ทส.รวมพลังเครือข่ายขับเคลื่อนป่าชุมชนเพื่อชีวิต ด้าน ดร.กอบศักดิ์ ชี้ชุมชนคือคำตอบในการรักษาดูแลป่า

กาฬสินธุ์/ วันที่ 24 พฤษภาคม 2567 ณ โรงแรมริมปาว ตำบลกาฬสินธุ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ 2567 รวมพลังเครือข่ายขับเคลื่อนป่าชุมชนเพื่อชีวิต โดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี พร้อมคณะผู้บริหาร ทส. ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หน่วยงานภาคี และเครือข่ายป่าชุมชนภาคอีสาน 20 จังหวัด เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน เข้าร่วมงาน

ด้วยกรมป่าไม้ได้กำหนดจัดงานวันป่าชุมชนแห่งชาติโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงออกซึ่งความสำนึกในพระมหาพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการส่งเสริมพัฒนาป่าไม้ และเพื่อประชาสัมพันธ์การรับรู้เกี่ยวกับพ.ร.บ.ป่าชุมชนพุทธศักราช 2562  โดยภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการ "วันป่าชุมชนแห่งชาติ" การมอบโล่เกียรติคุณ การมอบถ้วยรางวัลและโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่เครือข่ายป่าชุมชนต้นแบบ ประจำปี 2567 การมอบอุปกรณ์ดับไฟป่าให้แก่ 11 ป่าชุมชน การมอบเช็คเงินอุดหนุนให้แก่ 200 ป่าชุมชน การมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณให้แก่ภาคีภาคเอกชนที่สนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน และการเดินรณรงค์สร้างการรับรู้วันป่าชุมชน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 เป็นวันป่าชุมชน เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้สืบสานรักษาต่อยอดตามแนวทางพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชดำริให้คนอยู่ร่วมกับป่า ซึ่งวันนี้พี่น้องชาวป่าชุมชนได้แสดงให้เห็นแล้วว่าชุมชนสามารถเข้ามาเป็นป่าไม้หมู่บ้านได้ตามแนวทางพระราชดำริของพระองค์ท่าน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมของพี่น้องประชาชนและทุกภาคส่วนสนับสนุนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคประชาชนในการบริหารจัดการป่าร่วมกับภาครัฐ เช่น เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านโดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างการเรียนรู้ทำความเข้าใจและเสริมความเข้มแข็งในระดับพื้นที่ รวมถึงช่วยกันบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามหลักธรรมาภิบาล

“เครือข่ายต่างๆ และหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและองค์กรชุมชนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสนับสนุนการพัฒนาป่าชุมชน จะเป็นประโยชน์ในการสนับสนุนการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตามที่ประเทศไทยได้แสดงเจตจำนงเป้าหมายในการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนในปีพ.ศ. 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปีพ.ศ. 2608 ต่อไป”

ด้าน ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานมูลนิธิป่าชุมชน ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย ประธานกรรมการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) และอุปนายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย กล่าวปาฐกถาพิเศษ "สานพลังภาคประชาชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก" ระบุว่า วันนี้เป็นวันของพี่น้องป่าชุมชนที่มารวมตัวรวมพลัง ทั้งประเทศไทยมีป่าชุมชน 10,000 กว่าแห่ง พื้นที่รวม 6 ล้านกว่าไร่ ประเทศไทยมีการพัฒนาที่เรียกว่า ยิ่งพัฒนายิ่งอ่อนแอ ยิ่งพัฒนายิ่งหลงทาง ยิ่งทำไปยิ่งหมด ยิ่งทำชนบทยิ่งอ่อนแอ ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ ยิ่งทำที่ดินก็เริ่มหมดไปอยู่กับมือของนายทุน

“ตึกรามบ้านช่อง รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่รถไฟใต้ดิน ตึกสูงเต็มไปหมด แต่ว่าพี่น้องอ่อนแอทรัพยากรธรรมชาติอ่อนแอ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมาคิดถึงการพัฒนาแบบใหม่ หัวใจที่สำคัญก็คือชุมชนคือคำตอบ ราชการคิดว่าเขาคือคำตอบ แต่ความจริงไม่ใช่ เราคือคำตอบ”

ดร.กอบศักดิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อเทียบระหว่างป่าชุมชน กับป่าที่เป็นของภาครัฐจะพบว่าป่าชุมชนจะเขียวอยู่ เพราะว่าสุดท้ายแล้วกรมป่าไม้เองก็มีเจ้าหน้าที่จำกัดในการไปดูแล แต่ว่าเราคือคนที่อยู่ใกล้ชิดกับป่าเป็นคนที่ดูแลไม่ให้ใครมาลักตัด เราไม่ใครมาบุกรุกทำลาย แล้วก็ดูแลให้ป่าเเขียวขจีอยู่เสมอ วันนี้ผมดีใจด้วยครับ ป่าชุมชน 10,000 กว่าแห่ง 6 ล้านกว่าไร่ เป็นภาพสำเร็จอย่างยิ่ง

“รัฐบาลเองก็มีภาระอย่างยิ่งในหลายหลายเรื่องกว่าจะดูแลทุกที่ทุกป่าให้เรียบร้อย จะสำเร็จได้ที่สำคัญชุมชนคือคำตอบ ชุมชนต้องช่วย แล้วเราก็ต้องพยามหาทางที่จะปลดปล่อยพลังของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นด้านสวัสดิการ ที่ชุมชนทั่วไทยสามารถเก็บออมวันละบาท ไม่กี่ปีสามารถมีเงิน 10,000,000 บาท ได้ เราสามารถทำได้โดยที่ไม่ต้องรอใคร ก็ทำป่าชุมชนนี่แหละเราสามารถดูแลป่าได้โดยไม่ต้องรอให้ราชการมาดูแลแทนเรา”

นอกจากออมเงินแล้ว ยังมีการเก็บออมมีต้นไม้ พอโตพอสามารถที่จะตัดได้ ต้นหนึ่งก็มีมูลค่า 20,000-30,000 บาท จะสามารถใช้เป็นบำนาญให้กับตนเองได้ จากนั้นทำเรื่องของบ้านมั่นคงชุมชน ทำท่องเที่ยวชุมชน วิสาหกิจชุมชน แหล่งน้ำชุมชน เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้โดยที่เอาพลังข้างในออกมา สร้างแรงบันดาลใจป่าชุมชนทั่วไทย เป็นต้นแบบให้ชุมชนรอบข้าง สิ่งที่เราต้องทำคือการสานพลังทุกภาคส่วน สร้างพันธมิตรเพิ่มขึ้นทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน สร้างโอกาสในการสานพลังให้เป็นศูนย์กลางคาร์บอนเครดิตให้กับโลก โดยป่าชุมชน เพราะในอนาคตป่าจะมีมูลค่าเป็นทองคำ ดร.กอบศักดิ์ กล่าวในตอนท้าย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทส. มอบของขวัญปีใหม่ 2569 เปิดแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติฟรีทั่วประเทศ เติมสุขประชาชน

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เดินหน้ามอบของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2569 ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ เปิดให้เข้าชมแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยยกเว้นค่าธรรมเนียม พร้อมจัดบริการอำนวยความสะดวกและกิจกรรมส่งความสุขช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย เติมเต็มความสุข และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน

“รมว.ทส. มอบนโยบายขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน เน้นรับมือไฟป่า ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว และแก้ปัญหาช้างป่า

วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) เวลา 10.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และมอบนโยบายด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงฯ ณ ห้องประชุมอาคาร กปร.

ทส. จัดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” สืบสานพระราชปณิธาน สมเด็จพระราชชนนีพันปีหลวง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

วันนี้ (24 ธันวาคม 2568) เวลา 11.00 น. ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดกิจกรรม “พิทักษ์ผืนป่า ถวายพระมารดาแห่งแผ่นดิน” โดยมีคณะผู้บริหาร ตลอดจนเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมป่าไม้ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

“รองนายกฯ สุชาติ สั่ง คพ. จับตาลักลอบทิ้งสารเคมี 24 ชม. รุกสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมฉะเชิงเทรา ตรวจพบต้องสอบทันที”

นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การลักลอบทิ้งกากของเสียและสารอันตรายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีแนวโน้มทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น

รองนายกฯ สุชาติ เรียกประชุมนัดแรก คกก.อำนวยการฯ เร่งเครื่องแก้ปัญหาหมอกควัน-ฝุ่น PM2.5 ปี 2569

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ครั้งที่ 1/2569 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568

“รองนายกฯ สุชาติ” เป็นประธาน กก.สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ EIA โครงการสำคัญ แก้ปัญหาอุทกภัย–เสริมบริหารจัดการน้ำ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2568 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล