2กระทรวงใหญ่ผนึกกำลังขับเคลื่อนนิคมฯยางพารา ใช้มาตรการตรวจสอบย้อนกลับดึงนักลงทุนต่างชาติ

กยท.เดินหน้า จับมือ กนอ.ลงนาม MOU ขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมยางพาราให้เห็นผลเป็นรูปธรรม  พร้อมดึงนักลงทุนจากต่างชาติ ชูจุดเด่นตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มายาง ดันไทยก้าวขึ้นสู่ศูนย์กลางยางพาราโลก สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้ทุกภาคส่วนในวงการยางพาราอย่างยั่งยืน

ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด กยท.) เปิดเผยว่า จากภาวะฟื้นตัวของอุตสาหกรรมต่างๆทั้งในและนอกประเทศ  โดยเฉพาะอุตสาหกรรมในกลุ่มยานยนต์  ถุงมือยาง  และอุปกรณ์การแพทย์  ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยางพาราในภาพรวม  คาดว่าระหว่างปี 2567-2568 จะมีทิศทางขยายตัวอย่างต่อเนื่องทั้งด้านผลผลิตและความต้องการใช้ จะเห็นได้จากมูลค่าการส่งออกยางพาราในปี 2566 ที่ผ่านมา สามารถนำรายได้เข้าประเทศมากกว่า  60,000 ล้านบาท  กยท.ได้เล็งเห็นข้อได้เปรียบของผลิตภัณฑ์ยางพาราและโอกาสในสถานการณ์ดังกล่าว   ที่ผลักดันและสนับสนุนการลงทุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมด้านยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ  ให้เป็นจริง ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้กับเกษตรกรชาวสวนยางพาราอย่างยั่งยืน และจะทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศศูนย์กลางยางพาราโลก ตามนโยบายของรัฐบาล

ล่าสุด เมื่อเร็วๆนี้ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยางพารา   ได้จับมือกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)  รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีศักยภาพด้านการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรม  ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อการวิจัยพัฒนา การบริการวิชาการ และความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจยางพารา และธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในนิคมอุตสาหกรรม  ซึ่งกรอบแนวทางดำเนินงานภายใต้ MOU ดังกล่าว ไม่เพียงแค่ การร่วมมือกันส่งเสริม สนับสนุน การศึกษา วิจัย พัฒนา หรือการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต หรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพาราเท่านั้น แต่ยังจะสนับสนุนการลงทุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมด้านยางพาราตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ อีกด้วย

 “กรอบการดำเนินงานดังกล่าวจะช่วยเชื่อมโยงระหว่างภาคเกษตรและอุตสาหกรรมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่การเริ่มปลูก การแปรรูปน้ำยางเป็นผลิตภัณฑ์ การเพิ่มมูลค่าให้สินค้าที่ทำจากยางพารา ต่อเนื่องเป็นสายธารในการเพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามพันธกิจของ กยท. ในการสร้างความเข้มแข็ง และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทย อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตได้ตามเป้าหมายต่อไป” ประธานบอร์ด กยท.กล่าว

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. กล่าวว่า  หลังจากนี้ กยท. และ กนอ. จะร่วมทำ Road Show  เพื่อหาตลาดและนักลงทุนที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมด้านยางพารา  ซึ่งมีการจัดการระบบนิคมฯ ให้มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน  ตัวสินค้า  พื้นที่ที่รองรับ รวมทั้งนักลงทุนยังจะได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนและวัตถุดิบยาง โดยเฉพาะวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตและแปรรูปภายในนิคมอุตสาหกรรม จะสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาตามกฎระเบียบ EUDR ที่สหภาพยุโรปและอีกหลายประเทศจะนำมาใช้บังคับอีกด้วย 

ทั้งนี้ปัจจุบันประเทศไทยมีสวนยางของเกษตรกร ที่อยู่ในระบบการตรวจสอบย้อนกลับได้แล้วประมาณ 14 ล้านไร่ และตั้งเป้าจะเพิ่มสวนยางพาราให้เข้าสู่ระบบตรวจสอบย้อนกลับให้ได้ถึง 19 ล้านไร่ก่อนสิ้นปี 2567  จากพื้นที่ปลูกสวนยางทั่วประเทศกว่า 20 ล้านไร่ ซึ่งการที่ไทยเป็นแหล่งวัตถุดิบยางที่มีการจัดการเพื่อรองรับมาตรฐานสากลสามารถดึงดูดนักลงทุนทั้งจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นจากยุโรป สหรัฐอเมริกา จีน  ญี่ปุ่น  และประเทศอื่นๆ เข้ามาร่วมลงทุนได้อย่างแน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อนุทิน" ประธาน MOU 3 หน่วยงาน ส่งเสริม พัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษา และกำลังคนทุกช่วงวัย สร้างกำลังคนสมรรถนะสูงขับเคลื่อนประเทศ

วันนี้ (18 กรกฎาคม 2567) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพนักเรียน นักศึกษาและกำลังคนทุกช่วงวัย ระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

โรงเรียนดนตรีและศิลปะซิมโฟนี จับมือพันธมิตร คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือพัฒนาศาสตร์แห่งดนตรี

“ดนตรี” นับว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเยาวชนคนรุ่นใหม่ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่พร้อมเปิดประตูดนตรีและศิลปะอย่างยิ่งใหญ่

“ธรรมนัส"ฟันธงราคายางครึ่งปีหลังสดใส กยท.เดินหน้ากำหนดราคาอ้างอิงของไทย

“ธรรมนัส" ฟันธงราคายางในช่วงครึ่งปีหลัง 2567 พุ่ง พร้อมเผย นโยบายด้านยางของรัฐบาลเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม ผนวกความต้องการใช้ยางเพิ่มขึ้น และกฎเหล็ก EUDR

เอาแล้ว! ยื่นศาลรธน.เลิก 'MOU44' ยุคทักษิณ หวั่นเสียเกาะกูดให้กัมพูชา

ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และในฐานะนักกฏหมาย ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เลขรับที่ 251

'เสกสกล-ประธานกนอ.สัมพันธ์' หารือขับเคลื่อนศก.สงขลา เร่งปรับปรุงสวัสดิการพนักงานกนอ.

นายเสกสกล อัตถาวงศ์ คณะกรรมการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ในฐานะประธานกรรมการกิจการสัมพันธ์

“บีไอจี” จับมือ “กรมสรรพสามิต” ลงนาม MOU เพื่อสร้างความร่วมมือในการวัดปริมาณการปล่อย ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

บีไอจี จับมือ กรมสรรพสามิต ลงนามความร่วมมือในการจัดการตรวจสอบและวิเคราะห์ แนวทางการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้งานและการบำรุงรักษาพลังงาน รวมถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยใช้ Carbon Management Platform ที่พัฒนาโดยบีไอจี