นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวปาฐกถาพิเศษ “การบริหารนโยบายสุขภาพโดยเน้นคุณค่า สำหรับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด” ในการประชุมวิชาการเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (Easy Asthma and COPD Clinic Network annual meeting) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ณ โรงแรมเอเชีย กรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญดูแลสถานการณ์โรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด ผ่านกลไกคณะกรรมการ Service Plan สาขาโรคไม่ติดต่อ โดยเริ่มการจัดตั้ง “คลินิกคุณภาพ” ที่ให้บริการสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (Value - based Healthcare) ทำให้ในปีที่ผ่านมาคลินิกคุณภาพมีการคัดกรองดูแลและจ่ายยาโรคหืดได้ สามารถดูแลผู้ป่วยจนลดการเข้าห้องฉุกเฉินและลดการนอน รพ. ลงอย่างมาก สอดคล้องกับนโยบายที่ สธ. เดินหน้าบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ เจ็บป่วยรักษาได้ครบถ้วนเหมือนกันทุกที่ ไม่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาลใหญ่ แต่ได้รับการรักษาที่ “เข้าถึงง่าย ได้คุณภาพ” ตามแนวคิดของการจัดบริการคลินิกคุณภาพ ซึ่งคณะกรรมการ Service plan สาขาโรคไม่ติดต่อ ของสธ. จะร่วมถอดบทเรียนกับเครือข่าย EACC (Easy Asthma and COPD Clinic) ขับเคลื่อนโมเดลต้นแบบคลินิกคุณภาพ ทั้งยังช่วยลดความแออัดของสถานพยาบาล และยังเป็นการเพิ่มศักยภาพทางการแพทย์ของหน่วยบริการนั้น ๆ อีกทางหนึ่งด้วย
นพ.สุรชัย โชคครรชิตชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service Plan) สาขาโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนการพัฒนา "คลินิกคุณภาพ" ที่ให้บริการสุขภาพโดยเน้นคุณค่า (Value-based Healthcare) ซึ่งเป็นรูปแบบการบริการทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ดี เกิดคุณค่าสูงสุดในการรักษาพยาบาล โดยขยายบริการไปถึงระดับปฐมภูมิ เพื่อให้สามารถดูแลรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจในเชิงรุก มีประสิทธิภาพ โดยจากการลงพื้นที่ร่วมกับเครือข่าย EACC เห็นการทำงานเชิงรุกอย่างเข้มแข็ง พบว่าหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จในการควบคุมโรคนี้ คือการบริการเฉพาะโรค โดยผู้ป่วยที่ผ่านการคัดกรองแล้วจะได้รับบริการในคลินิกคุณภาพเพียงจุดเดียว ไม่เสียเวลารอนาน ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิเข้ามาร่วมกับโรงพยาบาล ในการสร้างเครือข่ายคลินิกคุณภาพซึ่งเป็นการจัดบริการสุขภาพในโรคเฉพาะทางโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคหืด โดยมีทีมสหวิชาชีพเข้ามาดูแลผู้ป่วยเฉพาะโรคนี้ด้วยแนวคิด “เข้าถึงง่าย ได้คุณภาพ” เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ ณ สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อเป้าหมายลดการกำเริบและนอนรพ. ของผู้ป่วยให้ได้
ส่วน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ครม. อนุมัติงบประมาณสำหรับกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 2.36 แสนล้านบาท มีการอนุมัติค่าบริการควบคุม ป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง (ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยจิตเวชเรื้อรังในชุมชน และผู้ป่วยโรคหืด) วงเงิน 1.3 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.46% เพื่อให้หน่วยบริการในทุกระดับจัดบริการ ‘คลินิกคุณภาพ’ ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดอย่างมีประสิทธิภาพผ่านกลไกการให้บริการคลินิกคุณภาพที่มุ่งเน้นให้บริการสุขภาพโดยเน้นคุณค่า เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในการรับมือกับสถานการณ์โรคที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ สปสช. ในการกระจายการเข้าถึงบริการสาธารณสุข และการยกระดับคุณภาพหน่วยบริการให้สามารถจัดบริการคลินิกคุณภาพ เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคหืดให้ ”เข้าถึงง่าย ได้คุณภาพ“ ตามแนวทางการดูแลสุขภาพโดยเน้นคุณค่า ‘Value-based Healthcare’ (VBHC)
ขณะเดียวกัน รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (EACC) กล่าวว่า แนวทางการรักษาโรคหืดในปัจจุบัน ผู้ป่วยสามารถที่จะควบคุมอาการหอบของโรคหืดได้ หรือ ”หืดไม่จำเป็นต้องหอบ” หากดูแลรักษาตัวเองอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ยาที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันมีการศึกษารองรับว่าการจัดบริการ ‘คลินิกคุณภาพ’ ที่ “เข้าถึงง่าย ได้คุณภาพ” อย่างกรณีศึกษาของเครือข่าย EACC สามารถลดการกำเริบเฉียบพลันและนอน รพ. ได้มากถึง 89% ถือเป็นโมเดลการรักษาที่มีทั้ง Simplify & Practical process นำไปปรับใช้ได้ง่าย ได้มาตรฐาน สามารถนำไปใช้ได้ในสถานพยาบาลทุกระดับ และทำโดยทีมสหสาขาวิชาชีพ มีคุณภาพ, ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลในการรักษา และปัจจุบันผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาผ่านเครือข่าย EACC ตามโรงพยาบาลและสถานพยาบาลใกล้บ้าน กว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งพร้อมสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่มุ่งสร้างเครือข่ายการให้บริการคลินิกคุณภาพให้เกิดขึ้นในสถานพยาบาลทุกระดับ โดยมุ่งหวังที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น และควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงของโรคได้อย่างยั่งยืน
นางมาเรีย คริสติช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ GSK กล่าวว่า GSK ในฐานะบริษัทด้านชีวเภสัช (Biophama) มุ่งเน้นในการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ผนวกกับเทคโนโลยี และความสามารถของบุคลากร เพื่อให้ก้าวนำการป้องกันโรคภัยต่าง ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชากร GSK พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข และร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้และแนวทางการรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โดย GSK ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่ายมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางได้เข้าถึงบริการคลินิกคุณภาพได้อย่างทั่วถึง สามารถควบคุมอาการหอบของโรคหืดและลดอัตราการกำเริบรุนแรง ลดสถิติจำนวนการเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยที่ห้องฉุกเฉินและการเข้านอนรักษา
ในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของ GSK และเป็นไปตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอยง' แจงการระบาด 'โควิด' ช่วงเทศกาลสงกรานต์
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า โควิด 19 การระบาดในช่วงสงกรานต์
“MEDEZE” พาคณะพยาบาล เข้าเยี่ยมชมกิจการ
บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE จัดกิจกรรมพาคณะพยาบาลจากโรงพยาบาลพระราม 9 เข้าเยี่ยมชมกิจการ
“DITP” เปิดตัวโลโก้ใหม่ ภายใต้แนวคิด “3E CREATE POSSIBILITIES” ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยสู่เวทีโลก
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดตัวตราสัญลักษณ์ใหม่ พร้อมจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ
‘สมศักดิ์-สปสช.’ อัดงบ 30 บาทรักษาทุกที่ เพิ่มบริการรถรับส่งผู้ป่วยทุพพลภาพ
“จิรพงษ์” แจ้งข่าวดี “สมศักดิ์-สปสช.”เพิ่มสิทธิประโยชน์ 30 บาทรักษาทุกที่ จัดรถรับส่งผู้ป่วยทุพพลภาพถึงที่ กำหนดอัตราราย
หนุนรัฐบาล 'ไม่เอาบุหรี่ไฟฟ้า' สสส.เดินหน้าประสานทุกหน่วยงานปิดจุดอ่อน ห่วงเยาวชนตกเป็นเหยื่อเสพ 'พอดเค' ยาเสพติดรูปแบบใหม่มีอันตรายถึงตายได้ พร้อมเห็นชอบแผนงานศูนย์วิจัยปัญหาสุรา พัฒนาองค์ความรู้ สร้างค่านิยมใหม่ ดันนโยบายงานเลี้ยงปลอดเหล้า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะรองประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 1 กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนงานศูนย์วิจัยปัญหาสุรา มีจุดเน้นในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรและเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนพัฒนาองค์ความรู้เพื่อผลักดันนโยบาย
'สมศักดิ์' ดันสมุนไพรไทยแทนยาแผนปัจจุบัน ชู 5 รายการใช้ได้ทันที รพ.ไหนใช้เยอะรับรางวัล 60 ล้าน
รมว.สาธารณสุข เปิดประชุมแพทย์ทั่วประเทศ เร่งส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในระบบ สปสช. หวังลดการนำเข้ายาต่างประเทศ พร้อมชูสมุนไพร 5 รายการใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้ทันที เผย สปสช.เตรียมงบ 60 ล้านเป็นรางวัลให้โรงพยาบาลที่ปรับใช้สำเร็จ ตั้งเป้าปี 69 ยอดใช้สมุนไพรในระบบไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท