สำเร็จ! "พิพัฒน์" คุย 3 รมว.อิสราเอล เพื่อแรงงานไทย มุ่งเพิ่มการจ้างงานใหม่ พร้อมข่าวดีคนเก่ากลับไปทำงานได้

วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท แห่งรัฐอิสราเอล ณ กรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากความต้องการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอลของแรงงานไทย และความต้องการแรงงานไทยของนายจ้างรัฐอิสราเอล ทำให้กระทรวงแรงงานมุ่งมั่นขยายตลาดแรงงานไทย ทั้งการเพิ่มโควตาจัดส่งแรงงาน การเพิ่มประเภทงานที่จัดส่ง และการเพิ่มระยะเวลาการทำงานในรัฐอิสราเอล ตลอดจนเพิ่มการคุ้มครองดูแลแรงงานในด้านสวัสดิการมาโดยตลอด การมาเยือนครั้งนี้ได้มีโอกาสเข้าพบเพื่อหารือร่วมกับ นายโมเช่ อาร์เบล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายยูอาฟ เบน เซอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนายอาวี ดิชเตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท แห่งรัฐอิสราเอล ซึ่งรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่านมีทัศนคติที่ดีต่อแรงงานไทยอย่างมาก และยอมรับว่านายจ้างในรัฐอิสราเอล มีความผูกพันธ์ที่ดีและต้องพึ่งพาแรงงานไทย

ในการนี้ฝ่ายไทย ได้เสนอประเด็นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3 ประเด็นคือ 1.เพิ่มโควตาจ้างแรงงานภาคเกษตร จากปีละ 6,000 คน เป็น 20,000 คน 2.ขอแรงงานไทยที่ทำงานครบ 5 ปี 3 เดือน กลับมาทำงานอิสราเอลได้อีก 3.เพิ่มการจัดส่งแรงงานภาคก่อสร้าง แบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีทุกประเด็น พร้อมแจ้งว่าอิสราเอลมีความต้องการจ้างแรงงานภาคก่อสร้างถึง 25,000 อัตรา ในส่วนการหารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ได้ขอความร่วมมือช่วยเน้นย้ำนายจ้างให้ดูแลความปลอดภัยแรงงานไทยให้ทำงานในพื้นที่สีเขียวเท่านั้น ไม่อนุญาตแรงงานไทยเปลี่ยนนายจ้าง/สถานที่ทำงาน ไปทำงานในพื้นที่สีเหลือง หรือสีแดง รวมถึงให้นายจ้างจัดทำที่หลบภัยที่แข็งแรงและปลอดภัยอย่างเพียงพอ เนื่องจากรัฐบาลไทยตระหนักถึงความปลอดภัยของแรงงานไทยเป็นสำคัญ นอกจากนี้จากการหารือยังขอเสนอให้พิจารณารับนักศึกษาจากประเทศไทยเข้ามาฝึกงาน แบบรับค่าจ้าง ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเช่นกัน โดยทางการอิสราเอลจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการจนสำเร็จต่อไป พร้อมยืนยันว่านายจ้างอิสราเอลดูแลแรงงานไทยเปรียบเสมือนเป็นคนอิสราเอลด้วยกัน สุดท้ายได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐอิสราเอล เพื่อเจรจาขยายสาขาการจัดส่งแรงงานไทยในสาขางานอื่นๆ โดยเฉพาะภาคบริการ พนักงานร้านอาหาร โรงแรม และการบริบาลซึ่งเป็นสาขาที่คนไทยมีความเชี่ยวชาญและมีศักยภาพโดดเด่น

ด้านนายวิชิต อินทรเจริญ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยมีการจัดส่งแรงงานเข้ามาทำงานในอิสราเอลยาวนานมากกว่า 20 ปี พี่น้องแรงงานไทยสามารถทำงานอยู่ในอิสราเอลได้อย่างมีความสุข เพราะนายจ้างมีความเข้าใจวัฒนธรรมของคนไทยอย่างลึกซึ้ง การเยือนอิสราเอลครั้งนี้ฝ่ายไทยได้รับคำยืนยันจากรัฐมนตรีทั้ง 3 กระทรวงว่า “พร้อมดูแลและให้ความช่วยเหลือแรงงานไทยในทุกด้านอย่างเต็มที่เนื่องจากแรงงานไทยมีความขยันขันแข็งและเป็นที่ชื่นชอบของนายจ้างอิสราเอลเป็นอย่างมาก” ทำให้การหารือร่วมกันตลอดการเยือนรัฐอิสราเอลเป็นไปด้วยความราบรื่น มีไมตรีจิต เพิ่มความเชื่อมั่นด้านความร่วมมือในการจัดส่งแรงงานระหว่าง 2 ประเทศ

ทั้งนี้ สำหรับแรงงานไทยที่ต้องการเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล สามารถติดตามข่าวสารของกรมการจัดหางาน ผ่านเว็บไซต์ doe.go.th หรือทางเพจ Facebook : กรมการจัดหางาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร. 1694

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกันสังคม มอบเงินช่วยเหลือ ผู้รับเหมา ผู้ประกันตนที่เสียชีวิตเหตุอาคารถล่ม ปราจีนบุรี แล้ว “พิพัฒน์” กำชับดูแลสิทธิประโยชน์ให้ทายาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ เหตุการณ์อาคารโรงงานถล่มในนิคมอุตสาหกรรม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ทับคนงานของผู้รับเหมาที่กำลังปฏิบัติงาน เสียชีวิต 5 ราย พร้อมมอบให้สำนักงานประกันสังคม

“พิพัฒน์” ห่วงใย เหตุเครื่องบินตกรันเวย์ สนามบินมูอัน เกาหลีใต้ มอบ ประกันสังคมเยียวยาทายาทผู้เสียชีวิตชาวไทย กว่า 1.8 แสนบาท .

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ ไถลออกนอกรันเวย์ ของท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน สาธารณรัฐเกาหลี

กระทรวงแรงงาน มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ลูกจ้าง นายจ้าง กว่า 20 ล้านบาท

เมื่อเข้าสู่เทศกาลปีใหม่แต่ละกระทรวงได้เตรียมของขวัญให้แก่พี่น้องประชาชน เมื่อเร็วๆ นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

ข่าวดี ! ผู้ประกันตนรับเงินสงเคราะห์บุตรเพิ่มเป็นหนึ่งพันบาทต่อบุตรหนึ่งคน มีผลบังคับใช้มกราคม 68

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เผยว่าตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคมศึกษาการเพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตร เพื่อส่งเสริมการมีบุตรให้กับผู้ประกันตน ด้วยสาเหตุจากประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตอบเคลียร์ “พิพัฒน์” แจงกระทู้ถามสด กรณีศูนย์ออกเอกสารรับรองบุคคล (CI) จะขยายเวลาลงทะเบียน อำนวยความสะดวกไม่ต้องบินกลับประเทศ

วันที่ 26 ธันวาคม 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตอบกระทู้ถามสด ของ นายสหัสวัต คุ้มคง สส.พรรคประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร

สภาเดือด! ถกปัญหาลงทะเบียนแรงงานเมียนมา

'สหัสวัต' ไม่ทน ถามถ้าผมเป็น 'ประชาชนพม่า' แล้วรัฐบาลเป็นอะไร เอื้อ 'รบ.ทหารพม่า' จนเป็นหนึ่งเดียวขนาดนี้ หวั่นทำแรงงานตกค้าง ด้าน 'พิพัฒน์' แจง หากไม่ทันเสนอ ครม.ยืดอายุได้