วันที่ 15 ก.ค.2567 - เวลา 13.30 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวการจัดงานภาษาไทย ประจำปี 2567 กล่าวว่า รัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการจัดงานวันภาษาไทยแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อรณรงค์และกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนรู้รักภาษาไทย ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมการสร้างต้นแบบที่ดีแก่ประชาชนให้มีการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เหมาะสมและภูมิใจในความเป็นไทย ตลอดจนเป็นการสร้างค่านิยมและส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทยให้คงอยู่สืบไป กำหนดจัดกิจกรรมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2567 ไปร่วมงานได้ในวันที่ 25 ก.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม หน่วยงานภายนอก และเครือข่ายวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง เหมาะสม และภูมิใจในความเป็นไทยโดยมีกิจกรรมไฮไลต์
รมว.วธ. กล่าวต่อว่า ภายในงานประกอบด้วย มอบเข็มและโล่เกียรติยศแก่ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย รวม 18 รางวัล, มอบรางวัล “เพชรในเพลง” ให้แก่นักร้องและผู้ประพันธ์เพลงไทยที่ใช้ภาษาไทยได้ถูกต้อง 14 รางวัล มอบรางวัลประกวดเพลงแรป “บอกรักษ์ภาษาไทย” 5 รางวัล และรางวัลอ่านทำนองเสนาะ “สดับร้อยกรองไทย” ครั้งที่ 3 จำนวน 6 รางวัล ตลอดจนการจัดนิทรรศการ ประวัติและผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัล และการแสดงทางศิลปวัฒนธรรม
ด้าน นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กล่าวว่า สำหรับบุคคลและองค์กรที่ได้เข็มและโล่เชิดชูเกียรติทางด้านภาษาไทย ประจำปีพุทธศักราช 2567 แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้ ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย 2 ราย ได้แก่ ผศ.พรทิพย์ พุกผาสุขและ ผศ.ศิวกานท์ ปทุมสูติ ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น 11 ราย ได้แก่ นางเทพี จรัสจรุงเกียรติ นายชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล นายณรงค์ฤทธิ์ คิดเห็น นายธีระพงษ์ โสดาศรี นางนันทพร แสงมณี นางสาวปาริฉัตร ศาลิคุปต นายแพทย์พงศกร จินดาวัฒนะ ผศ.วีรวัฒน์ อินทรพร นายศราวุธ สุดงูเหลือม ผศ.สรตี ปรีชาปัญญากุล และ นายสุภาพ คลี่ขจาย ส่วนผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น 4 ราย ได้แก่ นายไกรสร ฮาดคะดี นายณรงค์ศักดิ์ กำเนิดทอง นายปราโมทย์ ในจิต และ 4) นายเอ็ด ติ๊บปะละ ผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย จำนวน 1 องค์กร ได้แก่ สถาบันสุนทรภู่
ด้าน นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร จัดกิจกรรมเนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 ซึ่งประกอบด้วย 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่ การจัดพิมพ์หนังสือหายาก การสัมมนาทางวิชาการด้านภาษาและวรรณคดีไทย และ การประกวดเพลง “เพชรในเพลง” เพื่อยกย่องบุคคลในวงการเพลงที่มีผลงานดีเด่นด้านภาษาไทย โดยมีรางวัลการประพันธ์เพลงและการขับร้องเพลง รวมทั้งหมด 12 รางวัล และรางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ 2 รางวัล ดังต่อไปนี้รางวัลการประพันธ์เพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายปัณฑพล ประสารราชกิจ และนายธิติวัฒน์ รองทอง จากเพลงลั่นทม รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยสากล ได้แก่ นายกฤตศิลป์ ฉลองขวัญ จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว รางวัลชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายจิรภัทร แจ่มทุ่ง จากเพลงยามท้อขอมีเธอ รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ประพันธ์คำร้องเพลงไทยลูกทุ่ง ได้แก่ นายสลา คุณวุฒิ จากเพลงอยากซื้อบ้านนอกให้แม่
รางวัลการขับร้องเพลงดีเด่นด้านภาษาไทย จำนวน 8 รางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายภาสกรณ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์ (สปาย) จากเพลงคอย รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลชาย ได้แก่ นายธานินทร์ อินทรแจ้ง (ธานินทร์ อินทรเทพ) จากเพลงเดือนประดับใจ
ส่วนรางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวสรวีย์ ธนพูนหิรัญ (ผิงผิง) จากเพลงดอกไม้จากดวงดาว รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยสากลหญิง ได้แก่ นางสาวปราชญา ศิริพงษ์สุนทร จากเพลงมรดกธรรม มรดกโลก รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายอนันต์ อาศัยไพรพนา (นัน อนันต์) จากเพลงยามท้อขอมีเธอ รางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งชาย ได้แก่ นายเสมา สมบูรณ์ (ไชยา มิตรชัย) จากเพลงรอยยิ้มก่อนจากลา รางวัลชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวสุทธิยา รอดภัย (ใบเฟิร์น สุทธิยา) จากเพลงกราบหลวงพ่อใหญ่อ่างทอง และรางวัลรองชนะเลิศ ผู้ขับร้องเพลงไทยลูกทุ่งหญิง ได้แก่ นางสาวกาญจนา มาศิริ จากเพลงสารภาพรัก รางวัลเชิดชูเกียรติพิเศษ 2 รางวัล ครูเพลงผู้ใช้ภาษาวรรณศิลป์ดีเด่น ได้แก่ นายชัยรัตน์ วงศ์เกียรติ์ขจร รางวัลนักแปลเพลง คมความ งามคำไทย ในบทเพลง ได้แก่ นายธานี พูนสุวรรณ
เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (สป.) เชิญชวนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยร่วมจัดทำวีดิทัศน์ เพื่ออนุรักษ์และรณรงค์ส่งเสริมการใช้ภาษาไทยของเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดย สป.รวบรวมวีดิทัศน์ที่ได้รับจากสถานเอกอัครราชทูตฯ และนำไปตัดต่อให้กระชับภายในระยะเวลา 5-10 นาที เพื่อนำไปจัดฉายในงานวันภาษาไทยแห่งชาติและเชิญผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยที่ร่วมจัดทำวีดิทัศน์ข้างต้น เข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2567 ไปร่วมงานได้ในวันที่ 25 ก.ค. 2567 ตั้งแต่เวลา 13.30 น. เป็นต้นไป ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย โดยจะมีพิธีมอบเข็มและโล่เชิดชูเกียรติแก่ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ผู้ใช้ภาษาไทยถิ่นดีเด่น และผู้มีคุณูปการต่อการใช้ภาษาไทย พร้อมรางวัลเพชรในเพลง มาร่วมแสดงความยินดีและกระทบไหล่ศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลงชื่อดัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ย้อนเวลา 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ
ชวนแต่งชุดไทยเดินทางย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงต้นกรุงศรีอยุธยา ดื่มด่ำกับบรรยากาศโบราณสถานยามค่ำคืนที่งดงามในงาน “ 4 วัด 1 วัง เมื่อครั้งต้นกรุงฯ” ภายใต้แนวคิด “ย้อนเวลา ส่องวิถี ปลุกแสงสี พระนครศรีอยุธยา” โดยจะจัดกิจกรรมตามวัดและโบราณสถานที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์
สืบสานประเพณีถวายผ้าพระกฐินวัดหนองแวง แหล่งรวมมรดกวัฒนธรรม
5 พ.ย.2567 - นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในเทศกาลกฐิน พุทธศักราช 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐินให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษา
'หมูเด้ง' ซุปตาร์ดันวัฒนธรรมไทยสู่ระดับโลก
“หมูเด้ง”ซุปเปอร์สตาร์ฮิปโปแคระที่โด่งดังเป็นไวรัลทั่วโลกจากความน่ารักขี้เล่น สื่อต่างประเทศนำไปลงข่าว นิตยสาร TIME พาดหัวข่าวเป็นไอคอนไลฟ์สไตล์ที่กิน นอน และแอคชั่นดราม่า สร้างปรากฎการณ์หมูเด้ง ช่วยให้ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี เพิ่มทวีคูณ
ลอยกระทงวิถีไทย สืบสานประเพณีงดงาม
วันลอยกระทงปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 จัดเป็นเทศกาลประเพณีสำคัญของคนไทยที่จะได้ร่วมกันสืบสานคุณค่าประเพณีอันดีงาม โดยการทำกระทงสวยงามหลากหลายรูปแบบ นำไปลอยตามแม่น้ำลำคลอง เพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ