICE สวนนงนุช จังหวัดชลบุรี

“สุชาติ“ รับลูก พิชัย เยี่ยมน้ำท่วมเชียงราย พร้อมให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัย สั่งพาณิชย์จังหวัดดูแลใกล้ชิด

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมคณะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ