การจัดการปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นวาระเร่งด่วนระดับประเทศ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตามที่นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ได้ประกาศยกระดับการปฏิบัติการจัดการในช่วงสถานการณ์วิกฤตโดยบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ทั้งกระทรวง องค์กรปกครองท้องถิ่นทำงานร่วมกันผ่าน 9 มาตรการ เพื่อจัดการปัญหาลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด
สำหรับช่วงสถานการณ์วิกฤตในช่วงเมษายนปีนี้ องค์กรเอกชนในภาคเกษตร อย่างบริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน)ผู้จัดหาวัตถุดิบทางการเกษตรเพื่อผลิตอาหารสัตว์ให้กับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล โดยการประกาศนโยบายไม่รับซื้อและไม่นำเข้าผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากพื้นที่บุกรุกป่าและเผาแปลง นำระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดมาใช้ในกระบวนการจัดหาข้าวโพดตั้งแต่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นมา ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพโปรดิ๊วส หยุดรับซื้อผลผลิตจากพื้นที่บนภูเขาลาดชัน รับซื้อผลผลิตที่มาจากแปลงปลูกมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ส่งผลให้ปัจจุบันข้าวโพดที่รับซื้อในประเทศไทยทั้งหมดสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงพื้นที่ปลูกได้ 100%
ระบบตรวจสอบย้อนกลับนับเป็นอีกกลไกสำคัญที่มีประสิทธิภาพ ช่วยยุติปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าในห่วงโซ่อุปทานข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปลอดการบุกรุกป่า และปลอดเผา ตอบรับนโยบายการแก้วิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน และช่วยให้เกษตรกรไม่เสียโอกาสจากมาตรการตัดสิทธิการช่วยเหลือชดเชยเมื่อพบการเผา
สำหรับการกำกับดูแลการเผาแปลงของเกษตรกรในห่วงโซ่อุปทาน กรุงเทพโปรดิ๊วสได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมมาช่วยติดตามและกำกับดูแลการเผาแปลงของเกษตรกร โดยเทียบกับข้อมูลพิกัดแปลงปลูกของเกษตรกรจากระบบตรวจสอบย้อนกลับ ช่วยให้บริษัทฯ พบการเผาแปลงของเกษตรกรได้แบบเรียลไทม์ทุกวัน ในกรณีที่พบการเผาแปลงบริษัทฯ จะส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับเกษตรกรเพื่อให้ความรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปลูกปลอดเผา และการจัดการเศษวัสดุที่เหมาะสม และจะหยุดรับซื้อผลผลิตเป็นเวลา 1 ปี จากแปลงที่พบเผาซ้ำเป็นรอบที่สอง
เพื่อให้การยุติการเผาแปลงอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว กรุงเทพโปรดิ๊วส บูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในรูปแบบ Public – Private Partnership เพื่อกำกับดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดในห่วงโซ่อุปทานหยุดการเผาแปลงเป็นศูนย์ ภายใต้โครงการ “Partner to Green คู่ค้าข้าวโพดพันธมิตร พิชิตหมอกควัน” ที่คิกออฟตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2566 ที่ผ่านมา ผนึกพลังพ่อค้าคนกลางที่ทำหน้าที่รวบรวมข้าวโพด เป็นเครือข่ายร่วมกันติดตามดูแลและยุติการเผาของเกษตรกร โดยกรุงเทพโปรดิ๊วสแบ่งปันข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมกรณีที่เกิดจุดความร้อนในแปลงเกษตรกรที่ลงทะเบียนในระบบตรวจสอบย้อนกลับ ให้แก่คู่ค้าพันธมิตรเครือข่ายเพื่อช่วยกันติดตามและกำกับดูแลเกษตรกรลดและหยุดการเผา
ขณะเดียวกัน กรุงเทพโปรดิ๊วสยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมวิชาการเกษตร ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับเกษตรกร ส่งเสริมการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี หรือ GAP (Good Agricultural Practices) พร้อมทั้งยังพัฒนาแอปพลิเคชัน "ฟ.ฟาร์ม" เป็นผู้ช่วยเกษตรกร เข้าถึงข้อมูลล่วงหน้าเกี่ยวกับปริมาณฝน อุณหภูมิ ลม ข้อมูลราคาและการขายผลผลิต ตลอดจนคำแนะนำการจัดการตอซัง สนับสนุนเกษตรกรเพิ่มคุณภาพผลผลิตได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ กรุงเทพโปรดิ๊วส ยังเปิดแอปพลิเคชัน “ฟ.ฟาร์ม” เป็นช่องทางการร้องเรียนพบการเผาแปลงข้าวโพด สร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนแจ้งเบาะแสการเผาแปลง โดยผู้ที่พบเห็นการเผาแปลงข้าวโพด ถ่ายรูปการเผาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแจ้งข้อมูลระบุตำแหน่งแปลงที่พบ (ตำแหน่งจีพีเอส) ผ่านทางแอป ฟ.ฟาร์ม
เมื่อได้รับแจ้งแล้ว บริษัทฯ จะตรวจสอบว่าแปลงที่เผาเป็นของเกษตรกรในระบบตรวจสอบย้อนกลับหรือไม่ และส่งทีมงานเข้าไปกำกับดูแล พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจและรับรู้ถึงผลกระทบของการเผาแปลง รวมถึง มาตรการของบริษัทฯที่จะหยุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรที่มีการเผาแปลงซ้ำเป็นเวลา 1 ปี สำหรับแปลงเผาที่ถูกร้องเรียนไม่ได้อยู่ในระบบตรวจสอบย้อนกลับ บริษัทจะประสานงานแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวกับหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลเรื่องนี้ต่อไป
การนำระบบตรวจสอบย้อนกลับมาใช้ปฏิบัติการสู้ฝุ่น เป็นอีกความมุ่งมั่นของกรุงเทพโปรดิ๊วส ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการจัดการบริหารปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 นำไปสู่การสร้างอากาศสะอาดให้กับคนไทยอย่างยั่งยืนต่อไป./
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หมากล้อมเชื่อมสัมพันธ์ ศึกลุยไถ2024 พีซีจี–ซีพีเอฟ-ซีพีแอ็กซ์ตร้า ชิงกว่า650,000บาท
สมาคมกีฬาหมากล้อมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (ซีพีเอฟ) และ บริษัท เพอร์เฟค คอมพาเนียน กรุ๊ป จำกัด (พีซีจี) และ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาหมากล้อมศึกลุยไถ 2024 เพื่อแลกเปลี่ยนฝีมือและประสบการณ์เชื่อมความสัมพันธ์ให้กับนักหมากล้อม 3 บริษัท ชิงถ้วยเกียรติยศและเงินรางวัลรวมกว่า 650,000 บาท
'หมอชูชัย' ชงยุทธศาสตร์แก้ PM2.5 หนุน HIA สร้างความเข้มแข็งชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจร่วมรับผิดชอบ
'หมอชูชัย' ชี้ปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหามลพิษทางอากาศที่สำคัญ เกิดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นประจำทุกปี ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง เสนอยุทธศาสตร์สนับสนุน HIA สร้างความเข้มแข็งอบจ.และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศ เรียกร้องภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบพัฒนาอย่างยั่งยืน