22 ม.ค. 2567 นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลหาดประพาส ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง พร้อมพูดคุยกับผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล โดยมี นางกรกช มหายศปัญญา โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดระนอง หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและประชาชน ร่วมลงพื้นที่
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.2) กล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาตรวจสอบ ปัญหาน้ำกัดเซาะชายฝั่งทะเลหาดประพาส ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ชายหาดที่ประชาชนหรือชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยปัจจุบันชายฝั่งถูกกัดเซาะเป็นบริเวณกว้าง และลึกเข้ามาในฝั่งเป็นระยะกว่า 3 เมตร จนประชิดกับถนนเลียบชายฝั่งทะเลเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร จนสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างถนน ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรหลักของประชาชนในพื้นที่ มาเป็นระยะเวลายาวนาน จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขการกัดเซาะชายฝั่งทะเล เพื่อป้องกันการมิให้เกิดสูญเสียดินแดนและความเสียหายต่อทรัพย์สินของราชการ และบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า จากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลในพื้นที่ดังกล่าว กระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและออกแบบรายละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นระบบ ในระบบกลุ่มหาดหลักทะเลอันดามันตอนบน (T7) ครอบคลุมพื้นที่ตั้งแต่อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง ถึง พื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต มีความยาวชายฝั่งรวมทั้งสิ้น 452.02 กิโลเมตร จากการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งจังหวัดระนอง พ.ศ.2562-2566 พบว่ามีพื้นที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ที่จะต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนก่อนพื้นที่ศึกษา 2 พื้นที่ ได้แก่ 1.พื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดทะเลนอก 2.พื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดประพาส สำหรับพื้นที่ชายฝั่งทะเลหาดประพาส ตำบลกำพวน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง รวมระยะทาง 1,130 เมตร ซึ่งกรมฯ ได้รับคำขอโครงการจากท้องถิ่น ในการคัดเลือกพื้นที่ดำเนินการตามระดับความรุนแรงของการกัดเซาะ เพื่อป้องกันพื้นที่ชุมชนเส้นทางคมนาคมสายหลักที่ใช้ในการเดินทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน และสถานีวิจัยฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการกัดเซาะ
ปัจจุบันกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในพื้นที่ ครั้งที่ 1 เมื่อ 11 มกราคม 2567 โดยมีการประชาสัมพันธ์แนะนำโครงการชี้แจงขอบเขต และแนวทางการศึกษาออกแบบการประเมินสิ่งแวดล้อม พร้อมเสนอรูปแบบ ข้อดี ข้อด้อย ทางเลือกป้องกันชายฝั่งเบื้องต้น อย่างน้อย 7 ทางเลือกเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ เข้ามามีส่วนร่วมทุกขั้นตอน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดข้อมูลใหม่ปม 'ปมกระโดง' พิรุธแผนที่การรถไฟฯรุกสิทธิชาวบ้าน
ปมพิพาทพื้นที่บริเวณเขากระโดง กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้งเมื่อ “ทรงศักดิ์ ทองศรี” รมช.มหาดไทย (มท.2) และ “กรมที่ดิน” ลงพื้นรับฟังปัญหาความเดือดร้อนพี่น้องประชาชน และหน่วยราชการ ในพื้นที่เขากระโดงใน จังหวัดบุรีรัมย์
"อนุทิน" ขอบคุณ "เพื่อนเลิฟ" เป็นสะพานบุญ ปฏิบัติภารกิจ "หัวใจติดปีก" หลังบินด่วนร้อยเอ็ด ส่งทีมแพทย์ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ
หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วย ทีมแพทย์ นำโดย นพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ครม. เคาะแต่งตั้ง '26 พ่อเมือง-7 ผู้ตรวจฯ' มท.จัดแถวสิงห์ล็อตใหญ่
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนครี เปิดเผย หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติอนุมัติแต่งตั้ง
คนงานรถไฟจี้ผู้ว่ารฟท.ฟ้องบังคับคดีที่ดินเขากระโดงตามคำพิพากษาของศาล
‘สมาพันธ์คนงานรถไฟ’ จี้ผู้ว่ารฟท.ดำเนินคดีผู้บุกรุกที่ดินเขากระโดงตามคำพิพากษาของศาลโดยไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลการการเมือง โต้ ‘รมช.มท.-อธิบดีกรมที่ดิน’ อ้างปชช.อยู่มาก่อน2460 เป็นความเท็จ มีแต่ชาวบ้านริดรอนสิทธิ์รฟท. ลากไส้’นักการเมือง’ เคยยอมรับอาศัยอยู่ในที่ดินรฟท.ตั้งแต่ปี 2513 แล้วใช้อิทธิพลออกเอกสารสิทธิ์ ย้ำแผนที่ถูกกำหนดชัดเจนตั้งแต่ปี2462
'มท.2' ควงอธิบดีที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทกับ รฟท.
'มท.2' ควงอธิบดีกรมที่ดิน ลงพื้นที่เขากระโดง พิสูจน์ปมพิพาทที่ดิน รฟท. ชาวบ้าน 2 ตำบล โชว์เอกสารสิทธินส.3 หลักฐานยันอาศัยอยู่ตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เรียกร้องความยุติธรรม
ครม.อนุมัติร่างประกาศ มท. กำหนดจำนวนคนต่างด้าวขอมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.