
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ได้ดำเนินการบริหารจัดการป่าอย่างมีส่วนร่วมตามแนวทางป่าชุมชน มาตั้งแต่ปี 2543 โดยการส่งเสริมให้ชุมชนที่อยู่อาศัยรอบเขตป่ารวมถึงชุมชนที่อยู่ใกล้เคียง เข้ามาช่วยเหลือดูแลจัดการทรัพยากรป่าไม้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืนภายใต้ข้อกฎหมายและระเบียบที่กำหนด โดยน้อมนำแนวพระราชดำริและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงให้ความสำคัญต่อป่าไม้ และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาป่า ส่งผลให้รัฐบาล หน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันปลูกและฟื้นฟูป่า รวมทั้งมีการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาป่า ในรูปของ “ป่าชุมชน” มากยิ่งขึ้น

“อีกทั้ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ขึ้น ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 และในการประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนแห่งชาติ ซึ่งมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 23 กันยายน2564 ที่ผ่านมา ณ ทำเนียบรัฐบาล มีมติที่ประชุมเห็นชอบให้เสนอวันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 11 มกราคม2565 เพื่อขอขอความเห็นชอบให้วันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ” นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการกำหนดให้วันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประกอบด้วย หนึ่ง ประชาชนทั้งชาวป่าชุมชนและประชาชนทั่วไป มีความซาบซึ้ง และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ในด้านการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสมและยั่งยืน สอง ประชาชนทั่วไป หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้มีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของป่าชุมชนและทรัพยากรป่าไม้ของชาติรวมถึงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัดการและใช้ประโยชน์ป่าชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน สาม เครือข่ายป่าชุมชนและประชาชนทั่วไปได้มีโอการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการป่าชุมชนเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาป่าชุมชนแต่ละแห่งอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับภูมิสังคมหรือวัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลาย และสี่ ป่าชุมชนของประเทศได้รับการพัฒนาให้เป็นไปตามเจตนารมย์ของพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 สอดคล้องกับหลักวิชาการ และเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งแต่ปี 2543 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ได้ดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการจัดการป่าชุมชน ซึ่งปัจจุบันมีป่าชุมชนตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ.2562จำนวน 11,327 แห่ง ชุมชนมีส่วนร่วม 13,028 หมู่บ้าน เนื้อที่ 6.29 ล้านไร่ โดยมีเป้าหมายที่จะขยายการจัดตั้งป่าชุมชนทั่วประเทศให้ได้จำนวน จำนวน 15,000 แห่ง เนื้อที่ประมาณ 10 ล้านไร่

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ กล่าวว่าได้มอบหมายให้กรมป่าไม้กำหนดเป็นแผนปฏิบัติงานและแผนงบประมาณประจำปี โดยสนับสนุนให้หมู่บ้านเป้าหมายมีความสามารถวางแผนและเสนอโครงการบริหารจัดการป่าตามความจำเป็นและความต้องการของชุมชน ตามความเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่และสอดคล้องกับระเบียบกฎหมาย รวมทั้งต้องเป็นการดูแล รักษา หรือฟื้นฟูบำรุงป่าไม้ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างยั่งยืน ใน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการอนุรักษ์ด้านการฟื้นฟู ด้านการพัฒนา ด้านการควบคุมดูแล และด้านการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในป่าชุมชน มาตั้งแต่ปีงบประมาณ2548 - ปีงบประมาณ 2564 จำนวน 5,923 หมู่บ้าน รวมเงินงบประมาณ 443,090,000 ล้านบาท

“ จากผลการประเมินป่าชุมชนตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 จำนวน 11,327 ป่าชุมชน พบว่า จำนวนประชาชนที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 3.7 ล้านครัวเรือน เกิดมูลค่าการพึ่งพิงป่าชุมชน 4,221 ล้านบาท การกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ในป่าชุมชน 40 ล้านตันคาร์บอน การกักเก็บน้ำในดินและปลดปล่อยน้ำท่า 4,321 ล้านลูกบาศก์เมตร และการประเมินมูลค่าระบบนิเวศของป่า 564,449 ล้านบาท”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รองนายกฯ สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. รุกสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที”
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น
รองนายกฯ สุชาติ เรียกประชุมนัดแรก คกก.อำนวยการฯ เร่งเครื่องแก้ปัญหาหมอกควัน-ฝุ่น PM2.5 ปี 2569
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 1/2569 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568
'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี
“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล
'วราวุธ-เผดิมชัย-กนก-นิกร' ขอลงปาร์ตี้ลิสต์
'วราวุธ-เผดิมชัย-กนก-นิกร' ขอลงปาร์ตี้ลิสต์ ภท. ปัดตอบลำดับเท่าไรปลอดภัยได้เข้าสภา
ทส. ประชุมคณะกรรมการนโยบายป่าชุมชน เดินหน้าส่งเสริมบทบาทชุมชน บริหารจัดการป่าอย่างยั่งยืน
วันนี้ (๑๗ ธ.ค. ๒๕๖๘) ณ ตึกบัญชาการ ๑ ทำเนียบรัฐบาล ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

