กระทรวง พม. เปิดปฏิบัติการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”

เปิดปฏิบัติการ“พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”

กรุงเทพฯ/29 มิถุนายน 2567  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดโครงการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร” เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนริมคลองเปรมประชากร ซึ่งเป็นชุมชนที่มีความเปราะบางทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดปฏิบัติการในครั้งนี้ พร้อมด้วย นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร นางสาวเฉลิมศรี ระดากูล รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) ผู้บริหารกระทรวง พม. หน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง และพี่น้องชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากร จำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้  ณ ชุมชนกรุงเทพพัฒนา ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ และชุมชนสวนผัก เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร

ปลัด พม.ชมนิทรรศการ“พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร”

การดำเนินงานของโครงการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร” นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานร่วมกันระหว่าง กระทรวง พม. หน่วยงานภาคีภาครัฐและประชาชนริมคลองเปรมฯในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของโครงการขึ้นอยู่กับความร่วมมือและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนริมคลองเปรมประชากรได้อย่างแท้จริง

นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้กล่าวเปิดปฏิบัติการ "พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากร" ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนที่มีความเปราะบางรอบบริเวณคลองเปรมประชากร โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในพื้นที่ โดยการจัดกิจกรรมและการให้ความช่วยเหลือต่างๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในชุมชน  การที่ชาวบ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่มานานถึงเจ็ดสิบปีแต่ยังไม่มีสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวข้องกับกฎหมายและการรับรองสิทธิ์ของประชาชน หากชาวบ้านไม่มีทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชน พวกเขาจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าถึงการศึกษา บริการทางการแพทย์ และสวัสดิการทางสังคมที่ควรได้รับ ซึ่งเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนพึงควรมี ชาวบ้านต้องอยู่ในชุมชนและไม่สามารถเข้าถึงสิทธิ์พื้นฐานนี้ทำให้ชีวิตของพวกเขาลำบากมากขึ้น เด็กๆ ไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตและการพัฒนาทางการศึกษาและสังคมของพวกเขา ขณะที่ผู้ใหญ่ก็ไม่มีสิทธิ์ในการเข้าถึงบริการสุขภาพหรือการสนับสนุนทางสังคม ทำให้ชีวิตของพวกเขามีความยากลำบากและไม่มั่นคง  ในสถานการณ์เช่นนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน การให้สิทธิ์และสวัสดิการพื้นฐานเป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาและการเจริญเติบโตของชุมชน เมื่อชาวบ้านได้รับสิทธิ์ที่พวกเขาควรจะมี พวกเขาจะมีโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมได้อย่างเต็มที่

นายอนุกูล ได้กล่าวต่อ เมื่อมีโครงการพัฒนาคลองตามแนวพระราชดำริเข้ามา การสำรวจและให้ความช่วยเหลือแก่ชาวบ้านในชุมชนเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น แผนการทำงานแบบมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือหน่วยงานสังคมสงเคราะห์ เป็นการรวมพลังเพื่อให้ชาวบ้านเข้าถึงสิทธิ์ที่พึงมี เช่น คนพิการที่สามารถเข้าถึงสิทธิ์ขึ้นทะเบียน ผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพ หรือเด็กๆ ที่สามารถเข้าเรียนในโรงเรียนอนุบาลและศูนย์เด็กเล็กได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขปัญหาภายในครอบครัว เช่น ความรุนแรงในครอบครัว การให้ความรู้และกำลังใจแก่ชาวบ้านเพื่อปรับตัวร่วมกัน

ปลัด พม.และคณะลงพื้นที่มอบถุงกำลังใจให้กับกลุ่มเปราะบางในชุมชน

การสำรวจและการให้ความรู้แก่ชุมชนเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน การทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวง พม. กรุงเทพมหานคร ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นับว่าเป็นการสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพ ที่จะช่วยให้การพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงในชุมชนเป็นไปอย่างราบรื่นและมีพลัง   การทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่ไม่ใช่แค่หน่วยงานเดียว มีผลดีอย่างมากในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของชุมชน การที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมและทำงานไปในทิศทางเดียวกัน จะทำให้เกิดความรู้สึกของความสามัคคีและพลังในการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาสังคม การพัฒนาทักษะ หรือการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับประชาชน

การเปลี่ยนแปลงชุมชนสามารถเปรียบเสมือนการสร้างบ้านใหม่ ทุกคนในชุมชนจะรู้สึกเปรมปิติและมีความสุขเมื่อได้ปรับตัวเข้ากับบ้านหลังใหม่นี้ ในอดีต ชุมชนอาจจะมีปัญหาเรื่องการดูแลความสะอาด เช่น ขยะที่โยนทิ้งลงคลอง ซึ่งนำไปสู่ปัญหามลพิษและสุขอนามัยที่ไม่ดี แต่เมื่อทุกคนในชุมชนได้ร่วมมือกันในการสร้างวินัยและการดูแลรักษาความสะอาด สถานการณ์ก็จะค่อยๆ ดีขึ้น การมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลรักษาความสะอาดไม่ใช่เพียงแค่การทำให้คลองสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างทัศนียภาพที่ดีให้กับผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอีกด้วย นอกจากนี้ ยังส่งผลให้คุณภาพชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ริมคลองดีขึ้น การมีสิ่งแวดล้อมที่ดีจะนำมาซึ่งสุขภาพที่ดีและความสุขให้กับชาวชุมชน

สุดท้าย นายอนุกูล ได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของกระทรวง พม. ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งและความสามารถในการพึ่งพาตนเองของประชาชนในชุมชนเปราะบาง โดยหวังว่าโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืนต่อไป

นางสาวเฉลิมศรี ระดากูล กล่าวว่า สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. มีภารกิจในการสนับสนุนและให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนในรูปแบบกลุ่มองค์กรชุมชนและเครือข่ายองค์กรชุมชนในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาที่อยู่อาศัยและชีวิตความเป็นอยู่ของสมาชิกในชุมชนทั้งในเมืองและชนบท โดยยึดหลักการพัฒนาแบบองค์รวมหรือบูรณาการ และหลักการพัฒนาที่สมาชิกชุมชนมีส่วนร่วมเป็นแนวทางสำคัญ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและประชาสังคมจาก 5 นโยบายสำคัญ 5x5 ฝ่าวิกฤตประชากร ของกระทรวง

การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พอช.ร่วมกับกรมภายใต้กระทรวง พม. หน่วยงานภาคีพัฒนา และภาคประชาชน จึงได้จัดปฏิบัติการ “พม.ร่วมใจ สานสายใยพี่น้องเปราะบาง ชุมชนริมคลองเปรมประชากรคลองเปรมประชากร” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืนสำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยการทำงานในรูปแบบการบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ซึ่งกระทรวง พม.จะได้มีชุดข้อมูลมาตรฐานเกี่ยวกับประชาชนอย่างครบถ้วน ประชาชนไม่ตกหล่นในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานที่ตนควรได้รับ และที่สำคัญคือการต่อยอดไปสู่การพัฒนาโครงการบ้านมั่นคง มีคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดี เหมาะสมกับการอยู่อาศัย

นางสาวเฉลิมศรี กล่าวต่อ การดำเนินการดังกล่าว จะเป็นความร่วมมือกับทุกกรม การเคหะแห่งชาติ และสำนักงานธนานุเคราะห์ เพื่อให้บรรลุตาเป้าหมายดังกล่าว ปฏิบัติการวันนี้ มีกลุ่มเป้าหมายนำร่อง 3 ชุมชน มีประชากรมากกว่า 396 ครัวเรือน มีประชาชนกลุ่มเปราะบางกระจายตัวอยู่ในชุมชน ทั้งผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผุ้พิการ ผู้ไร้ที่พึ่ง พ่อ/แม่เลี้ยงเดี่ยว เด็กและเยาวชน รวมถึงผู้ที่มีปัญหาด้านสัง ไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งในวันนี้แต่ละกรมภายใต้กระทรวง พม.

จะได้เข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้ประสบปัญหาเร่งด่วน และสำรวจข้อมูล เพื่อที่จะได้นำไปออกแบบการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไปด้วย ทั้ง 3 ชุมชนในกลุ่มเป้าหมายวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ตั้งอยู่ตลอดแนวคลองเปรมประชากร ซึ่งยาวตั้งแต่กรุงเทพชั้นในไปจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยในพื้นที่กรุงเทพมีประชาชนรุกล้ำเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่สภาพบ้านเรือนทรุดโทรม ชาวบ้านมีรายได้น้อย สถานะที่ดินไม่มั่นคง ไม่ได้เช่าอย่างถูกต้อง  หน่วยงานภาครัฐจึงมีแผนงานการพัฒนาที่อยู่อาศัยและคุณภาพชีวิตชาวชุมชนริมคลองเปรมประชากร  รวมไปถึงการปรับปรุงทัศนียภาพชุมชนริมคลอง การปลูกต้นไม้ให้มีความร่มรื่น  เพื่อให้คลองเปรมประชากรมีความสวยงาม  มีสภาพแวดล้อมที่ดี บ้านเรือนสวยงาม เปลี่ยนจากชุมชนแออัด ไม่มั่นคงในที่ดิน เป็นชุมชนที่มีคุณภาพดีขึ้น และในระยะยาวจะได้มีการส่งเสริมอาชีพชาวชุมชน  ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือ-ท่องเที่ยวชุมชน  เชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมรถ-ราง (ไฟฟ้า) และเรือต่อไป

ปฏิบัติการ “พม.ร่วมใจฯ” นี้ จะไม่สิ้นสุดเพียงแค่วันนี้ แต่จะได้ต่อยอดไปยังชุมชนอื่น ๆ ทั้งในเขตจตุจักร เขตบางซื่อ ตลอดจนพื้นที่ตำบลหลักหก จังหวัดปทุมธานี การปฏิบัติการครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่เห็นความสำคัญของการพัฒนาเพื่อประชาชน ที่ถือเป็นการสร้างโอกาสให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสถานะ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ ตามภารกิจของกระทรวง พม.ที่ต้องดูแลพี่น้องประชาชนทุกคน นางสาวเฉลิมศรี กล่าวในตอนท้าย

นางวันทนีย์ วัฒนะ ปลัดกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวถึง คลองเปรมประชากรเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่ดีของการฟื้นฟูและพัฒนาสิ่งแวดล้อมในเมืองกรุงเทพฯ จากเดิมที่คลองนี้มีสภาพสกปรก ตื้นเขิน และเต็มไปด้วยขยะ ปัจจุบันคลองเปรมฯได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้มีความสะอาดและสวยงามมากขึ้น เมื่อเราเดินผ่านคลองเปรมฯในวันนี้ เราอาจจะเห็นปลาและน้ำที่ใสมากขึ้น นี่เป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามและความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในการทำให้คลองนี้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

นางวันทนีย์ กล่าวต่อไปอีกว่า การดำเนินการพัฒนาคลองเปรมประชากรนั้นได้ก้าวหน้าไปถึงกว่า 50% อย่างไรก็ตาม ยังมีประชาชนที่อาศัยอยู่ริมคลองเป็นจำนวนมากที่ต้องการความเข้าใจและการสนับสนุน จากหน่วยงานภาครัฐและชุมชนเพื่อให้การพัฒนานี้เป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับผู้ที่บุกรุกริมคลอง การสร้างความเข้าใจว่าการพัฒนานี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญแก่พวกเขา เช่น ที่อยู่อาศัยที่มั่นคง ถูกต้องตามกฎหมาย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เป็นเรื่องสำคัญ

นอกจากนั้น การพัฒนาคลองเปรมประชากรยังสามารถทำให้คลองนี้ระบายน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้เคียง และยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่สวยงามในอนาคตของกรุงเทพมหานครได้ ด้วยการฟื้นฟูคลองเปรมฯให้กลับมามีสภาพที่ดี ทำให้ประชาชนได้เห็นถึงคุณค่าของการรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนร่วมกันเพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่และยั่งยืน นางวันทนีย์ สรุปตอนท้าย

เวทีสำรวจข้อมูลในชุมชน

การลงพื้นที่ในชุมชนเพื่อสำรวจและแลกเปลี่ยนข้อมูลเป็นกระบวนการที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน ในครั้งนี้ มีการจัดทีมปฏิบัติการแบ่งทีมลงพื้นที่ 3 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนกรุงเทพพัฒนา ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่ และชุมชนสวนผัก ซึ่งแต่ละชุมชนมีลักษณะและจำนวนครัวเรือนที่แตกต่างกัน โดยมีชุมชนกรุงเทพพัฒนาประกอบด้วย 88 ครัวเรือน ชุมชนเจริญชัยนิมิตใหม่มี 60 ครัวเรือน และชุมชนสวนผักมีถึง 248 ครัวเรือน

ทีมสำรวจข้อมูลลงพื้นที่ปฏิบัติการฯในชุมชน

การสำรวจและแลกเปลี่ยนข้อมูลในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม การใช้ชีวิต และความต้องการของประชาชนในแต่ละชุมชน ทีมปฏิบัติการจะต้องทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากครัวเรือนทุกหลังคาเรือนในแต่ละชุมชน โดยใช้แบบสอบถามและวิธีการสัมภาษณ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง หลังจากได้ข้อมูลจากการสำรวจแล้ว ทีมปฏิบัติการจะนำข้อมูลมาสรุปร่วมกัน ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมจากแต่ละชุมชนได้เรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้รับจากการลงพื้นที่ ส่วนข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์และจัดทำเป็นรายงาน เพื่อใช้ในการวางแผนดำเนินการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บ้านน้ำเชี่ยว 2 ศาสนา3 วัฒนธรรม” สานพหุวัฒนธรรม นำสู่การจัดการจัดการตนเอง (1)

สำหรับทุกคนที่เดินทางมาจังหวัดตราด ส่วนใหญ่แล้วจะมุ่งไปเกาะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “เกาะช้าง” และหมู่เกาะบริวารเป็นแหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อ

“หาดเล็กบ้านในน้ำ” ชุมชนชาวประมงต้นแบบบ้านมั่นคงในที่ดินกรมเจ้าท่าแห่งแรกในประเทศไทย

ตำบลหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ชุมชนชาวประมงเล็กๆ เป็นชุมชนชายฝั่งชายแดน อยู่ทะเลด้านตะวันออกสุด และมีพื้นดินส่วนที่แคบที่สุดในประเทศไทย

"ปาฐกถาไพบูลย์วัฒนศิริธรรม ครั้งที่ 10" "โอกาส และอนาคต ของการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม" ดร.กอบศักดิ์ กล่าว การสร้าง Collective นำไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนาที่แท้จริง

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 67 เวลา 9.00-12.00 น. ที่หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มีการจัดงาน

“ไข่ผำ Super Food” พืชจิ๋วมหัศจรรย์ เลี้ยงง่ายราคาดี ที่พระแท่น กาญจนบุรี

ไข่ผำ (Wolffia) เป็น Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน และเป็น 1 ในพืชน้ำ อาหารแห่งอนาคต เป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้าง