“อารี” ประธาน เปิดงานสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ย้ำเสริมสร้างวินัยการออม เป็นแหล่งเงินกู้ไว้ใช้เมื่อจำเป็น

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินและการออม THAILAND SAVING CO-OP 2024 โดยมี นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน สถานประกอบกิจการ สหกรณ์ออมทรัพย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการออมและการลงทุน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 300 คน ณ สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี-รังสิต กรุงเทพมหานคร

นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจ และสังคมของครัวเรือนของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ. 2566 พบว่าครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 29,030 บาท ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายของครัวเรือนเฉลี่ยเดือนละ 23,695 บาท มีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น 197,255 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ยังประสบปัญหารายได้ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายเป็นเหตุให้ผู้ใช้แรงงานไม่มีการออม และต้องกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินทั้งในและนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ดังนั้น การจัดสวัสดิการในรูปแบบการให้บริการเงินกู้จากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ เป็นแนวทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการสามารถจัดให้แก่ลูกจ้างเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สิน ส่งเสริมให้รู้จักการออม และให้บริการเงินกู้แก่สมาชิกตามความจำเป็นในอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่ลูกจ้างโดยไม่ต้องหันไปพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกจ้างได้อย่างยั่งยืน ผมอยากขอเชิญชวนสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจให้เห็นความสำคัญของการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อเป็นสวัสดิการแก่คนทำงานในองค์กร ตลอดจนสร้างความร่วมมือภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจในการขับเคลื่อนให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ให้เป็นผลสำเร็จเพื่อร่วมกันยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ลูกจ้างต่อไป

นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดำเนินงาน ที่ผ่านมากรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้ให้ความช่วยเหลือลูกจ้างด้านเศรษฐกิจผ่านโครงการเงินกู้ของกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540 - ปัจจุบัน มีสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจใช้บริการเงินกู้ จำนวน 343 แห่ง 346 สัญญา ผู้ใช้แรงงานที่ได้รับประโยชน์ 280,821 คน จำนวนเงิน ที่ให้บริการเงินกู้รวม 2,743,050,000 บาท ทั้งนี้ ในวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เป็นวันครบรอบ 29 ปี ในการก่อตั้งกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน จึงได้จัดให้มีการสัมมนาสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการ และรัฐวิสาหกิจ เพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินและการออม THAILAND SAVING CO-OP 2024 ขึ้น โดยมีกิจกรรมการมอบเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติแก่สถานประกอบกิจการที่มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในปี พ.ศ. 2564 - 2567 จำนวน 13 แห่ง มอบโล่รางวัลสหกรณ์ออมทรัพย์/เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2567 จำนวน 7 แห่ง มอบเช็คเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 4 แห่ง และการจัดแสดงนิทรรศการผลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“พิพัฒน์” ช่วยลูกจ้างถูกเลิกจ้าง ขยายเพดานยกเว้นภาษีค่าชดเชย เป็น 6 แสนบาท ใช้บังคับย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค. 66

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เผยผลการดำเนินการตามข้อเรียกร้องวันแรงงานแห่งชาติสำเร็จ ผลักดันกฎหมายช่วยลูกจ้างเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้าง

ข่าวดี! รับสมัครด่วน ทำงานเกาหลี เดือนละ 5.79 หมื่นบาท

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอแจ้งข่าวดี โอกาสมาถึงแล้ว สำหรับแรงงานไทยที่ต้องการทำงานภาคประมงตามฤดูกาล ด้วยวีซ่า E – 8

"พิพัฒน์" อัพสกิลเยาวชนไทย เพิ่มทักษะเทคโนโลยี เครื่องจักร ส่งออกแข่งขันฝีมือแดนมังกร 22-27 มิถุนายนนี้

วันที่ 20 มิถุนายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้โอวาทเยาวชนไทย 9 คน 9 สาขาเข้าแข่งขันฝีมือแรงงาน BRISC 2024

สปส.ย้ำสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนกรณีชราภาพ ช่วยสร้างหลักประกันชีวิตมั่นคงวัยเกษียณ

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการสังคมในวัยเกษียณให้แก่ประชาชนในหล