‘สุชาติ’ แนะเกษตรกร/ผู้ประกอบการโคนม นำนวัตกรรม และดูแลสิ่งแวดล้อม เพิ่มมูลค่า พร้อมศึกษาประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก

รมช.พณ. สุชาติฯ ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมและผู้ประกอบการนมโคแปรรูป ในพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์ให้เกษตรและผู้ประกอบการเร่งใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายตลาดส่งออก และเตรียมความพร้อมกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่การเปิดเสรีสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนด้านการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยียกระดับการผลิตสินค้านมและผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน เพิ่มมูลค่า สร้างความแตกต่าง และลดต้นทุน เพื่อให้สามารถแข็งขันได้ในตลาดโลก

เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ ณ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 1-2 กรกฎาคม 67 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ตนได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย ให้ลงพื้นที่เพื่อพบปะพี่น้องเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าโคนมและนมแปรรูป ในจังหวัดนครราชสีมา โดยตนได้มาเยี่ยมชม บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และบริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด และได้พูดคุยกับเกษตรกรและผู้ประกอบการนมโคแปรรูปเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าและแนวทางการส่งออกสินค้านมโคแปรรูป โดยใช้ประโยชน์จาก FTA รวมถึงเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการรับมือกับการเปิดเสรีทางการค้าสำหรับสินค้านมและผลิตภัณฑ์ ภายในปี 2568 ภายใต้ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ รวมถึงหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องการเร่งใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อยกระดับการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างความแตกต่าง ทำให้สินค้าสามารถแข่งขันได้อีกทั้งเน้นการเพิ่มตลาดภายในประเทศ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นคนไทยบริโภคนมเพิ่มขึ้น และขยายการส่งออกนมแบรนด์ไทยในตลาดต่างประเทศ”



นายสุชาติ กล่าวว่า “บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และบริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด ทั้ง 2 บริษัท เป็นผู้ประกอบการนมรายใหญ่และทำธุรกิจโมเดลเศรษฐกิจ SDG เน้นการรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการเลี้ยงโคนมแบบออร์แกนิกและลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โดยบริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด เป็นผู้ผลิตนมที่ใช้นวัตกรรมและเน้นจุดเด่นเรื่องนมออร์แกนิก เช่น นมพาสเจอร์ไรส์ bed time ที่ช่วยให้หลับง่าย โยเกิร์ตออร์แกนิก และนมอัดเม็ดเสริมโปรโอติกป้องกันฟันผุ วางจำหน่ายสินค้าในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ และตลาดออนไลน์ทั่วประเทศ

สำหรับบริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด เป็นผู้ผลิตนมโคแปรรูปที่มีการใช้นวัตกรรม เช่น นมพาสเจอร์ไรส์ที่มีความพิเศษใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มตีฟองได้มากและให้รสนุ่ม นม UHT แลกโตสฟรี นม A2+ มีโครงสร้างโปรตีนคล้ายนมแม่ ทำให้ย่อยง่าย และโยเกิร์ตพร้อมดื่ม โดยมีจุดเด่นด้านการปลูกหญ้าและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เองทำให้ลดต้นทุนการทำธุรกิจ อีกทั้งรับจ้างผลิตนมแบรนด์ต่างๆ วางจำหน่ายสินค้าทั่วประเทศและตลาดออนไลน์

โดยทั้ง 2 บริษัทเป็นผู้ประกอบการเครือข่ายของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศที่เข้าร่วมโครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ส่งออกได้ด้วย FTA” ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้จัดโครงการตั้งแต่ปี 2561 - 2567 ติดต่อกัน 6 ปี และโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้ช่วยพัฒนาศักยภาพของเกษตรกสหกรณ์โคนม และ ผู้ประกอบการโคแปรรูปให้สามารถใช้ประโยชน์จาก FTA เพิ่มตลาดส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์ในตลาดการค้าเสรีคือ อาเซียนและจีน มีมูลค่าส่งออกผ่านการดำเนินโครงการไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท รวมถึงสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ด้านยุทธศาสตร์การสร้างความสามารถในการแข่งขันที่เน้นการพัฒนาผู้ประกอบการเป็นผู้ส่งออก

จากการเข้าร่วมโครงการโคนมของกรม ทั้ง 2 บริษัท สามารถใช้ FTA และส่งออกไปตลาดการค้าเสรี คือ บริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด สามารถส่งออกโยเกิร์ตออร์แกนิกไปตลาดสิงคโปร์ นมพาสเจอร์ไรส์ไปกัมพูชาและนมอัดเม็ดไปตลาดฮ่องกง ส่วนบริษัท แมรี่ แอน แดรี่ โปรดักส์ จำกัด สามารถส่งออกนมพาสเจอร์ไรซ์ไปตลาดกัมพูชา มาเลเซีย และสปป.ลาว รวมถึงพร้อมเข้าสู่การเปิดเสรีทางการค้าที่จะเกิดขึ้น

นางสาวบุณิกา แจ่มใส รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศกล่าวเสริมว่า " โครงการ “โคนมไทยก้าวไกล ส่งออกได้ด้วย FTA” เป็นโครงการที่เราได้ฟูมฟักมาเป็นเวลากว่า 6 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเกษตรกร สหกรณ์โคนม และผู้ประกอบการนมโคแปรรูป เข้าสู่การเปิดเสรีทางการค้าสำหรับสินค้านมและผลิตภัณฑ์ และรองรับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะ FTA ไทย-ออสเตรเลีย และ FTA ไทย-นิวซีแลนด์ที่ไทยผูกพันเปิดเสรีทางการค้าของ ในสินค้า 3 รายการ ได้แก่ น้ำนมดิบ นมผงขาดมันเนย และเครื่องดื่มประเภทนม/นม UHT ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 โดยโครงการนี้สืบเนื่องจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศได้เปิดเสรีทางการค้ากับประเทศต่างๆทั้งหมด 14 ฉบับ 15 ประเทศ เพื่อเป็นการสร้างแต้มต่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการไทย ในการที่จะส่งออกไปประเทศที่เรามี FTA ด้วย โครงการพัฒนาผู้ประกอบการดังกล่าว เราได้คัดเลือกบริษัท เข้ามาติดอาวุธ โดยการอบรมให้ความรู้ ด้านกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศในการขายสินค้า ไปยังประเทศต่างๆที่เรามี FTA ด้วย และสอนให้รู้จักการตลาดทางออนไลน์และออฟไลน์ ให้ผู้ประกอบการก้าวทันการแข่งขัน เขตการค้าเสรีที่จะเกิดขึ้นในโลกอนาคตต่อไป นอกจากนี้เรายังได้คัดเลือกผู้ประกอบการไทย นำไปเปิดโลกทัศน์ ปรับตัว ให้ทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค ในประเทศที่เราจำหน่าย ซึ่งโครงการของกรม ได้ทำให้ 80% ของผลิตภัณฑ์นม ส่งไปอาเซียน ไม่ว่าจะเป็น เวียดนาม กัมพูชา ลาว รองลงมาคือจีน ที่เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าชอบนมจากประเทศไทย โดยเฉพาะนมอัดเม็ดรสชาติต่างๆ ที่เราปรับเปลี่ยนให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้เห็นว่า 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้เราสามารถขยายการส่งออกไปยังประเทศที่เรามี FTA โดยใช้การตลาดทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ใช้การตลาดออนไลน์และ TAOBAO ในการจำหน่ายสินค้า ทำให้เป็นที่รู้จัก "

“การลงพื้นที่ครั้งนี้ ผมขอชื่นชมผู้ประกอบการ ที่ทำการค้าที่นอกกรอบ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์นมที่ คุณภาพดี มีความน่าสนใจผ่านนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ และเป็นไปตามเทรนด์ของผู้บริโภค ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งที่เราจะแข่งขันได้ในตลาดโลก การเปิดโอกาสทางตลาดก็มีส่วนสำคัญ และขอชื่นชมกระทรวงพาณิชย์ ที่ข้าราชการและเจ้าหน้าที่มีความเก่ง ใส่ใจพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการ เจ้าหน้าที่มีความรู้ความแม่นยำ ตั้งใจทำงาน วันนี้ผมมาในฐานะตัวกลาง ระหว่างกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างๆ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ให้ผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคไปได้ และทำให้ FTA ต่างๆที่กระทรวงพาณิชย์ได้ทำมีประโยชน์ต่อผู้ประกอบการและประชาชนสูงสุด“ นายสุชาติฯ กล่าวทิ้งท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่

รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้

‘พาณิชย์’ ชวนคนหาดใหญ่ สงขลา และจังหวัดใกล้เคียงแวะไป ชม ชิม ชอป ในงานแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 14 -18 พย.นี้ ที่เซ็นทรัลหาดใหญ่

ตามที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส" ให้ผู้ประกอบการ และประชาชนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องการกระตุ้นและสนับสนุนประชาชนในทุกมิติ เน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การลดต้นทุน การเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และ

'นายกฯอิ๊งค์' สวมผ้าไหมไทย ถก 'ปธน.เปรู' ผลักดัน FTA ให้เสร็จปี 68

นายกฯ สวมผ้าไหมไทยศูนย์ศิลปาชีพ ถก 'ประธานาธิบดีเปรู' ผลักดันการเจรจา FTA ให้เสร็จภายในปี 68 ปลี้ม Softpower หนังไทย เพลงไทย ฮิตในเปรู

'สุชาติ' ยึดหลัก 'ฝ่าทุกวิกฤต ด้วยวิธีคิดนอกกรอบ' มอบแนวทางประสบความสำเร็จว่าที่ด๊อกเตอร์ม.นอร์ทกรุงเทพ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้บรรยายในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ ”นวัตกรรมองค์การและการบริหารทรัพยากรบุคคล“

พาณิชย์ จับมือ ตำรวจภูธรภาค 8 สร้างเครือข่ายป้องปรามลานเทแยกลูกปาล์มร่วงผิดธรรมชาติ เพื่อรักษาคุณภาพผลปาล์ม ยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม

กระทรวงพาณิชย์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อรักษาคุณภาพผลปาล์มให้เกษตรกรขายได้ราคา โดยร่วมมือกับ ตำรวจภูธรภาค 8 ส่งเสริมการทำปาล์มคุณภาพ จัดอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกี่ยวกับแนวทางการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องมือ