ประกันภัยรถยนต์ คือ ประกันภัยเพื่อคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการใช้รถ ได้แก่ ความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ หรือ การสูญหายของตัวรถยนต์ นอกจากนี้ ยังคุ้มครองความเสียหายหรือความสูญเสียที่เกิดจากรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บไปจนถึงเสียชีวิต แก่บุคคคลภายนอก รวมถึงบุคคลภายในที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น ซึ่งประกันภัยรถยนต์นั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
รถยนต์ทุกคันในประเทศไทยต้องมีประกันรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “พ.ร.บ” ซึ่งเป็นการคุ้มครองพื้นฐานสำหรับรถยนต์ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากเจ้าของรถ หรือ ผู้ครอบครองรถไม่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือ “พ.ร.บ” จะมีโทษตามที่กฏหมายกำหนดไว้ การทำประกันภัยรถภาคบังคับนั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุรถที่เกิดขึ้น ที่อาจได้รับบาดเจ็บ หรือได้รับอันตรายถึงชีวิตนั้นได้รับการชดเชยและเยียวยาตามความสูญเสียหรือความเสียหายที่เกิดขึ้น
- ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ คือประกันที่เจ้าของรถยนต์สามารถเลือกที่จะซื้อเพิ่มเติมได้นอกเหนือจากประกันภัยภาคบังคับ “ตามความสมัครใจ” โดยประกันภัยรถยนต์แบบสมัครใจนั้นจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ในความคุ้มครองเพิ่มมากกว่าประกันภัยภาคบังคับ ประกันภัยภาคสมัครใจแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทตามระดับความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป ปัจจุบันการทำประกันภัยภาคสมัครใจที่เป็นมาตรฐาน แบ่งความคุ้มครองได้เป็น 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่
2.1 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 : ประกันภัยรถที่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประกันประเภทอื่นๆ เพราะคุ้มครองทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งในกรณีที่เราเป็นฝ่ายผิด หรือทั้งในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี และยังครอบคลุมไปถึงการได้รับบาดเจ็บ หรือการถูกโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม ภัยพิบัติ หรือรถสูญหาย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆที่ ประกันชั้น 1 นั้นครอบคลุมเป็นต้น
ข้อดี:
- ความคุ้มครองที่ครอบคลุม
- รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดกับตัวรถยนต์
- ไม่มีข้อจำกัดเรื่องคู่กรณี
- มีบริการเสริมพิเศษ
ข้อเสีย:
- ค่าเบี้ยประกันสูง
- รถยนต์ต้องไม่เก่าเกินไป อายุโดยทั่วไปไม่เกิน 5-7 ปี
- กระบวนการการเคลมประกันซับซ้อน มีรายละเอียดสูง
2.2 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 และ 2+ : ประกันรถยนต์ชั้น 2+ จะคุ้มครองทั้งคู่กรณีและเรา แต่รถคู่กรณีจะต้องเป็นรถยนต์เท่านั้น หากเป็นการชนอย่างอื่น เช่น เสาไฟฟ้า หรือ ฟุตบาท จะไม่ได้รับการคุ้มครองในส่วนนี้ ส่วนประกันภัยรถชั้น 2 จะคุ้มครองในส่วนเฉพาะคู่กรณี แต่ประกันชั้น 2 ยังมีข้อดีอยู่คือ มีการคุ้มครองหากรถถูกไฟไหม้ ชิงทรัพย์ หรือรถหาย สำหรับประกันภัยรถ ชั้น 2 เเละ 2+ นี้เเหมาะกับผู้ที่ขับขี่บนท้องถนนได้อย่างดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งไม่ต้องการที่จะจ่ายเบี้ยประกันแพงมากนัก แต่ก็ยังได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุม
ข้อดี:
- ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าชั้น 1 เเต่ยังได้รับการคุ้มครองที่ครอบคลุม และใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1
- คุ้มครองต่อโจรกรรม และไฟไหม้
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด
ข้อเสีย:
- ความคุ้มครองที่จำกัดกว่าชั้น 1
- ไม่คุ้มครองในการชนแบบไม่มีคู่กรณี
- ข้อจำกัดในการเลือกอู่ซ่อมรถ
2.3 ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 และ 3+ : ประกันประเภทนี้นับเป็นประกันระดับพื้นฐาน จะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น โดยจะมีเบื้ยประกันที่ถูกค่อนข้างถูก ให้ความคุ้มครองคู่กรณีในอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยที่ ประกันภัยรถชั้น 3 จะคุ้มครองเฉพาะคู่เเต่จะต้องอยู่ภายในวงเงินที่ถูกกำหนดไว้ ส่วนประกันชั้น 3+ จะแตกต่างกันตรงที่จะคุ้มครองรถที่เอาประกันหรือคุ้มครองรถยนต์ของผู้เอาประกันด้วย ในขณะที่ประกันภัยรถชั้น 3 นั้นจะคุ้มครองเเค่คู่กรณีเท่านั้น ประกันชั้น 3 เเละ 3+ นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถยนต์ชำนาญแล้ว หรือ อายุรถ มากกว่า 10 ปีขึ้นไปเเละไม่ค่อยได้ใช้งาน เเละไม่อยากจ่ายเบี้ยประกันแพง
ข้อดี:
- ค่าเบี้ยประกันต่ำ
- คุ้มครองรถคู่กรณี
- เหมาะกับรถเก่า
ข้อเสีย:
- ความคุ้มครองที่จำกัดมาก
- ไม่คุ้มครองในกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้ น้ำท่วม หรือถูกโจรกรรม
- วงเงินในการคุ้มครองที่จำกัด
การเลือกประกันภัยที่เหมาะสมต่อรถยนต์ของคุณนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากจะช่วยคุ้มครองคุณและรถของคุณจากปัจจัยความเสี่ยง ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากคู่กรณี หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากปัจจัยอื่นๆ เเละยังคุ้มครองการถูก โจรกรรม หรือเเม้เเต่ถูกไฟไหม้ ชิงทรัพย์ หรือรถสูญหาย เพราะฉะนั้นการเลือกประกันภัยรถที่เหมาะสมกับคุณนั้นจะช่วยให้คุณขับขี่อย่างอุ่นใจและมั่นใจในทุกการเดินทางยิ่งขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ก่อนซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ควรทราบอะไรบ้าง | MrKumka
สำหรับคนที่กำลังเตรียมตัวที่จะซื้อประกันภัยรถยนต์ ควรจะต้องศึกษาเบื้องต้นก่อน ทั้งข้อมูลและเอกสารที่จำเป็น โดยจะมีอะไรบ้างเราจะพาไปชม | อ่านต่อที่นี่
ฟอลคอนประกันภัย มอบสินไหมประกันภัยรถยนต์ 6.8 ล้านบาท ให้แก่บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
คุณเจิดศักดิ์ สุขะปุณพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายธุรกิจองค์กร (ลำดับที่ 3 จากซ้าย) ในฐานะตัวแทนบริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบสินไหมประกันภัยรถยนต์ จำนวน 6.8 ล้านบาท ให้แก่บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)