“นันทนา” ชี้ ให้ความสำคัญ กับการศึกษา ในการสร้างอาชีพรองรับการลงทุนในอนาคต

19 มิถุนายน 2567 นางนันทนา สงฆ์ประชา สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ว่า การศึกษาเป็นความสําคัญของประเทศ โดยเฉพาะท่านจะเห็นว่าสส.พรรคภูมิใจไทย ได้อภิปรายความสําคัญของการศึกษาในประเทศไทยปัจจัยสําคัญในการบริหารประเทศ เพราะการศึกษาจะช่วยพัฒนาความสามารถของประชากร ประชากรจะมีคุณภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ ประเทศจีน ประเทศสหรัฐอเมริกา แม้แต่ประเทศรัสเซีย และประเทศในแถบทวีปยุโรป จะจัดสรรงบประมาณให้ความสําคัญกับทางด้านการศึกษา อย่างเพียงพอ เป็นการสร้างคนสร้างชาติกันต่อไป
.
รัฐบาลตั้งเป้า ที่จะให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ไปรับผิดชอบ โดยให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว เป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ และสุขภาพ เป็นศูนย์กลางด้านอาหารโลก เป็นศูนย์กลางการบิน และการซ่อมบํารุง เป็นศูนย์กลางการขนส่งในภูมิภาคนี้คืออาเซียน เป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตโดยเฉพาะรถอีวีที่จะเป็นอนาคตต่อไป เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน

"วิสัยทัศน์ทั้ง 8 ข้อ เป็นวิสัยทัศน์ที่ดีมากในภาวะปัจจุบัน ดิฉันเกรงว่า เราจะมีประชาชนที่มีความสามารถไม่เพียงพอ เพื่อจะมารองรับและขับเคลื่อนในวิสัยทัศน์ต่างๆ ดังกล่าว ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพียงพอหรือไม่ ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบเต็มรูปแบบ ปัญหาระบบการศึกษาที่ยังคงให้ความสําคัญกับปริญญามากกว่า ความรู้ในการประกอบอาชีพ ทําให้จะไม่สอดคล้องกับทิศทางในการพัฒนาประเทศ"
.
งบประมาณปี 2568 รัฐบาลได้ให้ความสําคัญกับการพัฒนาประเทศ และพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะเห็นได้จากนโยบาย รัฐบาลได้นําเอาเทคโนโลยี คลื่นความถี่การใช้ดาวเทียมมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ การบริหารจัดการแปลงเกษตรด้านนวัตกรรมเกษตรแม่นยํา การดึงดูด FDI (Foreign Direct Investment) การลงทุนจากต่างประเทศ การส่งเสริมอุตสาหกรรม การวิจัย พัฒนาพันธุ์พืชทางการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิต และมูลค่าสินค้าเกษตร การส่งเสริม และวิจัยชั้นแนวหน้าการทําให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางการบิน
.
แม้ว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะมีวิสัยทัศน์ในการสร้างกําลังคนเพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อนําเสนอแผนผลิตพัฒนากําลังคนเพื่อรองรับการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ ต้านแรงงานที่มีทักษะสูงให้สามารถรองรับอุตสาหกรรมไฮเทค ความพยายามของรัฐบาลที่จะพัฒนาศึกษาโครงสร้างสร้างประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับความเจริญของโลกในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ ฉะนั้น รัฐบาลต้องเตรียมการพัฒนาความชํานาญเฉพาะทาง ในวิชาชีพต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บูมเศรษฐกิจ 2 ชาติ ! “อนุทิน” เร่งสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน จับมือกัมพูชา กระตุ้นค้าขายชายแดน-ท่องเที่ยว

วันที่ 21 พย. บริเวณสะพานข้ามคลองตะเคียน ด่านผักกาด จุดก่อสร้างสะพานมิตรภาพจันทบุรี-ไพลิน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร อาทิ นายอรรษิษฐ์ สัมพัน์รัตน์

'อนุทิน' ยันภูมิใจไทยโหวตเสียงข้างมาก 2 ชั้นในการทำประชามติ

'อนุทิน​' ยืนยัน​ ภท.​โหวต​เสียงข้างมาก 2 ชั้น หากนำมติ กมธ.ร่วมประชามติ​เข้าโหวตในสภา​ ย้ำเพื่อให้ ​ปชช.​ตัดสินใจเรื่องสำคัญอย่างแท้จริง​ ชี้ทุกอย่างมีเงื่อนเวลาถ้า​แก้ไม่ทันก็รอสภาชุดหน้า​ ​

“ผู้ประกอบการ ราชบุรี” ชม “อนุทิน” ฟื้นกีฬาวัวลาน ให้แข่งตอนกลางคืน มั่นใจ เป็นงานเฟสติวัลระดับโลก

จากกรณีที่กระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวง ให้การแข่งขันวัวลานจัดขึ้นในเวลากลางคืน ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปเปิดการแข่งขันวัวลานที่

'เสี่ยหนู' ลั่น 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' ไม่เคยขัดแย้งปมที่ดินเขากระโดง!

'เสี่ยหนู' ยัน พท.-ภท. ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท.แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

3 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยื่นหนังสือ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย แก้ไขปัญหาในส่วนของท้องถิ่น 4 เรื่อง

วันที่ 12 พ.ย.2567 ที่พรรคภูมิใจไทย คณะกรรมการบริหารพรรค นำโดยนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค, นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรค, นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ รองเลขาธิการพรรค, นางสาวพิมพฤดา ตันจรารักษ์ รองเลขาธิการพรรค, นายกรวีร์

'สุริยะ' ลั่น รฟท.ไม่ยอมเสียที่ดินให้ใคร ขอให้จบในชั้นเจ้าหน้าที่ อย่าขยายประเด็นการเมือง

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีกรมที่ดินมีมติไม่เพิกถอนสิทธิ์ที่ดินเขากระโดง ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และกรมที่ดิน