“บริษัท นำเชา ประเทศไทย” โชว์อินไซด์ความสำเร็จอันดับ 1 ผลิตภัณฑ์จากข้าว ชูเทคโนโลยีการผลิตสุดล้ำ พร้อมเผยการพัฒนา “Smart Snack” นวัตกรรมอาหารว่างรับเทรนด์คนยุคใหม่

กรุงเทพฯ ประเทศไทย - บริษัท นำเชา ประเทศไทย ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์จากข้าว รวมถึงขนมขบเขี้ยว ขนมข้าวอบกรอบชั้นนำของโลก เผยความสำเร็จแบบเจาะลึก เปิดประตูฐานการผลิตแห่งใหญ่ในไทย รวมกำลังการผลิตถึง 36,000 ตันต่อปี ชูความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากข้าวในประเทศไทยมายาวนานกว่า 33 ปี พร้อมความมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าที่ผสานนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตล้ำสมัยตอบโจทย์โลกยุคใหม่ สู่ตำแหน่งผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว ที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

บริษัท นำเชา ประเทศไทย ก่อตั้งโรงงานแห่งแรกขึ้นในประเทศไทยในปี 1991 (บ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี) โดยเป็นบริษัทแรกที่ทางกลุ่ม บริษัท นำเชา ประเทศไต้หวัน ได้เล็งเห็นโอกาสการทำธุรกิจและเข้ามาลงทุน โดยเริ่มจากการผลิตกลุ่มสินค้าขนมขบเคี้ยวจากข้าวอบกรอบ ข้าวพร้อมทาน และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าไปสู่ตลาดกลุ่มประเทศออสเตรเลีย ยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ กว่า 70 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ บริษัท นำเชา ประเทศไทย เป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของประเทศไทยในด้านการส่งออกสินค้า มีศักยภาพการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงการขยายโรงงานและคลังสินค้าในปี 2020 พร้อมเพิ่มการลงทุนด้วยงบประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท นอกจากนั้น บริษัท นำเชา ประเทศไทยยังได้รับรางวัลในระดับโลกมากมาย รวมถึงได้รับประกาศนียบัตรรับรองมาตรฐาน ISO9001, ISO14001, HACCP, GMP, BRC, IFS และ Kosher and Halal ที่มีความน่าเชื่อถือและได้รับการยอมรับอย่างสูง

นายเฮนรี่ เจี่ย (Mr. Henry Chia) ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นำเชา ประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัท นำเชา ประเทศไทย มีเติบโตอย่างรวดเร็ว จากความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานกว่า 33 ปี รวมไปถึงการสนับสนุนจากบริษัทแม่ ที่เป็นพลังสำคัญที่ผลักดันให้ บริษัทนำ เชา ประเทศไทย สามารถพัฒนาธุรกิจสร้างความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดหลักและโมเดลธุรกิจอันเป็นหัวใจสำคัญที่ยึดถือปฏิบัติมาโดยตลอดอย่างเคร่งครัด โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาสินค้าเพื่อการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายจากทั่วทุกมุมโลก และไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด รวมถึงการนำเสนอสินค้าที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ การรักษาความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าอย่างยาวนาน และการเพิ่มประสิทธิภาพของต้นทุนสินค้าที่ยั่งยืน”

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์จากข้าวของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย ที่ผลิตภายในโรงงานในประเทศไทย มีความหลากหลายตอบโจทย์ทุกกลุ่มบริโภค ประกอบด้วย

  • ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว (Rice Snack and Rice Cracker) ภายใต้แบรนด์ ชินมัย (Shinmai) และ บินบิน (Bin Bin)
  • ขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กที่ทำจากข้าว (Baby Rice Cracker and Snack) ภายใต้แบรนด์ แฮปปี้ ไบท์ (Happy Bites)
  • ข้าวพร้อมทาน (Cooked Rice) ภายใต้แบรนด์ นำเชา (Namchow)
  • โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป (Instant Rice Porridge) ภายใต้แบรนด์ ซุปเปอร์ไบท์ (Super Bites)
  • ผลิตภัณฑ์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (Instant Noodle) ภายใต้แบรนด์ ลิตเติ้ลกุ๊ก (Little Cook)

และ ลิตเติ้ลกุ๊ก เชฟ (Little Cook Chef)

  • ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศส ภายใต้แบรนด์ ปากุแปง (Pakupang)

 ภายในโรงงาน นำเชา ประเทศไทย ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรีโรงงาน ครอบคลุมพื้นที่ 129,600 ตารางเมตร เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จัดสรรพื้นที่การผลิตให้สามารถผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงสุด โดยแบ่งเป็น 2 โรงงานหลัก ได้แก่ โรงงานที่ 1 (NCT1) มี 4 อาคาร ดังนี้ อาคาร A ผลิตขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว, อาคาร B ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ผงปรุงรส รีทอร์ท ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากขนมปังฝรั่งเศส ขนมเบเกอรี่ และขนมเบเกอรี่แช่แข็ง, อาคาร C คลังเก็บสินค้า และ อาคาร G ผลิตสินค้าประเภท Non Halal ในขณะที่ โรงงานที่ 2 (NCT2) มี 2 อาคาร ได้แก่ อาคาร E ผลิตขนมขบเคี้ยวสำหรับเด็กที่ทำจากข้าว และข้าวพร้อมทาน โดยใช้เทคโนโลยีอันทันสมัย ลดการใช้แรงงาน และประหยัดพลังงาน และ อาคาร F เป็นอาคารคลังสินค้า ประกอบด้วย Auto Mobile Racking โดยความสูงของชั้นจัดเก็บสินค้าจะมี 7 ชั้น ซึ่งสามารถเก็บได้ถึงกว่า 10,000 พาเลท และประหยัดพื้นที่การเก็บได้ถึง 80% เนื่องจากเป็นการจัดเรียงสินค้าในแนวตั้ง ทั้งนี้ อาคาร E และ อาคาร F เป็นอาคารที่ผลิตและจัดเก็บสินค้าประเภท Halal

created by dji camera

โรงงานนำเชา ประเทศไทย มีกำลังการผลิตรวมกว่า 36,000 ตันต่อปี แบ่งเป็น ขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว กำลังการผลิตรวม 18,000 ตันต่อปี ข้าวพร้อมทาน กำลังการผลิตรวม 7,200 ตันต่อปี บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กำลังการผลิตรวม 9,000 ตันต่อปี และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ กำลังการผลิตรวม 1,800 ตันต่อปี

บริษัท นำเชา ประเทศไทย ยังมุ่งเน้นการคิดค้นและพัฒนาสินค้าเชิง “นวัตกรรม” เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบันและอนาคต ไม่ว่าจะเป็น  “ขนมปังฝรั่งเศสแบบบาง” ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความกรอบเบา บาง รสชาติหอม อร่อย แตกต่างจากขนมทั่วไปในตลาด รวมถึงเล็งเห็นถึงการให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยใช้ส่วนผสมหรือสารสกัดจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ อาทิ แหล่งโปรตีนสูงจากถั่วแระญี่ปุ่น เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยม ผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้การอบแทนการทอด ทำให้ได้ขนมที่ปราศจากคลอเลสเตอรอล ไม่มีไขมันทรานส์ ไม่มีไขมันชนิดอิ่มตัวที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ปราศจากกลูเตน โดยล่าสุด บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้เตรียมเปิดตัว “ซูเปอร์ไบทส์ สมาร์ทสแน็ค” (Super Bites Smart Snack) ขนมข้าวอบกรอบเพื่อสุขภาพที่มาพร้อมสโลแกน “สมาร์ทสแน็ค...สมาร์ทช้อยท์” ซึ่งเป็นขนมข้าวหอมมะลิกรุบกรอบ ที่ชูจุดเด่นทั้งความอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการในทุกคำในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้อีกด้วย

“วิสัยทัศน์ที่ทำให้ธุรกิจของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย มีการเติบโตแบบยั่งยืน คือการที่เรามุ่งมั่นสร้างความเป็นผู้นำที่เข้มแข็งในการพัฒนาเพื่อการต่อยอดผลิตภัณฑ์เชิงนวัตกรรม โดยการเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สิ่งนี้ทำให้เราสามารถยืนหยัดในโลกที่เต็มไปด้วยคู่แข่งจากนานาประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทย เราสามารถรักษาระดับมาตรฐานคุณภาพ ไปสู่ตลาดโลกในอนาคต สอดรับกับพันธกิจของ บริษัท  นำเชา ประเทศไทย ผู้นำด้านคุณภาพ รสชาติ และบริการ ในระดับโลก” นายเฮนรี่กล่าวเสริม

นอกจากนั้น โรงงานของ นำเชา ประเทศไทย ยังให้ความสำคัญในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชนของที่ตั้งโรงงาน ผ่านเป้าหมายในการขับเคลื่อนการลดก๊าซเรือนกระจกตามนโยบายของภาครัฐ และปฏิบัติตามมาตรฐานระดับโลกที่ช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจมีการเติบโตแบบยั่งยืน ประกอบด้วย ด้านสิ่งแวดล้อม บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้นำพลังงานสีเขียวมาใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการติดตั้ง Solar Rooftop บนอาคาร E, A และ B ขนาด 2.38 เมกะวัตต์ และมีแผนติดตั้งเพิ่มเติมอีก 1.05 เมกะวัตต์ บนอาคาร F ภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ได้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากพลังงานสะอาดรวมทั้งสิ้น 3.43 เมกะวัตต์ สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนคาร์บอนไดออกไซด์ ได้ถึง 2,310 ตันต่อปี ด้านสังคม มุ่งเน้นหลักสิทธิมนุษยชน มาตรฐานด้านความปลอดภัย และสุขภาพของพนักงาน  รวมถึงความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบ และ ด้านธรรมาภิบาล ได้เน้นการกำกับดูแลกิจการให้มีความโปร่งใส มีกลไกการตรวจสอบ ดำเนินการภายใต้กฎระเบียบ และข้อบังคับต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด

สิ่งหนึ่งที่บริษัทนำเชา ประเทศไทยยึดมั่น และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง คือการให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ผนวกเข้าไปในกระบวนการดำเนินธุรกิจ รวมถึงผลักดันให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร เพื่อพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืน ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในทุกๆ ด้าน นายเฮนรี่ เจี๋ย กล่าวปิดท้าย

ปัจจุบันธุรกิจ “ขนมขบเคี้ยว” ของ บริษัท นำเชา ประเทศไทย จัดอยู่ในตลาดขนมขบเคี้ยวที่ทำจากข้าว (Rice Cracker) มีมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 12% ในขณะที่ผลิตภัณฑ์​ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบชาม ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนแบ่งการตลาดที่ 30% โดยเติบโตขึ้นจากปี 2566 ที่ผ่านมามากกว่า 10% และยังคงรักษาเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องในช่วงไตรมาสแรกของปี 2567 นี้ และได้ตั้งเป้ายอดขายปี 2567 4,000 ล้านบาท ตอกย้ำแชมป์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท นำเชา ประเทศไทย ได้ที่ www.namchow.co.th 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“คลองเปรมประชากร…บ้านสวย น้ำใส” ด้วยน้ำพระทัยจากในหลวง ร.10

คลองเปรมประชากรเป็นหนึ่งในคลองสำคัญของกรุงเทพมหานครที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจของเมือง

วธ.มอบรางวัลยกย่องผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ชื่นชมศิลปินเพชรในเพลง รณรงค์เห็นคุณค่าภาษาไทย

วันที่ 25 ก.ค.2567 ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จัดงานพิธีมอบรางวัลเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 โดย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเยี่ยมชมเรือสำรวจ SW Thuridur เตรียมความพร้อมโครงการ G2/65 ของเชฟรอน

ในปี 2566 บริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 ขนาดพื้นที่

NIA ดึง 7 หน่วยงานลงนามร่วมยกระดับระบบนิเวศนวัตกรรมไทย สร้างเครือข่ายความร่วมมือในงาน SITE2024

22 กรกฎาคม 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ดึง 7 หน่วยงาน ลงนามบันทึกข้อตกลง และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมในหลากหลายมิติต่าง ทั้งการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม

"อารี เปิดศูนย์ทดสอบฝีมือมวยไทย นวดไทย ออกใบรับรองทำงานได้ทันที" ส่งเสริมมาตรฐานแรงงานภาคอีสาน

วันที่ 25 กรกฎาคม 2567 นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลุยแดนอีสานเมืองอุดรมอบป้ายศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาผู้ฝึกสอนมวยไทยระดับ 1 ให้แก่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี และศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขานวดแผนไทย