“บ้านน้ำเชี่ยว 2 ศาสนา3 วัฒนธรรม” สานพหุวัฒนธรรม นำสู่การจัดการจัดการตนเอง (2)

สภาพปัจจุบันของชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวในปัจจุบัน

พวกเราได้รู้จักบ้านน้ำเชี่ยวจังหวัดตราดไปแล้ว ต้องบอกว่าเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งในด้านวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ด้วยวิถีชีวิตและธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นตัวอย่างของการพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนและเข้มแข็ง หนึ่งในเรื่องราวที่น่าสนใจคือการจัดการที่ดินและที่อยู่อาศัยของชุมชน ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายชุมชนในประเทศไทยต้องเผชิญ บ้านน้ำเชี่ยวได้ร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหานี้ ทำให้ชุมชนมีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและปลอดภัยพร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของสมาชิกในชุมชน เราจะติดตามเรื่องราวเหล่านี้ไปพร้อมๆกัน

สภาพบ้านเดิมในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว

ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน หรือ พอช. เข้ามาสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาชุมชน โดยเฉพาะเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัย พี่หน่อย หรือ นางสุรัตนา ภูมิมาโนช ได้เล่าให้ฟังว่าบ้านน้ำเชี่ยวแต่ก่อนมีสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก บ้านหลายหลังเริ่มเสื่อมโทรมและขาดความมั่นคง แต่หลังจากได้รับงบจากโครงการบ้านพอเพียงบ้านมั่นคง บ้านทุกหลังในชุมชนได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีมาตรฐานมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงทำให้บ้านเรือนดูดีขึ้น แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนด้วย

บ้านของสมาชิกในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวที่ได้รับการซ่อมแซม

 พอช. ยังเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมอาชีพให้กับคนในชุมชน เช่น การทำลูกประคบ การผลิตงอบใบจาก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของบ้านน้ำเชี่ยว การฝึกอาชีพเหล่านี้ไม่เพียงสร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่ยังช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ชุมชนยังมีการปรับปรุงด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง เช่น การลอกคลองและทำบ้านลูกจุลินทรีย์บอนเพื่อลงในน้ำ ทำให้น้ำในชุมชนกลับมามีคุณภาพดีขึ้น ไม่มีน้ำเน่าเสียและมีกลิ่นคาวเหมือนที่เคยเป็น ผลจากการปรับปรุงนี้ทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น รวมถึงการกลับมาของกุ้งปลาในน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารและรายได้ของคนประมงในชุมชน การรณรงค์เรื่องการจัดการขยะและการสร้างถังขยะแยกประเภทโดยเทศบาล และการร่วมมือของคนในชุมชนทำให้บ้านน้ำเชี่ยวได้รับรางวัลต่าง ๆ ในด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในชุมชน

ทิพา รัตศิลา ผู้ใหญ่บ้านน้ำเชี่ยว เล่าความรู้สึกเห็นความเปลี่ยนแปลงจากอดีตจนถึงปัจจุบันของบ้านน้ำเชี่ยว ว่า  การเปลี่ยนแปลงของบ้านเราเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมากจริงๆ จากที่เคยมีปัญหาเรื่องสภาพบ้านที่มีความทรุดโทรมจะพังลงในน้ำอยู่แล้ว พอได้รับการซ่อมแซม ตอนนี้ทุกหลังกลับมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น  ยังได้มีการสร้างโอกาสให้กับเด็กๆ ในชุมชน โดยการให้พวกเขามาฝึกฝนและเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานกับชุมชน เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะมาสืบทอดงานต่อไป  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราได้เห็นการพัฒนาและการเติบโตของชุมชนของเรา เราไม่เพียงแต่สร้างความมั่นคงให้กับบ้านเรือน แต่ยังสร้างโอกาสและอนาคตให้กับเด็กๆ และคนรุ่นใหม่ ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความสำเร็จ และทำให้เรามีความมั่นใจในการพัฒนาต่อไปในอนาคต

ดวงรัตน์ ถนอมวงษ์  สมาชิกในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว เล่าให้ฟังว่า การได้บ้านเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกดีใจและภูมิใจมาก เริ่มจากการที่ผู้ใหญ่บ้านได้ชวนให้เราออมเงินและวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ ได้เข้าร่วมประชุมและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างบ้านและการออมเงิน ทำให้ได้เรียนรู้และมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น    เกิดความสุขและความภูมิใจที่ได้เห็นบ้านของเรา จากบ้านผุพังจนสร้างเสร็จ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถบรรยายได้

ที่บ้านน้ำเชี่ยวไม่ใช่เพียงแค่การซ่อมสร้างที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นการสร้างชุมชนที่เข้มแข็งและมีความสามัคคี การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในชุมชนทำให้เกิดความสุขและความอบอุ่น ได้มีบ้านที่มั่นคงและมีชีวิตที่ดีขึ้น มีการทำงานร่วมกัน และยังสามารถสร้างโอกาสในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำให้ชุมชนมีรายได้ และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

บรรยากาศในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว 

ที่นี่เป็นอีก 1 ชุมชนซึ่งเป็นต้นแบบให้กับชุมชนอื่นได้  นอกจากเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัยแล้ว เรื่องการคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวก็ได้รับการพัฒนาผ่านโครงการบ้านมั่นคง โดยการส่งเสริมอาชีพและการพัฒนาทักษะในการทำงานของชุมชน ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้ของคนในชุมชน ทำให้คนในชุมชนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง และมีความภาคภูมิใจในบ้านเกิดของตนเอง บ้านน้ำเชี่ยวจึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นในด้านการจัดการที่ดินที่อยู่อาศัย การพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน หรือการรักษาวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยวสามารถจัดการตนเองได้อย่างยั่งยืน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ลุย 'เกาะกูด' ยันของไทย ไม่มีวันยอมเสียดินแดนให้ใคร

'อนุทิน' ลงพื้นที่เกาะกูด ลั่นรัฐบาลนี้ไม่มีวันยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมขอบคุณก๋งวัย 92 ปี ยืนยันเป็นของไทย 100%

‘ภูมิธรรม’ ทุบฝ่ายต้านบิดเบือน MOU เกาะกูด ทำผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง "ผลประโยชน์ชาติสั่นคลอน เมื่อการเมืองบิดเบือน MOU เกาะกูด" ระบุว่าการจุดประเด็นทางการเมืองเรื่อง MOU 44 ในช่วงนี้ ได้สร้างความเสียหายต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยในหลา

สุราษฎร์ธานี จัดงานวันที่อยู่อาศัยโลกปี67 ย้ำชุมชนต้องเป็นแกนหลักในการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยคนจน

UN – HABITAT หรือ ‘โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ’ กำหนดให้วันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมทุกปีเป็น ‘วันที่อยู่อาศัยโลก’ หรือ ‘World Habitat Day’