“รวมไทยสร้างชาติ” เดินหน้าเสนอแก้กฎหมายปลดล็อคประชาชนติดเครดิตบูโรยาวนานให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้ง่าย ลดปัญหาถูกขึ้นบัญชีดำ จนหันไปกู้เงินนอกระบบ

เมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่รัฐสภา นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกอบด้วย รศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง สส.บัญชีรายชื่อ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร นายพงษ์มนูญ ทองหนัก สส.พิษณุโลก นายธานินท์ นวลวัฒน์ สส.สุราษฎร์ธานี นายนิติศักดิ์ ธรรมเพชร สส.พัทลุง และ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร สส.นครปฐม ร่วมแถลงมติพรรคในการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ติดเครดิตบูโรจน์ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถกู้เงินจากธนาคารของรัฐได้

นายวิทยา กล่าวว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีมติเสนอกฎหมายฉบับแรกต่อสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ ตั้งแต่ตั้งรัฐบาลมา ถือเป็นกฎหมายฉบับแรก ที่เสนอโดยพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน หลังจากสถานการณ์โควิด ประชาชนเกิดวิกฤตเกี่ยวกับบัตรเครดิต และหนี้สินภาคธุรกิจ ทำให้ประชาชนมีปัญหาด้านการเงิน

นายวิทยา กล่าวว่า ความเป็นมาของพ.ร.บ.ประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ.2545 เป็นเรื่องของการเตรียมการ เพื่อป้องกันระบบธนาคาร เกิดความเสียหาย แต่ระยะเวลาที่ใช้มาช่วงที่บ้านเมืองมีวิกฤตโดยเฉพาะสถานการณ์โควิด ที่ผ่านมาคนที่เสียหายกับเป็นประชาชนลูกหนี้ธนาคารทั้งหมด ดังนั้นทางเดียวที่จะปลดไม่ให้ประชาชนเป็นหนี้ และต้องหนีจากระบบธนาคารไปสู่หนี้นอกระบบ ซึ่งจะเป็นปัญหามากในอนาคต คือ ต้องมีการแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตแห่งชาติ พ.ศ.2545

ทั้งนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีมติเสนอแก้ไขกฎหมายทั้งหมด 5 มาตรา สาระสำคัญคือ วันนี้ใครที่เป็นหนี้กับธนาคาร แม้จะได้ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว แต่รายชื่อของตัวเองยังติดอยู่ในระบบเครดิตบูโรอีก 3 ปี ลูกหนี้รายใดที่ผ่อนชำระตามเงื่อนไขที่ตกลงกับธนาคารไว้แล้ว เครดิตบูโรก็ยังติดชื่อไว้อีก 3 ปี

รวมไปถึงลูกหนี้ที่สู้คดีชนะในชั้นศาล เมื่อศาลพิพากษาว่าหนี้เกินกำหนดระยะเวลาบังคับคดีแล้ว ลูกหนี้รายนั้น ก็ยังคงมีชื่อติดอยู่ในเครดิตบูโร 3 ปี การติดเครดิตบูโร ทำให้ประชาชนเสียโอกาส จะถูกต่อรองจากธนาคาร กู้ไม่ได้ หรือถ้ากู้ได้ก็ต้องเสียดอกเบี้ยสูงกว่าปกติประชาชน และธุรกิจบางส่วนที่ล้มละลายหรือไม่ล้มละลายในช่วงโควิดต้องหนีไปพึ่งหนี้นอกระบบ ดังนั้นมีทางเดียวคือการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้

“การแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ มีหลักการว่า ลูกหนี้รายใดที่ศาลมีคำพิพากษาว่า เป็นหนี้ที่ขาดอายุความแล้ว จะต้องปลดล็อคออกจากบัญชีเครดิตบูโรทันที ลูกหนี้ที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้วไม่ต้องรอเวลา 3 ปี ข้อมูลเครดิตต้องถูกถอดออกทันที และลูกหนี้รายใดที่ตกลงกับเจ้าหนี้ เรื่องการผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 6 เดือน ก็สามารถปลดล็อคจากเครดิตบูโรได้ จะทำให้ลูกหนี้เหล่านี้ กลับเข้าสู่ระบบได้อีกครั้งหนึ่ง การแก้ไขพ.ร.บ.ฉบับนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติ มีความตั้งใจว่า เราจะลดหนี้สินภาคครัวเรือน และหนี้สินภาคธุรกิจที่กำลังระบาด และทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวในปีหน้า ฉะนั้นพ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเป็นของขวัญให้กับประชาชน ที่ติดอยู่ในระบบเครดิตบูโรทั้งหมด หวังว่าสภาฯ จะได้พิจารณากฎหมายฉบับนี้ในเร็ววัน”นายวิทยากล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ธนกร' ยัน รทสช. มี DNA จากพลเอกประยุทธ์

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า ช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างสร้างชาติ ได้กำชับ

รัฐมนตรีช่วยฯ 'สุชาติ' เปิดบ้านพรรครวมไทยสร้างชาติ ชลบุรี ต้อนรับประชาชนร่วมยินดีเข้ารับตำแหน่ง ลั่น ขอทำงานเพื่อชาติ

พรรครวมไทยสร้างชาติ ชลบุรี ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เปิดบ้านต้อนรับนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี สมาคม ผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งทีมรวมไทยสร้างชาติ นำโดย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และประชาชนชาวชลบีรี กว่า 2,000 คน

'ธนกร' ขวาง 'ปิยบุตร' ปลุกแก้ปลายเหตุ นิรโทษเหมาเข่งคดี 112

'ธนกร' ค้าน 'ปิยบุตร' ชี้แค่ปลายเหตุนิรโทษคนผิด ม.112 ไม่เห็นด้วยยกโทษคนหมิ่นสถาบัน เหยียบย่ำหัวใจคนไทยมากไป จี้แก้ให้ตรงจุด จัดการตัวการบิดเบือนใส่ข้อมูลเท็จ-เบื้องหลังเยาวชนดีกว่า

'พีระพันธุ์' ต่อสายคุย 'กฤษฎา' ยืนยันลาออก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีนายกฤษฎา จีนะวิจาร