นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ตามที่อธิบดีได้สั่งการให้ตรวจเข้มการรับซื้อสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้กรมการค้าภายในดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ เกิดความเป็นธรรมต่อเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรยังคงเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกที่ออกสู่ตลาด อาจทำให้เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบในการขายข้าวเปลือก จึงได้สั่งการให้สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและนายตรวจชั่งตวงวัด ตรวจสอบผู้ประกอบการโรงสีข้าวและท่าข้าวอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เพาะปลูกที่สำคัญ เพื่อดูแลไม่ให้มีการกดราคารับซื้อ ตลอดจนมีการหักลดนำหนักความชื้นและสิ่งเจือปนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด มีการแสดงราคารับซื้อ ชัดเจน เปิดเผย รวมถึงไม่ฉวยโอกาสคิดค่าชั่งน้ำหนักที่รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอีกมาตรการหนึ่งของกรมฯ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร เกิดความเป็นธรรมให้ต่อเกษตรกรและได้กำชับให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจและพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่แหล่งผลิต ตรวจสอบกำกับดูแลการรับซื้อสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในทุกพื้นที่ ล่าสุด ยังไม่พบพฤติกรรมการเอาเปรียบเกษตรกร ผู้ประกอบการให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีผู้ประกอบการคิดค่าชั่งน้ำหนักที่รับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร ไปแล้ว จำนวน 3 ราย ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษผู้กระทำความผิดตามกฎหมายแล้ว
จึงขอฝากให้ผู้ประกอบการรับซื้อสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเปลือกปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากพบว่า มีการกดราคารับซื้อ ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีไม่แสดงราคารับซื้อตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับซื้อ หรือมีการคิดค่าชั่งน้ำหนักข้าวเปลือกที่รับซื้อ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 กรณีรับซื้อข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ ตามพระราชบัญญัติการค้าข้าว พุทธศักราช 2489 กรณีใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองหรือคำรับรองสิ้นอายุในการซื้อขายสินค้า ต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีโกงเครื่องชั่งหรือใช้เครื่องชั่งตวงวัดที่มีการดัดแปลงแก้ไข ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท ตามพระราชบัญญัติมาตราชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบจะดำเนินคดีอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับ ความเป็นธรรมในการขายข้าวเปลือกหรือสินค้าเกษตรอื่น รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลยันผู้ปลูกมันสำปะหลังไม่ถูกกดราคาแน่
รัฐบาลให้ความเชื่อมั่นผู้ปลูกมันสำปะหลัง เตือนพ่อค้ากดราคา โทษจำคุกสูงสุด 7 ปี จัดสายตรวจเฉพาะกิจ ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายมันฯ ในแหล่งเพาะปลูกทั่วประเทศ รับฤดูเก็บเกี่ยวที่จะเริ่ม ธ.ค.นี้
‘พาณิชย์’ ชวนคนหาดใหญ่ สงขลา และจังหวัดใกล้เคียงแวะไป ชม ชิม ชอป ในงานแฟรนไชส์สร้างอาชีพ Roadshow 2024 ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 14 -18 พย.นี้ ที่เซ็นทรัลหาดใหญ่
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส" ให้ผู้ประกอบการ และประชาชนกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องการกระตุ้นและสนับสนุนประชาชนในทุกมิติ เน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ การลดต้นทุน การเพิ่มพื้นที่ค้าขายให้ผู้ประกอบการรายเล็ก และ
พาณิชย์ จับมือ ตำรวจภูธรภาค 8 สร้างเครือข่ายป้องปรามลานเทแยกลูกปาล์มร่วงผิดธรรมชาติ เพื่อรักษาคุณภาพผลปาล์ม ยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม
กระทรวงพาณิชย์ สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อรักษาคุณภาพผลปาล์มให้เกษตรกรขายได้ราคา โดยร่วมมือกับ ตำรวจภูธรภาค 8 ส่งเสริมการทำปาล์มคุณภาพ จัดอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เกี่ยวกับแนวทางการสืบสวนสอบสวนการกระทำความผิดตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ เรื่องมือ